posttoday

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจิรประวัติวรเดช

05 กุมภาพันธ์ 2555

จอมพล พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจิรประวัติวรเดช กรมหลวงนครไชยศรีสุรเดช

จอมพล พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจิรประวัติวรเดช กรมหลวงนครไชยศรีสุรเดช

โดย..วิมลพรรณ ปีตธวัชชัย

เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับเจ้าจอมมารดาทับทิม ธิดาพระยาอัพภันตริกามาตย์ (ดิศ โรจนดิศ) ประสูติเมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2419 ในพระบรมมหาราชวัง ทรงสำเร็จการศึกษาชั้นต้นจากโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ ได้เป็นพระราชโอรสกลุ่มแรกในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่เสด็จไปทรงศึกษาต่อในประเทศยุโรป พร้อมด้วย พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ากิติยากรวรลักษณ์ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ ต้นราชสกุล กิติยากร ณ อยุธยา พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ต้นราชสกุล รพีพัฒน์ ณ อยุธยา และพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประวิตรวัฒโนดม กรมหลวงปราจิณกิติบดี ต้นราชสกุล ประวิตร ณ อยุธยา

ด้วยสายพระเนตรยาวไกลของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ได้ทรงส่งพระราชโอรสไปศึกษาในประเทศต่างๆ เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับราชสำนักในยุโรปและความสัมพันธ์ใกล้ชิดดุจพระญาติเช่นนี้ ก่อให้เกิดคุณอย่างอเนกอนันต์แก่ประเทศชาติในเวลาต่อมาด้วย

เพราะพระราชโอรสแต่ละพระองค์ล้วนเป็นกำลังสำคัญของพระราชบิดาในการพัฒนาประเทศทุกๆ ด้าน ทุกพระองค์ต่างทรงงานหนักในการบุกเบิกกิจการต่างๆ ของประเทศสยามในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงพัฒนาประเทศ เพื่อเผชิญหน้ากับภัยคุกคามจากการล่าอาณานิคมของประเทศมหาอำนาจตะวันตก

พระองค์เจ้าจิรประวัติวรเดชทรงศึกษาวิชาทหารที่ประเทศเดนมาร์ก เมื่อปี พ.ศ. 24342437 ได้รับพระราชทานพระยศเป็นนายร้อยตรีแห่งกองทัพบกประเทศเดนมาร์ก จากนั้นทรงเข้าศึกษาในโรงเรียนชั้นสูงสำหรับนายทหารทั่วไป เมื่อทรงสอบวิชาทหารปืนใหญ่ได้แล้ว ในปี พ.ศ. 2439 จึงออกไปฝึกราชการอยู่ในกรมทหารปืนใหญ่สนามของประเทศเดนมาร์ก

เมื่อเสด็จกลับมายังประเทศไทยในปี พ.ศ. 2440 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างวังริมคลองมหานาค บริเวณสะพานกษัตริย์ศึก พระราชทานเพื่อใช้เป็นที่ประทับ จึงทรงเรียกวังที่ประทับนี้อย่างง่ายๆ ว่า วังมหานาค ตามชื่อคลองที่ไหลผ่านหน้าวัง พระองค์เจ้าจิรประวัติวรเดชทรงเข้ารับราชการในกองทัพบกและกระทรวงกลาโหม ทรงดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการ กรมยุทธนาธิการ ปลัดกองทัพบก เสนาธิการทหารบกและเสนาบดีกระทรวงกลาโหม ขณะดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงกลาโหมได้ทรงปรึกษากับสมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ เสนาธิการทหารบก ถึงความจำเป็นที่ประเทศไทยจะต้องมีเครื่องบินไว้ใช้ป้องกันประเทศเหมือนอย่างอารยประเทศ และทรงริเริ่มจัดตั้งกองบินทหารบก ได้พัฒนาเป็นกองทัพอากาศไทยมาถึงทุกวันนี้

นอกจากจะทรงดำรงตำแหน่งสำคัญๆ ทางทหารหลายตำแหน่ง ประกอบกับมีพระวิริยอุตสาหะเป็นอย่างยิ่งในการปฏิบัติพระภารกิจทั้งปวง ถึงแม้พระสุขภาพพลานามัยจะไม่ดี พระองค์ยังทรงดำรงตำแหน่งองคมนตรีในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในปี พ.ศ. 24412453 และองคมนตรีในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ในปี พ.ศ. 24532456

ในด้านการต่างประเทศ พระองค์ได้รับพระกรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้เสด็จฯ แทนพระองค์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ไปในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระจักรพรรดินิโคลัสที่ 2 และสมเด็จพระจักรพรรดินีอเล็กซานดรา เฟโอโดรอฟนา แห่งรัสเซีย ณ กรุงมอสโก ในปี พ.ศ. 2431 และเสด็จฯ แทนพระองค์ไปในงานพระราชพิธีรัชดาภิเษก พระเจ้าออสการ์ที่ 2 แห่งสวีเดนและนอร์เวย์ ณ กรุงสตอกโฮล์ม ในปี พ.ศ. 2440 ด้วย

พระองค์เจ้าจิรประวัติวรเดช ได้ทรงกรมเป็น กรมหมื่นนครไชยศรีสุรเดช ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และได้รับสถาปนาพระอิสริยศักดิ์ขึ้นเป็น กรมหลวงนครไชยศรีสุรเดช ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์มีพระชายาเพียง 2 พระองค์ คือ ม.จ.หญิงประวาศสวัสดี โสณกุล และ ม.จ.หญิงสุมนมาลย์ โสณกุล พระธิดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสณบัณฑิต กรมขุนพิทยลาภพฤฒิธาดา พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับคุณท้าววรจันทร์ มีพระโอรสธิดา กับ ม.จ.หญิงประวาศสวัสดี 4 พระองค์ มีพระโอรสกับ ม.จ.หญิงสุมนมาลย์ 2 พระองค์ ทรงมีทายาทผู้สืบสกุลจิรประวัติ อันเป็นที่รู้จักกันดีในสังคมไทยปัจจุบัน คือ ม.ล.จิราธร จิรประวัติ บุตรชายของ ม.ร.ว.วัฒนาธร จิรประวัติ ซึ่งเป็นหลานปู่ใน ม.จ.นิทัศนาธร จิรประวัติ และหม่อมอนุวงศ์ กุญชร ณ อยุธยา ผู้เป็นธิดาของพระยาเทเวศร์วงศ์วิวัฒน์ (ม.ล.วราห์ กุญชร)

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจิรประวัติวรเดช กรมหลวงนครไชยศรีสุรเดช ทรงดำรงตำแหน่งทางทหารและอุทิศพระองค์เพื่อพัฒนากองทัพไทยมาโดยตลอด พระองค์ทรงดำรงตำแหน่งจอมพลคนแรกแห่งกองทัพบกสยามมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2454 หลังจากนั้นอีกเพียง 2 ปี พระองค์ก็สิ้นพระชนม์ด้วยพระชันษาเพียง 37 ปี ในวันที่ 4 ก.พ. 2456 ทรงได้รับการยกย่องให้เป็นพระบิดาแห่งกองทัพบกไทย ในปัจจุบันกองทัพบกได้อัญเชิญพระนามของพระองค์ไปเป็นนามของค่ายทหาร จึงปรากฏชื่อค่ายทหารว่า ค่ายจิรประวัติ ที่ จ.นครสวรรค์ เพื่อรำลึกพระเกียรติคุณของพระองค์ที่ได้ทรงมีส่วนอย่างมากในการบุกเบิกและพัฒนากองทัพไทย

สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ทรงพระนิพนธ์ถึงพระอัธยาศัยบางประการของ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจิรประวัติวรเดช กรมหลวงนครไชยศรีสุรเดช ในฐานะนายทหารไว้ว่า

“ข้าพเจ้าเคยได้ยินนายทหารเล่าให้ฟังว่า เมื่อแรกกรมหลวงนครไชยศรีฯ พาทหารออกไปฝึกหัดสนามที่เมืองราชบุรี ถึงเวลาค่ำลงนายทหารพากันปรารภว่าจะนอนอย่างไร กรมหลวงนครไชยศรีฯ ได้ยินรับสั่งว่าไม่ยากอันใด จึงรับสั่งเรียกให้หากระดานมาได้แผ่นหนึ่ง เอากระดานวางลงบนแผ่นดิน แล้วขึ้นบรรทมบนแผ่นกระดานนั้นจนหลับไปตั้งแต่นั้นมา นายทหารก็เข้าใจได้ว่าหาที่นอนในสนามไม่ยากจริง”

นอกจากนี้ สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงยกย่องไว้ว่า พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจิรประวัติวรเดช เป็นผู้ที่ทรงรักและอุปการะพระมารดาและครอบครัวเป็นอย่างดี จนถึงกับทรงกล่าวว่าหาได้ยากมากที่จะมีครอบครัวกลมเกลียวเช่นนี้ และผู้ที่เคยทำงานกับพระองค์ก็ล้วนแต่รักและยกย่องพระปรีชาสามารถของพระองค์กันทั้งนั้น

เมื่อพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจิรประวัติวรเดช สิ้นพระชนม์ วังมหานาคจึงตกแก่ทายาท ครั้นถึงช่วงสงครามมหาเอเชียบูรพา วังนี้ก็ถูกตัดแบ่งขายจนเหลือเพียงตำหนักของพระธิดาทางปีกซ้ายเท่านั้น วังมหานาคปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของตลาดมหานาค และโรงแรมปริ๊นซ์พาเลซ ริมคลองมหานาค โดยตัวโรงแรมในปัจจุบัน และอาคารโบ๊เบ๊ทาวเวอร์คือบริเวณของตำหนักใหญ่ ในอดีตบริเวณวังประกอบไปด้วย ตำหนักใหญ่ ตำหนักพระโอรส ตำหนักพระธิดา โรงม้า ปัจจุบันคงเหลือเพียงตำหนักพระธิดา ซึ่งอยู่ทางปีกซ้ายของวังซ่อนตัวอยู่ในบริเวณตลาดมหานาค โดยเป็นที่พำนักของทายาทในราชสกุลจิรประวัติ เช่น ม.ล.จิราธร จิรประวัติ และทายาทคนอื่นๆ

ข่าวล่าสุด

ไทยพาณิชย์-FWD คว้า 3 รางวัล Adman Awards 2025 ตอกย้ำเข้าถึงลูกค้าทุก Gen ด้วย "ประกันทรัพย์พอร์ตทุกวัย"