posttoday

เมืองน่านหนาวยะเยือก นร.ชนบทต้องตากแดดเรียน

17 ธันวาคม 2554

ภายหลังจากมหาอุทกภัยครั้งใหญ่ผ่านพ้นไปได้ทิ้งปัญหาสารพัดให้รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

โดย...ระรินธร เพ็ชรเจริญ

ภายหลังจากมหาอุทกภัยครั้งใหญ่ผ่านพ้นไปได้ทิ้งปัญหาสารพัดให้รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แก้ไขปัญหาฟื้นฟูเยียวยา ทั้งด้านเศรษฐกิจ คนตกงาน ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน ขยะล้นเมืองและโรคภัยไข้เจ็บตามมาอีกเพียบ

แต่ปัญหาที่น่าเป็นห่วงอย่างหนึ่งที่เชื่อมต่อกับเหตุการณ์มหาอุทกภัยครั้งใหญ่ครั้งนี้ นั่นก็คือ ภัยหนาวที่กำลังพัดถล่มภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือเดือดร้อนแสนสาหัสและประชาชนขาดแคลนเครื่องนุ่งห่มกันหนาวนับล้านชีวิต

จ.น่าน เป็นอีกหลายจังหวัดภาคเหนือที่กำลังเผชิญกับอากาศหนาวเย็น โดยเฉพาะเด็กนักเรียนยากไร้กว่า 4,500 ชีวิตขาดแคลนเครื่องนุ่งห่มกันหนาวอย่างหนัก ในช่วงเช้าหรือช่วงเย็นต้องก่อไฟผิงคลายหนาว ขณะไปเรียนหนังสือครูที่โรงเรียนจะให้เด็กนักเรียนย้ายห้องเรียนมาเรียนหนังสือกลางแดดเพื่อสร้างความอบอุ่นร่างกาย

เมืองน่านหนาวยะเยือก นร.ชนบทต้องตากแดดเรียน

มงคล หมวกพิกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาน่าน (สพป.) เขต 1 บอกว่า ขณะนี้ที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดคือเด็กนักเรียนที่อยู่ในพื้นที่สูงตามยอดดอย และพื้นที่ราบกำลังประสบภัยหนาว เพราะอุณหภูมิลดลงต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส ส่วนบนยอดดอยอุณหภูมิลดเหลือ 0 องศา โดยปัจจุบัน สพป.น่าน เขต 1 และ เขต 2 มีเด็กนักเรียนระดับอนุบาล ประถมศึกษาจนถึงมัธยมศึกษาตอนต้นมากถึง 4,525 คน

ทั้งนี้ พื้นที่เขต 1 มีนักเรียนจำนวน 1,658 คน จาก 17 โรงเรียน ที่กระจายอยู่ในพื้นที่ อ.เมืองน่าน อ.เวียงสา อ.สันติสุข และ อ.ภูเพียง แม้จะไม่ใช่พื้นที่เขาสูงชัน แต่ก็เป็นพื้นที่ห่างไกลติดกับป่าเขา และครอบครัวมีฐานะยากจน ก็ได้รับผลกระทบจากภัยหนาวด้วย ขณะที่เด็กนักเรียนที่ได้รับผลกระทบชัดเจน จะอยู่ในพื้นที่เขต 2 จำนวน 2,867 คน จาก 37 โรงเรียนที่กระจายอยู่ตามพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อ.ท่าวังผา อ.ปัว อ.เชียงกลาง อ.ทุ่งช้าง อ.สองแคว อ.บ่อเกลือ และ อ.เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งล้วนเป็นพื้นที่สูง ตามยอดดอย และเป็นดินแดนห่างไกลทุรกันดาร

“ทุกวันนี้เด็กที่ประสบภัยหนาวขาดแคลนเสื้อกันหนาว ผ้าห่ม และเครื่องกันหนาวอื่นๆ ทั้งถุงมือ ถุงเท้า บางครอบครัวมีลูกหลานหลายคน ก็ต้องสลับสับเปลี่ยนกันสวมใส่ ทำให้เสื้อผ้าเครื่องกันหนาวต่างๆ เก่าและขาดชำรุดได้เร็ว เนื่องจากต้องใช้ทุกวัน ตลอดทั้งวันทั้งคืน ส่งผลให้ในแต่ละปีจึงต้องหาเสื้อกันหนาวตัวใหม่เพิ่มเติม และเป็นเหตุผลว่า เสื้อกันหนาวที่ได้รับแจกทุกปี ก็ยังไม่เพียงพอต่อความหนาวเย็นตลอดช่วงฤดูหนาวที่มาเยือน” มงคล กล่าว

ปกรณ์ ศศิวัจน์ไภสิฐ ผู้อำนวยการศูนย์การเรียนรู้บ้านป่ากำ และศูนย์การเรียนรู้บ้านขุนน้ำจอน หมู่ 5 ต.ดงพญา อ.บ่อเกลือ บอกว่า ศูนย์การเรียนรู้ทั้งสองแห่งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล มีเด็กนักเรียนระดับอนุบาลป.5 รวมจำนวน 82 คน เด็กๆ ที่นี่อาจไม่ขาดแคลนเครื่องนุ่งห่มกันหนาวมากนัก เนื่องจากทุกๆ ปี จะมีหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน นำมามอบและแจกจ่ายให้ไม่ขาด แต่ปัญหาที่มากกว่าเครื่องนุ่งห่มกันหนาวก็คือ เด็กที่นี่มักขาดแคลนข้าว เนื่องจากมีพื้นที่การปลูกข้าวจำกัด รวมไปทั้งอาหารและนมที่จะบำรุงร่างกายให้อบอุ่นแข็งแรงและไม่ขาดสารอาหาร อย่างไรก็ตามพบว่ายังมีเด็กเล็กจากหมู่บ้านห้วยลัวะ อีกกว่า 20 คน ขาดแคลนเครื่องกันหนาวเพราะเป็นหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกล กันดารและทางคมนาคมที่ยากลำบาก

บัววรรณ ยะสุข นักวิชาการศึกษาชำนาญการ สพป.น่าน เขต 2 เล่าถึงความยากลำบากของเด็กนักเรียนที่อยู่ตามชนบทห่างไกลในถิ่นทุรกันดาร ที่จะต้องผจญกับความหนาวเย็น โดยเฉพาะเด็กนักเรียนตามพื้นที่ชายขอบที่ยังขาดแคลนเครื่องกันหนาวอีกมาก

เมืองน่านหนาวยะเยือก นร.ชนบทต้องตากแดดเรียน

“เด็กนักเรียนที่บ้านขุนน้ำจอน หมู่ 5 ต.ดงพญา อ.บ่อเกลือ ต้องใช้เวลาเดินทางจากบ้านไปยังโรงเรียนบ้านสว้า ต.ดงพญา อ.บ่อเกลือ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 34 ชั่วโมง ถึงแม้ระยะทางเพียงไม่ถึง 10 กิโลเมตร แต่ก็เป็นทางเขาคดเคี้ยวและต้องเดินด้วยเท้าเท่านั้น ไม่มีรถโดยสาร และยังต้องเดินผ่านลำห้วย ซึ่งในช่วงหน้าหนาวก็มีอุณหภูมิลดต่ำกว่า 10 องศา เด็กหลายคนต้องล้มป่วยไข้เนื่องจากร่างกายทนสภาพอากาศหนาวเย็นไม่ไหว” บัววรรณ กล่าว

มงคล สายสูง ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมการจัดการศึกษา สพป.เขต 2 บอกว่า ในช่วงฤดูหนาวทุกปี จะต้องเร่งทำการสำรวจเด็กนักเรียนที่ยังขาดแคลนเครื่องนุ่งห่มกันหนาว เนื่องจาก สพป.เขต 2 เป็นพื้นที่ภูเขาและตามยอดดอย โรงเรียนเล็กๆ หลายแห่งยังอยู่ในถิ่นทุรกันดารและอยู่ตามชายขอบชายแดน เช่น โรงเรียน ตชด.ผู้บังคับบัญชาลูกเสือรถไฟมักกะสัน อ.สองแคว โรงเรียนบ้านบวกหญ้า ต.ขุนน่าน อ.บ่อเกลือ ซึ่งมีสภาพภูมิประเทศที่แวดล้อมด้วยป่าและเขา บางหมู่บ้านอยู่ในหุบเขา บางหมู่บ้านเป็นพื้นที่สูงชัน ทำให้อุณหภูมิลดต่ำหนาวเย็นตลอดทั้งปี ซึ่งในปีนี้ได้สำรวจเพื่อเตรียมจัดหาเสื้อกันหนาว ถุงมือ ถุงเท้า รองเท้า ให้กับเด็กนักเรียน แต่ก็ยังไม่เพียงพอ จำเป็นต้องเปิดจุดรับบริจาคเพิ่มเติม

ทุกวันนี้พยายามให้เด็กนักเรียนได้รู้จักคุณค่ากับสิ่งของที่ได้รับบริจาค ให้รู้จักรักษาและถนอมเพื่อจะได้เก็บไว้ใช้ได้นานๆ ไม่ต้องการให้เด็กนักเรียนรู้สึกว่าทุกๆ ปีก็จะได้รับของบริจาคใหม่และไม่ดูแลรักษาสิ่งของเสื้อผ้า หลังจากพ้นหน้าหนาวต้องรักษาสิ่งของเพื่อเก็บไว้เป็นเครื่องกันหนาวในฤดูหนาวปีถัดไป

 

ข่าวล่าสุด

ล้ำไปอีกขั้น เสื้อกั๊ก AI ช่วยผู้ป่วยหลอดเลือดสมองขยับแขน