สำรวจพบวางมือถือหัวเตียงเสี่ยงเนื้องอกในสมอง
ผลสำรวจพบผู้ใช้มือถือไทยกว่า60% เสี่ยงเนื้องอกในสมองเหตุวางโทรศัพท์ไว้บนหัวเตียง แนะใช้แฮนด์ฟรีแทนการใช้โทรศัพท์โดยตรง
ผลสำรวจพบผู้ใช้มือถือไทยกว่า60% เสี่ยงเนื้องอกในสมองเหตุวางโทรศัพท์ไว้บนหัวเตียง แนะใช้แฮนด์ฟรีแทนการใช้โทรศัพท์โดยตรง
น.พ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา ผอ.สถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม (สบท.) เปิดเผยว่า จากการสำรวจของสบท.ที่ร่วมกับ มหาวิทยาลัยอัญสัมชัญหรือเอแบคโพล พบว่า คนไทยมีพฤติกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นเนื้องอกในสมองโดยได้รับคลื่นสัญญาณแม่เหล็กไฟฟ้าของโทรศัพท์เคลื่อนที่แม้ไม่ได้ใช้งาน จากพฤติกรรมที่นิยมวางโทรศัพท์มือถือไว้ที่หัวเตียงพร้อมกับเปิดเครื่องไว้ในเวลานอนสูงถึง 64.5%
ผลสำรวจดังกล่าวสอดคล้องกับข้อมูลทางวิชาการขององค์การอนามัยโลก (WHO) ที่ระบุว่าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากโทรศัพท์มือถือเป็นปัจจัยก่อมะเร็งประเภท 2B หรือ เป็นไปได้ที่จะก่อมะเร็ง และกลุ่มที่ใช้โทรศัพท์มากกว่า 1,640 ชม.จะมีความเสี่ยงมากขึ้นต่อการเป็นมะเร็งสมองชนิด Glioma หรือเนื้องอกในสมอง ข้างเดียวกับที่ใช้โทรศัพท์ ซึ่งเป็นส่วนที่ได้รับคลื่นสูงที่สุด
นอกจากการวางโทรศัพท์บนหัวเตียงพร้อมกับเปิดเครื่องแล้ว ยังมีพฤติกรรมอื่นที่เสี่ยงต่อการเกิดเนื้องอกในส่วนอื่นๆ คือการนิยมใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง หรือกระเป๋ากระโปรง 41.6% และใส่ไว้ในกระเป๋าพกพา 23.7%
ทั้งนี้การป้องกันหรือลดความเสี่ยงเบื้องต้นที่ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือควรปฏิบัติ คือ การใช้อุปกรณ์แฮนด์ฟรีระบบบลูทูธ ที่จะช่วยให้ผู้ใช้ได้รับพลังงานจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าต่ำกว่าการใช้ผ่านเครื่องโทรศัพท์มือถือโดยตรงถึง 100 เท่า และการใช้อุปกรณ์แฮนด์ฟรีแบบมีสาย หรือหูฟังจะช่วยลดการได้รับพลังงานที่สมองลงประมาณ10% แต่ไม่ควรเกี่ยวไว้ที่หูตลอดเวลาเมื่อไม่ได้ใช้งาน รวมทั้งเครื่องโทรศัพท์ 3 จี จะปล่อยพลังงานน้อยกว่าโทรศัพท์จีเอสเอ็มเฉลี่ยประมาณ 100 เท่า
นอกจากนี้ หากไม่ใช้โทรศัพท์มือถือก็ควรไว้ให้ห่างตัวโดยเฉพาะศีรษะ โดยไม่ควรวางไว้ที่หัวเตียงและเปิดเครื่องทิ้งไว้ เพื่อลดความเสี่ยงของการได้รับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าโดยไม่จำเป็น
นพ.ประวิทย์ กล่าวว่า ประเด็นเรื่องคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าได้เคยเป็นกระทู้ในรัฐสภาของไทยและกระทรวงสาธารณสุขในปี 2544 โดย นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่ง รมช.สาธารณสุข ได้ตอบกระทู้ตอนหนึ่งว่า ได้เคยประชาสัมพันธ์แนะนำเกี่ยวกับการใช้โทรศัพท์มือถือ เพื่อให้ประชาชนระมัดระวังไว้ 3 ประการคือ ให้ใช้โทรศัพท์มือถือ
สำหรับข้อมูลทางวิชาการที่ฮูได้ตีพิมพ์ก่อนหน้านี้ระบุว่า การถือโทรศัพท์แนบหูทำให้เกิดการดูดซับพลังงานที่สมอง ซึ่งปริมาณการดูดซับขึ้นอยู่กับการออกแบบตัวเครื่องและเสาอากาศ ลักษณะการใช้ และระดับสัญญาณระหว่างตัวเครื่องและสถานีฐาน ที่สำคัญคือ สมองเด็กจะได้รับคลื่นมากกว่าผู้ใหญ่ 2 เท่า และไขกระดูกของกระโหลกศีรษะเด็กจะได้รับคลื่นมากกว่าผู้ใหญ่ 10 เท่า


