posttoday

ผลงานเผือกร้อน ใต้พรม "รัฐบาลบิ๊กตู่"

18 ธันวาคม 2561

แม้มาตรา44 จะเป็นตัวช่วยสำคัญทำให้การแก้ปัญหาบางอย่างของรัฐบาลคสช.เป็นไปอย่างราบรื่น แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกปัญหาจะสามารถแก้ไขได้ด้วยกฎหมายพิเศษนี้

แม้มาตรา44 จะเป็นตัวช่วยสำคัญทำให้การแก้ปัญหาบางอย่างของรัฐบาลคสช.เป็นไปอย่างราบรื่น แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกปัญหาจะสามารถแก้ไขได้ด้วยกฎหมายพิเศษนี้

**************************************

โดย...ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์

แม้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มั่นใจว่าในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา สามารถมาคุมสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองต่างๆ ได้เบ็ดเสร็จจนได้รับเสียงชื่นชมจากประชาชนอย่างท่วมท้นว่าเป็นผลงานโดดเด่นที่สุดของรัฐบาล รวมถึงสร้างผลงานเป็นที่ประจักษ์อื่นๆ อีกมากมาย แต่อีกด้านหนึ่งเพราะด้วยอิทธิฤทธิ์มาตรา 44 เป็นตัวช่วยสำคัญทำให้การแก้ปัญหาบางอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นไร้ปัญหาอุปสรรค แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกปัญหาจะสามารถแก้ไขได้ด้วยมาตรา 44

ดังนั้น หากจะสแกนคำสัญญาหรือผลงานที่รัฐบาลสัญญาไว้ว่าจะทำให้สำเร็จในรัฐบาล คสช. แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่ายังคั่งค้างหรือซุกอยู่ โดยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่สามารถดำเนินการแก้ไขใดๆ ได้ มากไปกว่ารอให้รัฐบาลใหม่เข้ามา เพราะเหลือเวลาอีกไม่นาน เดือนกว่าๆ ก่อนจะเปลี่ยนผ่านไปสู่รัฐบาลเลือกตั้ง

เรื่องแรกทุกสำนักโพลสอบถามความเห็นประชาชนครั้งใดลงความเห็นตรงกันคือ ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ แม้รัฐบาลจะออกมาตรการช่วยเหลือใดออกมาล้วนเป็นการแก้ปัญหาระยะสั้น เช่น ยางพารา ปาล์ม เป็นต้น รวมถึงปัญหาเศรษฐกิจด้านอื่นๆ โดยเฉพาะค่าครองชีพที่สูงขึ้น นับเป็นผลงานเปราะบางในการบั่นทอนคะแนนนิยมสูงมาก

อีกผลงานที่สัญญาไว้ว่าจะทำ แต่ทำไม่ได้คือ ปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาที่ราคาแพงเกินจริง วันนี้กลายเป็นเรื่องปกติที่ประชาชนต้องจำใจซื้อลอตเตอรี่ราคาแพง โดยเฉพาะลอตเตอรี่ “เลขชุด” นับวันยิ่งราคาขายแพงขึ้นเรื่อยๆ ราคาไม่ต่ำกว่าใบละ 100 บาท แถมผู้ขายสลากไม่เกรงกลัวกฎหมายแม้แต่น้อย กล้าขายลอตเตอรี่กันเกินราคาเกลื่อนเมือง สถานการณ์ผิดกับตอนที่ พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาใหม่ๆ คุยฟุ้งแบบเอาหัวเป็นประกันว่า ประชาชนจะได้ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลไม่เกินใบละ 80 บาท ใครขายเกินราคาต้องโทษตามกฎหมาย แต่มาวันนี้คนไทยต่างพากันจน และฝันค้างกับสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ วาดฝันทิ้งไว้ว่าจะได้ซื้อลอตเตอรี่ราคา 80 บาท เป็นเพียงฝันลมๆ แล้งๆ

อีกผลงานที่ผลักดันไม่สำเร็จคือ โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาและกระบี่ ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ยังไม่ได้ข้อยุติตั้งแต่รัฐบาล คสช.เข้ามา สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ ทำได้คือ ซื้อเวลาไปเรื่อยๆ ไม่สามารถหาทางออกร่วมกันกับเครือข่ายและประชาชนในพื้นที่โรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่และเทพาที่คัดค้านประเด็นผลกระทบทางทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้วยภาพลักษณ์และคะแนนนิยม พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศมาตลอดว่าจะเดินหน้าโครงการเพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานในภาคใต้ต้อง “ไฟตก” แต่ดูเหมือนนโยบายดังกล่าวจะเป็นเพียงสัญญาปากเปล่า เพราะที่ผ่านรัฐบาลไม่สามารถเป็นคนกลางเจรจาไกล่เกลี่ยความขัดแย้งกับกลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชนและประชาชนในพื้นที่ทำได้เพียงซื้อเวลา

อย่างไรก็ตาม 4 ปีที่ผ่านมารัฐบาล คสช.มีอำนาจเต็มทั้งฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติ ผ่านสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีเสียงข้างมากเหลือล้นในสภาแบบไร้ฝ่ายค้าน แต่กฎหมายสำคัญหลายฉบับกลับไม่สามารถผ่านไปได้โดยง่ายๆ แม้กฎหมายฉบับดังกล่าวจะเป็นประโยชน์สาธารณะเพียงใดก็ตาม ตัวอย่างเช่น ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ล่าช้ามากกว่าจะออกมาเป็นกฎหมายเกือบถูกเก็บเข้าลิ้นชักไปหลายครั้ง ล่าสุดคลอดออกมาได้ปลายสมัยรัฐบาลนี้ ด้วยมาตรการภาษีที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์เกษตรกรรม อัตราภาษีไม่เกิน 0.15% ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่เป็นที่อยู่อาศัย 0.3% ใช้ประโยชน์อื่น 0.2% และที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ทิ้งไว้ว่างเปล่าเพียง 1.2% แม้จะผลักดันออกมาได้ก็จวนเจียนจะหมดสมัย จึงไม่ถือว่าเป็นผลงานอันโดดเด่นใดๆ ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ คุยฟุ้งไว้

เช่นเดียวกับผลงานการ ปฏิรูปตำรวจ พล.อ.ประยุทธ์ สัญญาไว้ตั้งแต่เข้ามาบริหารประเทศใหม่ๆ แต่วันนี้ยังเป็นวุ้นอยู่ ทั้งๆ ที่เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศเป็นนักการเมือง ก็ควรมีความชัดเจนว่าหากกลับมาเป็นรัฐบาลสมัยหน้า จะเดินหน้าหรือถอยเรื่องปฏิรูปตำรวจอย่างไรในฐานะนักการเมือง บทสรุปของผลงานเป็นได้เพียงแค่ข้อเสนอที่เป็นร่างกฎหมายของคณะกรรมการร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ที่มี มีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธาน สาระสำคัญคือ แก้ปัญหาซื้อขายตำแหน่ง กระจายอำนาจ และดูแลตำรวจชั้นผู้น้อย แต่ไร้ซึ่งความเชื่อมั่นว่าจะไม่ถูกปรับเปลี่ยน หรืออย่างน้อย พล.อ.ประยุทธ์ ควรทำให้เสร็จภายในรัฐบาลชุดนี้

อีกปัจจัยที่ทำให้ผลงานไม่ออก เพราะรัฐมนตรีบางกระทรวงโลกลืม ข้าราชการบางกระทรวงเกียร์ว่างไม่สนองนโยบาย ซึ่งเป็นคำพูดที่ พล.อ.ประยุทธ์ เปรยบ่อยครั้ง อาทิ โครงการตามแนวพระราชดำริ เศรษฐกิจพอเพียง เกษตรทฤษฎีใหม่ ยิ่งใกล้วันเลือกตั้งมากขึ้นเท่าไร พล.อ.ประยุทธ์ จึงต้องวันแมนโชว์เองมากขึ้น ทั้งตรวจเยี่ยมกระทรวงและลงพื้นที่ต่างจังหวัดถี่ยิบ จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นทั้งการหาเสียงและโหมผลงานรัฐบาลให้ออกมา โดยย้ำว่าภายใต้การทำงานของรัฐบาลชุดนี้ รัฐบาลได้ดำเนินการอะไรไปแล้วบ้าง และปีต่อๆ ไปหลังจากนี้รัฐบาล คสช.จะต่อยอดงานเรื่องใดบ้าง

เหลือเวลาอีกไม่นานตามสัญญา พล.อ.ประยุทธ์ คงไม่อาจสะสางงานที่คั่งค้างได้ ทำได้เพียงเร่งตีปี๊บผลงานเดิมๆ ที่ทำสำเร็จ พร้อมๆ กับปกปิดผลงานด้อยที่ไม่สำเร็จไม่ให้ประชาชนรับรู้ก็เท่านั้น