รวบแก๊งงัดตู้ “บุญเติม” เสียหายเกือบ 3 ล้านบาท
ตำรวจสำแดงฝีมือ รวบแก๊งงัดตู้เติมเงินโทรศัพท์ออนไลน์ เผยก่อเหตุมา 2 เดือนได้เงินไปเหยียบ 3 ล้านบาท ผู้ต้องหาเผยวิธีแสนง่ายดาย
ตำรวจสำแดงฝีมือ รวบแก๊งงัดตู้เติมเงินโทรศัพท์ออนไลน์ เผยก่อเหตุมา 2 เดือนได้เงินไปเหยียบ 3 ล้านบาท ผู้ต้องหาเผยวิธีแสนง่ายดาย
เวลา 13.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สายตรวจ 191 แถลงข่าวจับกุมแก๊งงัดตู้เติมเงินโทรศัพท์ออนไลน์ (ตู้บุญเติม) ได้ผู้ต้องหา 3 คน คือ นายประพัทธ์ ศรศิลป์ อายุ 34 ปี หัวหน้าแก๊ง น.ส.พรประกาย หิรัญยพิสุทธิกุล อายุ 23 ปี และนายกิตติศักดิ์ คงถนอมพรรณ อายุ 30 ปี พร้อมของกลางเงินสดจำนวน 10,900 บาท กล่องเก็บเงินของตู้บุญเติม 1 กล่อง สว่านไฟฟ้า 1 ตัว เหล็กสกัด 1 อัน และรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ 2 คัน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางแผนติดตามจับกุมตัวนานถึง 2 เดือน ทั้งนี้แก๊งงัดตู้เติมเงินสร้างความเสียหายไปประมาณ 2.8 ล้านบาทในระยะเวลาก่อเหตุ 2 เดือน
พล.ต.ท.จักรทิพย์ กล่าวว่า ตนได้รับร้องเรียนจากบริษัทฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด ว่ามีกลุ่มคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะตระเวนงัดตู้เติมเงินออนไลน์ทั่วกทม.ประมาณ 51 ตู้ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 2.8 ล้านบาท จึงสั่งการให้วางแผนการจับกุมกระทั่งไปเจอผู้ต้องหาเป็นชายหญิง 2 คน บริเวณหน้าสำนักงานเขตบางกอกใหญ่ เดินออกมาจากตู้เติมเงินออนไลน์ โดยหญิงคนดังกล่าวอุ้มกล่องสี่เหลี่ยมไว้ เมื่อผู้ต้องหาทั้ง 2 คนเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงรีบขึ้นรถจักรยานยนต์ขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเร่งติดตามจับกุม แต่ชายหญิงดังกล่าวขับรถเสียหลักล้มลง และกล่องสี่เหลี่ยมที่อุ้มไว้หล่นทำให้เงินที่บรรจุภายในกล่องตกกระจายเต็มถนน
“จากนั้นตำรวจจับกุมตัวมาสอบสวน และผู้ต้องหาทั้งสองรายยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุตระเวนงัดตู้เติมเงินออนไลน์จริง และเผยว่ายังมีผู้ร่วมขบวนการอีกคน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตามไปจับกุมได้ นอกจากนี้ ผู้ต้องหายอมรับว่า ส่วนใหญ่จะตระเวนก่อเหตุในพื้นที่ฝั่งธนบุรีเป็นหลัก ทั้งในท้องที่สน.หลักสอง บางกอกน้อย บางเสาธง บางขุนเทียน เพชรเกษม เป็นต้น” ผบช.น. กล่าว
ด้านนายประพัทธ์ ศรศิลป์ ผู้ต้องหาซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง ให้การว่า พวกตนตระเวนก่อเหตุมาแล้วประมาณ 2 เดือน โดยเงินที่ได้มาจะนำมาใช้จ่าย และซื้อยาบ้านเสพในบางครั้ง ส่วนวิธีการนั้น ตนจะนำเหรียญไปหยอดในตู้เติมเงิน เพื่อเช็กดูว่าภายในตู้มีเงินมากหรือไม่ โดยสังเกตจากการฟังเสียง หลังจากนั้น จะใช้เทปกาวปิดกล้องวงจรปิดที่ติดไว้กับตู้เติมเงิน และใช้คีมงัดตู้ให้เปิดออก และทำการปิดเสียงสัญญาณเตือนในทันที จากนั้นจะนำกล่องที่เก็บเงินภายในตู้ออกมา และนำมาแบ่งกัน โดยแต่ละครั้งจะใช้เวลาก่อเหตุไม่เกิน 5 นาที


