posttoday

‘อารีย์ การ์เด้น’ สวนหลังบ้านชาวชุมชนอารีย์

17 กุมภาพันธ์ 2555

พื้นที่ตรงข้ามกระทรวงการคลังกว่า 1 ไร่ ติดถนนในซอยอารีย์สัมพันธ์ ถ้าไม่ถูกนำไปสร้างเป็นอาคารพาณิชย์

พื้นที่ตรงข้ามกระทรวงการคลังกว่า 1 ไร่ ติดถนนในซอยอารีย์สัมพันธ์ ถ้าไม่ถูกนำไปสร้างเป็นอาคารพาณิชย์

โดย...ปอย

พื้นที่ตรงข้ามกระทรวงการคลังกว่า 1 ไร่ ติดถนนในซอยอารีย์สัมพันธ์ ถ้าไม่ถูกนำไปสร้างเป็นอาคารพาณิชย์ ก็จะถูกแทนด้วยคอนโดมิเนียมที่สร้างเม็ดเงินมูลค่าสูงได้อย่างรวดเร็ว แต่เมื่อพื้นที่ผืนนี้อยู่ในมือผู้บริหารรุ่นใหม่ตระกูลทศไนยธาดา จึงทำให้เกิดพื้นที่สีเขียวอันร่มรื่นขึ้นมา แทนที่จะเป็นการเติบโตของแท่งคอนกรีตตึกสูงเสียดฟ้า

ปณิดา ทศไนยธาดา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีโอยู ดิเวลลอปเมนท์ และผู้บริหารโครงการอารีย์ การ์เด้น กล่าวว่า ศูนย์การค้าในสไตล์ Neiborghood Shopping Mall หรือศูนย์การค้าของชุมชนที่มีขนาดเล็กรูปแบบนี้ น่าจะเกิดขึ้นจากวิถีการใช้ชีวิตของคนที่เปลี่ยนแปลงไป เมืองขยายตัวอย่างรวดเร็ว การจราจรคับคั่ง ทำให้รูปแบบในชีวิตประจำวันของคนยุคนี้ต้องเร่งรีบแข่งขันกับเวลามากยิ่งขึ้น ช็อปปิ้งมอลล์ขนาดไม่ใหญ่โตที่จะไปจับจ่ายใช้สอยสินค้าบริการกันได้ใกล้ๆ บ้าน สะดวกและสบาย จึงสอดคล้องกับชีวิตยุคปัจจุบันอย่างสูงสุด

กอปรกับการถ่ายทอดแนวคิดหลักของการสร้างธุรกิจ ปณิดา บอกใฝ่ฝันสร้างสรรค์ “สวนหลังบ้าน” ให้กับคนชุมชนนี้ โดยดีไซน์ช็อปปิ้งมอลล์ให้กลายเป็นพื้นที่สีเขียว มีที่นั่งเล่น แหล่งพักผ่อน ที่รับประทานอาหาร ที่ซื้อขนมฝากลูกๆ และกลายเป็นปอดขนาดย่อม เปิดต้อนรับผู้คนที่ผูกพันกับซอยอารีย์สัมพันธ์ เป็นการทำธุรกิจค้าปลีกซึ่งปรับตัวให้เข้ากับสภาพการเปลี่ยนแปลง และกลายเป็นศูนย์การค้าที่เป็นส่วนหนึ่งของชุมชนได้อีกด้วย

จุดนัดพบสวน (สวย) หลังบ้าน

ตัวอาคารเลือกใช้วัสดุธรรมชาติ เหล็ก ไม้ อิฐ ปูน กลมกลืนกับต้นไม้เหมือนเป็นส่วนเดียวกัน ทำให้รู้สึกราวกับเดินเล่นอยู่ในสวนมากกว่าช็อปปิ้งมอลล์ เพื่อคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ความเป็นสวนหลังบ้านของครอบครัวชาวอารีย์

ผู้ออกแบบแลนด์สเคปโครงการอารีย์ การ์เด้น สายขิม สายสมุทร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สายขิม การ์เด้น วิซาร์ด กล่าวว่า ได้รับโจทย์ให้สร้างสรรค์ “อารีย์ การ์เด้น” โดยดีไซน์ให้เป็นสวนป่าที่ยั่งยืน พันธุ์ไม้ส่วนใหญ่ที่จัดวางจึงเป็นไม้ยืนต้นที่สูงชะลูด เพื่อให้ร่มเงาทั้งแก่สวนและตัวอาคารศูนย์การค้า ซึ่งพันธุ์ไม้ส่วนใหญ่ก็เลือกให้เหมาะสมกับสภาวะอากาศภายในโครงการ นอกจากรอต้อนรับลูกค้าเมืองหลวงด้วยธรรมชาติอันร่มรื่นของแมกไม้นานาพันธุ์แล้ว ยังมีลำธารฟรีฟอร์ม เพื่อให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับเสียงน้ำกระทบหินตามธรรมชาติ

“ซอยอารีย์เป็นย่านที่อยู่อาศัยอันเก่าแก่ สังเกตบ้านเรือนของผู้คนและต้นไม้ที่ล้วนแล้วแต่เป็นไม้ยืนต้นอายุยาวนาน ดิฉันเองมีความผูกพันกับย่านนี้ เมื่อมีโอกาสพัฒนาพื้นที่ในบริเวณนี้ แนวคิดของ ‘อารีย์ การ์เด้น’ จึงเกิดขึ้นเป็นการทำตามแนวคิดสร้างพื้นที่สีเขียว มีที่นั่งเล่นใต้ต้นไม้เหมือนเรานั่งอยู่สวนหลังบ้าน คือคนย่านนี้ส่วนใหญ่ก็อาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมที่คงหาสวนสวยๆ เงียบๆ นั่งพักผ่อนกันยากแล้วนะคะ” ปณิดา นักธุรกิจเลือดใหม่บอก และเล่าถึงที่มาที่ไปของช็อปปิ้งมอลล์รักษ์ต้นไม้แห่งนี้ เกิดขึ้นได้ด้วยความชอบป่า ชอบธรรมชาติ ชอบความสงบ แต่เมื่อตัดสินใจเลือกทำธุรกิจนี้ จึงเลือกโจทย์ไม่เน้นค้าขายแข่งขันกันแบบช็อปปิ้งมอลล์ทั่วไป แต่ขอวางตัวเป็นศูนย์การค้าซึ่งมีพื้นที่ขนาดเล็กเพียง 8 ห้อง ให้พี่ๆ เพื่อนๆ คนรู้จักกันมาค้าขายในแบบมือสมัครเล่น

“ความฝันของดิฉันไม่ใช่ทำศูนย์การค้าฮิปๆ ดังๆ แต่คือความมุ่งมั่นสร้างเอกลักษณ์ ‘อารีย์ การ์เด้น’ ให้มีพื้นที่ส่วนกลางเป็นพื้นที่สีเขียว มีต้นไม้กว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ คนมาเดินเที่ยวก็จะได้สูดออกซิเจนได้อย่างเต็มปอด แล้วอีกครึ่งของพื้นที่ที่เหลือ 50 เปอร์เซ็นต์ ก็ออกแบบให้เป็นร้านค้าขนาดเล็ก มีรูปแบบกลมกลืนไปกับสวนสีเขียวได้เป็นอย่างดี แนวคิดนี้จึงต้องเริ่มต้นที่การดีไซน์พื้นที่สวนก่อนค่ะ ดิฉันก็ให้โจทย์นักออกแบบแลนด์สเคปว่าต้องการพื้นที่ป่าในเมือง มีบ่อปลาฟรีฟอร์ม มีทางเดินสะพานไม้ข้าม มีพื้นที่สวนส่วนกลางแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนหน้าและหลัง สีเขียวคลุมพื้นที่ทั้งศูนย์การค้า

สำหรับต้นไม้ยืนต้นมี 6 ต้น 6 ชนิด ดิฉันเลือกมาจากบ้านสนามกอล์ฟเลควูด บางนา เน้นไม้ผลัดใบในช่วงสั้นๆ เช่น หว้า สมอ ราชพฤกษ์ ทองกวาว ประดู่ อินทนิล จิก ต้นไม้ที่เลือกมาไม่ผลัดใบในช่วงเดียวพร้อมๆ กันนะคะ แต่จะสลับๆ กันแตกใบ ทำให้ร่มครึ้มทั้งปี และต้นไม้ริมแนวรั้วเลือกต้นจั๋ง โดยเล่นการดีไซน์ระดับกลางไล่สายตาเลาะริมน้ำไปเจอต้นจิก แล้วไล่ระดับพื้นดินให้มีไม้ประดับ ไม้ล้มลุกคลุมพื้นดินเพิ่มเติมอีก ภาพรวมของศูนย์การค้าใช้แลนด์สเคปต้นไม้คือตัวยืน ส่วนโครงสร้างตึกคือตัวเสริมค่ะ” ปณิดา อธิบาย

วิถีชีวิตใต้เงาไม้อันร่มรื่น

ผู้บริหารศูนย์การค้ายุคใหม่ ปณิดา บอกที่จริงอยากได้พื้นที่สีเขียวมีต้นไม้เยอะกว่านี้ แต่ธุรกิจก็ต้องอยู่ได้ด้วย แต่ความที่โครงการใช้ที่ดินไม่มากนักในพื้นที่ไม่ถึง 1 ไร่ ทำให้ระยะเวลาก่อสร้างไม่นานจึงสามารถคืนทุนได้เร็ว

“การทำธุรกิจบริหารพื้นที่ช็อปปิ้งมอลล์ คงเป็นไปได้ยากที่จะทำให้อีโคร้อยเปอร์เซ็นต์ ดิฉันยกตัวอย่างเช่น ถ้าจะใช้แผ่นโซลาร์เซลล์ผลิตกระแสไฟฟ้า ก็น่าจะผลิตไฟฟ้าใช้ได้แค่ห้องน้ำ 1 ห้อง หรือการใช้กังหันลมสำหรับพื้นที่ขนาดเล็ก ก็คงไม่ประหยัดเท่ากับทำบ่อเลี้ยงปลาที่ทำให้นิเวศสร้างระบบธรรมชาติขึ้นมาเอง แต่ที่ประหยัดได้แน่นอนเลยค่ะ คือ การปลูกต้นไม้คลุมทั้งพื้นที่ เปรียบเทียบกับเมื่อตอนก่อสร้างใหม่ๆ ในช่วงปีแรกร้อนมากๆ เพราะต้นไม้ยังไม่โต พอครบ 1 ปี ต้นไม้เติบโตอากาศก็เย็นขึ้นมากๆ ดิฉันเดินเข้ามาจากถนนร้อนๆ ไม่เคยวิ่งหาห้องแอร์เลย แค่นั่งเล่นอยู่ในสวนข้างนอกก็สบาย หายเหนื่อยแล้ว” ปณิดา บอกเล่า

“อารีย์ การ์เด้น” แหล่งพบปะใต้เงาไม้อันร่มรื่นดุจสวนหลังบ้านของชาวชุมชนอารีย์ จัดงาน Happy First Birthday “Aree Garden” ฉลองวาระครบรอบ 1 ปี อย่างอบอุ่นเมื่อเดือน ก.ค.ปีที่ผ่านมา ในบรรยากาศสบายๆ เป็นกันเอง ด้วยกิจกรรมสนุกๆ อาหารแสนอร่อย และดนตรีสบายๆ ท่ามกลางธรรมชาติอันสดชื่น เป็นวิถีชีวิตที่เปี่ยมสีสันแบบโลกยุคปัจจุบัน พร้อมเตรียมแผนขยายสวนหลังบ้านแห่งนี้ด้วยการสร้างสีสันใหม่ๆ เพื่อมอบความสุขให้แก่เพื่อนบ้านชุมชนอารีย์และบุคคลทั่วไปอย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น

“เราอยากทำให้สวนแห่งนี้เป็นศูนย์กลางของคนที่อยู่ในย่านนี้จริงๆ ค่ะ ทุกสุดสัปดาห์ก็จะมีกิจกรรมเวิร์กช็อปอบรมการเย็บสมุด การทำสแครปบุ๊ก และการเปิดร้านสินค้าทำมือจากไทยคราฟต์ สอนเด็กๆ เพนต์ก้อนหิน” ปณิดา เล่าพลางเอ่ยชวนมาร่วมกิจกรรมชิลชิล กันเองๆ กันได้

“อารีย์ การ์เด้น” คือความเป็นสวนหลังบ้านที่เป็นแหล่งพบปะของเพื่อนบ้านในชุมชนภายใต้เงาไม้อันร่มรื่น และนี่คือการสร้าง “มูลค่าทางใจ” ที่สำคัญยิ่งต่อการสร้าง “ความผูกพัน” ให้แก่แบรนด์ได้เป็นอย่างดี

&<2288;

&<2288;
 

 

ข่าวล่าสุด

เสนอพรรคการเมือง 3 ทางออก ‘บุหรี่ไฟฟ้า’ ต้อง 'ห้ามซื้อขาย' เด็ดขาด