รวบ"เดียร์ พรางชมพู"ยิงอริผิดตัว

ตำรวจปทุมธานีจับ"เดียร์ พรางชมพู"ผู้ต้องหายิงคู่อริผิดตัวคามอเตอร์เวย์ พบประวัติโชกโชนเอี่ยวยาเสพติด

วันนี้ (6มิ.ย.) ตำรวจสภ.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จับกุม นายกิตติ  พรมชัยสงค์ หรือเดียร์ พรายชมพู อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35/44 หมู่ 2 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ผู้ต้องหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา พร้อมของกลาง อาวุธปืน FNC ขนาด 5.65 มม.ทาสีชมพู 1 กระบอก รถยนต์กระบะคันก่อเหตุ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน ฒต 8046 กรุงเทพมหานคร 
 

ทั้งนี้ นายกิตติเป็น 1 ในกลุ่มคนร้ายที่ร่วมกับนายเอ (นามสมมุติ)อายุ 17 ปี ที่ถูกควบคุมตัวดำเนินคดีไปก่อนหน้า ส่วนนายมานะ (หรือนะ) พูนโมมะดันและนายสมเกียรติ (หรือเกียรติ) หนูรัตน์ ซึ่งยังหลบหนี ได้ร่วมกันใช้ในการก่อเหตุ ฆ่านายปฏิญญา (หรือโอ๊ด) ปริมประภา เสียชีวิต และ น.ส.บุณยาพร (หรือแพตตี้) สู่คง ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบนถนนวงแหวนกาญจนาพิเษกฝั่งตะวันออก ขาเข้า พื้นที่รับผิดชอบ สภ.คูคต เมื่อคืนวันที่ 14 พ.ค. ที่ผ่านมา ภายหลังกลับจากไปดูการแข่งรถ ที่สนามแข่งบางกอกแดรกอเวนิว ต.คลองห้า อ.คลองหลวง
 
นายกิตติ ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ขับขี่รถยนต์กระบะ วีโก้ และ นายมานะ เป็นคนทำหน้าที่ยิง ด้วยอาวุธปืนสงครามจนหมดแม็กจำนวน 18 นัด เป็นเหตุให้ นายปฏิญญา เสียชีวิตคาพวงมาลัยรถยนต์เก๋ง ซึ่งกลุ่มผู้ต้องหาได้ยิงผิดตัว จุดประสงค์ต้องการที่จะยิง นายฐากูร (หรือนายอั๋น) นันทวงศ์ ขณะเดินทางมากับกลุ่มเพื่อนที่มาชมการแข่งรถที่สนามแข่งรถบางกอกแดรกอเวนิว ต.คลองห้าด้วยกัน 4 คน ด้วยรถยนต์เก๋ง 2 คัน

อย่างไรก็ตามก่อนออกจากสนามแข่งรถได้สลับเปลี่ยนย้ายไปนั่งรถยนต์เก๋งยี่ห้อ บีเอ็มดับบลิวแทน โดยให้ นายปฏิญญา ผู้ตาย มาขับรถยนต์เก๋ง ฮอนด้า ซิตี้ ที่ นายฐากูรเป็นคนขับมา เพราะรู้ตัวว่ามีกลุ่มคู่อริปองร้ายหมายชีวิต  เนื่องจากก่อนหน้านี้ ทั้ง 2 กลุ่มเคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน เคยก่อเหตุชกต่อย และไล่ยิงกันมาแล้วหลายครั้ง เมื่อพบปะกัน โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ ย่านสายไหม ท่าแร้ง กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของผู้เสียหายและผู้ก่อเหตุทั้ง 2 กลุ่ม
 
สำหรับนายกิตติ นั้น มีประวัติโชกโชน และเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติด จนได้ฉายาว่า เดียร์ พรางชมพู เพราะอาวุธปืนที่ใช้จะทาสีชมพู เพื่อปิดบังสายตาคนอื่นให้มองว่าเป็นปืนปลอม ส่วนสาเหตุที่ขัดแย้งกับนายฐากูร นั้น ก็คาดว่ามาจากเรื่องหักหลังการค้ายา จนถึงขณะนี้นายฐากูร คู่กรณีของนายเดียร์ ก็ยังไม่เคยปรากฏตัวแต่อย่างใด