ไม้พะยูง...ไม้มงคล มอดไม้ต่างหมายปอง

โดย...กันติพิชญ์ ใจบุญ

ไม้พะยูง หรือไม้พยุง ไม้มงคล กำลังจะเหลือแต่ชื่อในเวลาอันใกล้หากไม่ช่วยกันปกป้องรักษา ด้วยมูลค่าของไม้ชนิดนี้ราคาสูงลิบลิ่ว จึงเป็นที่ต้องการของคนหลายกลุ่ม ยิ่งเมื่อส่งออกไปยังต่างประเทศด้วยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสิงคโปร์หรือจีน เป็นกลุ่มที่ต้องการไม้ชนิดนี้มาก ราคาจะสูงถึงคิวละกว่า 2 แสนบาท

ไม้พะยูงพบมากในป่าทางภาคอีสานตอนล่าง ไล่เรียงมาตั้งแต่ จ.ศรีสะเกษ อุบลราชธานี บุรีรัมย์ สุรินทร์ หรือออกไปยัง จ.ชัยภูมิ ก็มีไม่น้อย ไม้พะยูงถูกจัดให้อยู่ในประเภทไม้หวงห้าม สามารถมีครอบครองได้ หากพิสูจน์แน่ชัดว่าไม่ได้เข้าไปตัดในป่า

จุดนี้ถือว่าอาจจะเป็นจุดด้อยที่ใครก็สามารถมีไว้ครอบครองได้ แต่ประเด็นคือ ห้ามจำหน่าย ห้ามเคลื่อนย้าย แต่ในระยะหลังมักจะพบว่ามีการลักลอบตัดไม้พะยูงส่งออกขายจำนวนมาก โดยเฉพาะลำเลียงจากภาคอีสานไปสู่ต่างประเทศ

แม้แต่กลุ่มนายทุนกระเป๋าหนักในไทยเอง ก็เริ่มต้องการไม้มงคลชนิดนี้ เพราะถือว่าเป็นไม้ที่ดี สวยงาม แข็งแรง นิยมนำไปปลูกสร้างบ้านปลูกเรือน เชื่อว่าจะเสริมบารมี มีแต่คนมาคอยพยุง ค้ำชู

ค่านิยมที่ผิดๆ นี้เอง ทำให้เกิดการลักลอบตัดไม้พะยูงเพื่อนำไปขายกันมากขึ้น มีการทำเป็นขบวนการ โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องจำนวนไม่น้อย

ที่ผ่านมา แม้ตำรวจจะจับได้อยู่บ่อยครั้ง แต่ขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูงก็ใช่ว่าจะหมดไป ยิ่งงอกเงยซ้ำเติมทำลายสภาพแวดล้อมมากยิ่งขึ้น สอดรับกับคำบอกเล่าจากปากของ พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ที่คุมพื้นที่อีสานตอนล่าง พื้นที่ที่ลักลอบตัดไม้พะยูงกันมากที่สุด

เขายอมรับว่ามีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง หรือเข้าไปร่วมขบวนการด้วยจริง ตั้งแต่มาเป็น ผบช.ภ.3 ก็สั่งไล่ออกและตั้งคณะกรรมการสอบสวนตำรวจในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องไปแล้ว 7 คดี ถือว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่ เพราะนี่เป็นการทำลายทรัพย์สมบัติของชาติ และนำไปหากินอย่างไม่ถูกต้อง

ส่วนใหญ่จะพากันไปตัดตามพื้นที่ของกรมป่าไม้ในเขตอุทยานแห่งชาติ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นพื้นที่ต้องห้าม แต่ที่น่าสงสัยคือทำไมคนพวกนี้เข้าไปตัดได้ บางพื้นที่ก็เป็นของทหาร ซึ่งมีแต่ทหารที่เข้าไปได้ จึงต้องบอกไว้เลยว่า มูลค่าไม้พะยูงมันมหาศาล เงินที่ได้ก็เยอะ อาจทำให้ข้าราชการออกนอกลู่นอกทาง

แน่นอนว่าก็ต้องมีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย โดยรับงานมาจากนายทุนที่สั่งให้รวบรวมไม้พะยูงให้ และร่วมขนโดยนั่งในรถบรรทุกเพื่อให้ผ่านด่านได้สะดวกก็มี บางแห่งก็ส่งออกไปยังตะเข็บชายแดนเพื่อนบ้าน หรือเข้ามาใน กทม. เตรียมบรรจุผ่านกรมศุลกากร ออกไปเมืองนอกก็มี กรมศุลกากรไม่รู้เลยหรือ พล.ต.ท.ภาณุตั้งข้อสังเกตอย่างน่าคิด

ก็ต้องยอมรับว่าในพื้นที่ภาคอีสานตอนล่าง พื้นที่รับผิดชอบของตำรวจ บช.ภ.3 มีการลักลอบตัดจริง ทั้งชาวบ้านที่ไปตัดมาให้นายทุน เมื่อเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบก็อ้างว่าไปตัดได้ในพื้นที่ไร่นาของตนเอง หากพิสูจน์ได้ก็ไม่มีความผิด

ดังนั้น หากจะแก้กันจริงๆ พล.ต.ท.ภาณุ เห็นว่า ต้องเอาผิดกับข้าราชการที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด เข้มงวด และผลักดันให้ไม้พะยูงเป็นไม้หวงห้ามพิเศษ ประเภท ก. ซึ่งไม่สามารถมีไว้ครอบครองได้เด็ดขาด หากใครมีไว้ผิดกฎหมายทันที จะช่วยได้ไม่น้อยกับการรักษาทรัพยากรของประเทศชาติ

“อีกอย่างที่เป็นปัญหาสำหรับไม้พะยูงในขณะนี้ของพื้นที่ บช.ภ.3 คือมีทหารของฝั่งประเทศเพื่อนบ้านใช้กองกำลังติดอาวุธพาชาวบ้านของพวกเขาลักลอบเข้ามาในพื้นที่ชายแดนของไทย เข้ามาตัดไม้พะยูงในป่าของบ้านเราแล้ว ซ้ำยังขนกลับประเทศในรูปแบบกองทัพมด หรือพากันเอาลงแม่น้ำทำให้ไม้ของไทยกลายเป็นไม้ต่างชาติในทันที ทำให้การปราบปรามยิ่งยากเข้าไปอีก

หากจะแก้จริงๆ ก็ต้องร่วมมือกันทุกฝ่าย อย่าเห็นแก่เม็ดเงิน แต่ให้ระลึกหวงแหนทรัพยากรของชาติ ผบช.ภ.3 บอกทิ้งท้าย พร้อมกับอ้อนวอนให้คนไทยรักษาพันธุ์ไม้พะยูงสมบัติของชาติเอาไว้ ก่อนที่จะเหลือเพียงแค่ชื่อและรูปภาพให้ศึกษาเท่านั้น