posttoday

วิชั่นรุ่นใหม่"พลังประชารัฐ" ความขัดแย้งควรยุติ-ถึงเวลาประเทศเดินหน้า

16 ธันวาคม 2561

ส่องวิสัยทัศน์ทีมงานคนรุ่นใหม่จากพรรคพลังประชารัฐ ที่หวังจะร่วมพัฒนาประเทศให้เดินไปข้างหน้า

ส่องวิสัยทัศน์ทีมงานคนรุ่นใหม่จากพรรคพลังประชารัฐ ที่หวังจะร่วมพัฒนาประเทศให้เดินไปข้างหน้า

***************************

โดย...ปริญญา ชูเลขา

การเลือกตั้งครั้งนี้น่าสนใจกว่าทุกครั้งที่ผ่านๆ มาไม่ใช่เพราะเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านจากรัฐบาลปฏิวัติรัฐประหารของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไปสู่รัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง แต่นับเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกที่คนรุ่นใหม่กระตือรือร้นให้ความสนใจกล้ากระโดดลงเล่นการเมืองกันมากเป็นพิเศษ

ทุกพรรคต่างนำเสนอทีมงานคนรุ่นใหม่ให้ประชาชนได้รู้จัก จนเกิดประกายความหวังของพี่น้องประชาชนว่า นักการเมืองรุ่นใหม่ที่มีความคิดสร้างสรรค์จะเข้ามายึดพื้นที่ทางการเมืองแทนนักการเมืองหรือนักเลือกตั้งรุ่นเก่าๆ

ทีมงานคนรุ่นใหม่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ยกทัพมาแสดงวิสัยทัศน์ว่าที่ สส. หรือรัฐมนตรีคนรุ่นใหม่ถึงกองบรรณาธิการ โดยมีสาระสำคัญดังนี้

เริ่มที่ “นรุตม์ สียางฟู” คนหนุ่มวัย 33 ปี เรียนจบต่างประเทศและเชี่ยวชาญธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ ขันอาสาขอดูงานประชาสัมพันธ์ของพรรคด้วยความช่ำชองการใช้โซเชียลมีเดียและสื่อยุคใหม่ เพื่อให้ประชาชนได้รู้จักนโยบายพรรค ซึ่งในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ ภารกิจสำคัญของคนรุ่นใหม่คือ งานประชาสัมพันธ์เชิงรุกเน้นกลยุทธ์โซเชียลมีเดีย โดยตั้งทีมงานขึ้นมาพิเศษเพื่อบุกสื่อใหม่ๆ โดยมีทีมที่ปรึกษาสำคัญ 2 ท่าน คือ “สุวิทย์ เมษินทรีย์” รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และ “กอบศักดิ์ ภูตระกูล” รมต.ประจำสำนักนายกฯ เป็นหัวหอกสำคัญในการให้การสนับสนุน คำปรึกษา และชี้แนะ เพื่อให้กลุ่มคนรุ่นใหม่จะได้ไประดมความคิดเห็นและผลิตคอนเทนต์ให้โดนใจประชาชนที่เกี่ยวกับภาพลักษณ์และนโยบายพรรค

“ถ้าได้เป็น สส. หรือนักการเมือง สิ่งที่อยากเข้ามาทำงานคือ อยากเป็นส่วนหนึ่งในการนำเทคโนโลยีอันทันสมัยมาพัฒนาภาคเกษตร โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ มาคำนวณหรือพยากรณ์อุปสงค์และอุปทาน เพื่อควบคุมดูแลการผลิตและตลาด” นรุตม์ กล่าว

เช่นเดียวกับ ภก.คมสัณห์ ฐานะโชติพันธุ์ หรือตี๋ แพทย์หนุ่มวัย 38 ปี หนึ่งในทีมงานหน้าใหม่ของพรรค ออกตัวแรงด้วยการเสนอตัวขอทำประเด็นร้อน นโยบายสนับสนุนการปลูก “กัญชา” เป็นพืชเศรษฐกิจ เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ด้านการแพทย์และสาธารณสุข เพราะจะเกิดผลดีตามมามหาศาล โดยกัญชาจะกลายเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ทดแทน ยางพารา ปาล์ม หรือข้าว ที่มีปริมาณล้นตลาด และมีปัญหาราคาตกต่ำอยู่ในขณะนี้ ที่สำคัญคุณภาพกัญชาไทยขึ้นชื่อเสียงดีที่สุดในโลกก็ว่าได้ หากประสบความสำเร็จจริงๆ จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจด้วยซ้ำ เพราะกัญชาจะกลายเป็นสินค้าส่งออกตัวใหม่ สร้างรายได้ให้กับประเทศจำนวนมหาศาล

“วันนี้ไม่มีรัฐบาลไหนกล้าเอากัญชาขึ้นมาบนโต๊ะ แต่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ทำได้เพราะทำเพื่อประโยชน์คนส่วนใหญ่ทั้งภาคเกษตร สาธารณสุข และเศรษฐกิจสิ่งสำคัญของการปลูกกัญชา คือ ต้องมีการควบคุมและจัดโซนนิ่งให้ดี รวมถึงการวิจัยและพัฒนาต่อยอดมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ซึ่งจะเกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจมหาศาล” ภก.คมสัณห์ กล่าว

แพทย์หนุ่ม กล่าวว่า ลองคิดดูว่าตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา ควรพอกันหรือยังกับความขัดแย้งทางการเมืองในเรื่องสีเสื้อ เหลืองหรือแดง หรือใครเป็นฝ่ายเผด็จการ หรือประชาธิปไตย ควรพอได้แล้ว เพราะวันนี้ต้องหันมาพัฒนาประเทศให้เดินหน้าต่อไป ดังนั้น เมื่อพรรคให้ความสำคัญกับเสียงคนรุ่นใหม่ จึงก้าวเข้ามาสู่พรรคแห่งนี้

“สิ่งที่อยากย้ำมากๆ คือ พรรคพลังประชารัฐ ไม่มีใครเป็นเจ้าของ ถามว่าถ้าไปอยู่พรรคอื่นจะได้เข้าไปหรือไม่ ถ้าไม่มีญาติเล่นการเมือง ถ้าไปเพื่อไทย หรือไปประชาธิปัตย์ จะมีใครรู้จักพวกเราไหม บอกได้เลยว่าไม่มี แต่พลังประชารัฐให้โอกาสคนรุ่นใหม่ เสียงที่พวกเราพูดออกไปดังและได้รับฟัง” ภก.คมสัณห์ กล่าว

วิชั่นรุ่นใหม่\"พลังประชารัฐ\" ความขัดแย้งควรยุติ-ถึงเวลาประเทศเดินหน้า

สำหรับนักการเมืองหญิงหน้าใหม่อย่าง “ทิพานัน ศิริชนะ” หรืออ้น ดีกรีนักกฎหมายระหว่างประเทศ ออกตัวว่าอยากเข้าไปทำงานด้านการศึกษา เพราะเป็นงานที่ถนัดทั้งประสบการณ์และความรู้ที่ร่ำเรียนมา ถ้าเข้าสภาไปได้จะขอเสนอไอเดียใหม่ๆ ในการปฏิรูปการศึกษาเด็กประถมวัยและมัธยม ด้วยการ “ดึงมหาวิทยาลัยในพื้นที่ของแต่ละจังหวัดเข้ามาเป็นพี่เลี้ยงแก่โรงเรียนระดับประถมและมัธยมมาช่วยเรื่องระบบการเรียนการสอนแก่โรงเรียน ครู และเด็กเยาวชน” เพราะสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษามีความพร้อมด้านองค์ความรู้และบุคลากร

“ในการพัฒนาทักษะเด็กในช่วงประถมวัยสำคัญที่สุดคือ พัฒนาทักษะเด็กให้กล้าคิดกล้าทำ คิดวิเคราะห์เป็น และต้องนำเทคโนโลยีการเรียนการสอนอันทันสมัยมาช่วยให้เด็กคิดเป็น ทำเป็นและรู้จักทักษะในสิ่งที่ตัวเองถนัดคือ หัวใจสำคัญในการวางรากฐานการเรียนการสอนในอนาคต ดังนั้น การปฏิรูปการศึกษาต้องเริ่มต้นที่ปฐมวัยโดยมีมหาวิทยาลัยเป็นพี่เลี้ยง” ทิพานัน กล่าว

คนรุ่นใหม่ล้วนมีความคิดเห็นคล้ายๆ กันในการเลือกเดินเข้าประตูบ้านของพรรคพลังประชารัฐ เพราะผู้ใหญ่ หรือรุ่นพี่ทางการเมืองให้โอกาสในการแสดงออกหรือรับฟังความคิดเห็นทั้งหมดยืนยันหนักแน่นว่า พลังประชารัฐ ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ หรือคนรุ่นใหม่เป็นแค่นั่งร้านให้ คสช.สืบทอดอำนาจ เพราะวันนี้อำนาจเลือกรัฐบาล และนายกรัฐมนตรี อยู่ในมือของประชาชน

ดังเช่น ดร.ไกรเสริม โตทับเที่ยง ทายาทตระกูลดัง เจ้าของบริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล ที่คนไทยรู้จักดีชื่อ ปุ้มปุ้ย กล่าวว่า ส่วนตัวไม่มาเล่นการเมืองก็อยู่บ้านสบายๆ อยู่แล้ว การงานที่ทำอยู่ก็ดีไม่เดือดร้อน แต่พรรคนี้เปิดช่องให้พวกเราได้เสนอความคิดเห็นเต็มที่และพรรคนี้เกิดขึ้นตามระบอบประชาธิปไตย ที่สำคัญผู้ใหญ่ในพรรคเห็นความสามารถของคนรุ่นใหม่ที่ไม่ใช่แค่ต้องเป็นทายาทนักการเมืองถึงจะเข้ามาเล่นการเมืองได้ ดังนั้น ถ้าไม่เล่นการเมืองวันนี้ก็ไม่รู้จะเล่นการเมืองเมื่อไหร่

ณ เวลานี้ต้องยอมรับว่ากระแสผู้นำคนรุ่นใหม่มาแรงมากทั้งในต่างประเทศที่คนรุ่นใหม่อายุไม่ถึง 40 ปีก้าวขึ้นเป็นนายกฯ หรือประธานาธิบดี เช่นเดียวกับเมืองไทยคือ ความหวังที่จะเข้าไปทำงานเพื่อบ้านเมือง เพราะคนรุ่นใหม่ยุคนี้ล้วนจบการศึกษาสูงและตระกูลหรือฐานะทางบ้านดีทั้งนั้น

เช่น ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ หรืออุ๋ม นักธุรกิจรุ่นใหม่ที่สนใจการเมือง เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มนักการเมืองรุ่นใหม่ได้เข้าไปนั่งเก้าอี้ กรรมการบริหารพรรค เธอกล่าวอย่างมุ่งมั่นว่าอยากเข้ามาทำงานด้านสังคมเกี่ยวกับประเด็นสิทธิสตรี เพราะเห็นว่าทุกวันนี้ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของสตรียังน่าเป็นห่วง เช่น การท่องเที่ยว การเดินทาง หรือการโดยสารรถสาธารณะ อันตรายไม่ปลอดภัย เช่น การโดยสารแท็กซี่ ยังไม่ปลอดภัยเหมือนต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น จึงอยากจะเข้ามาทำนโยบายความปลอดภัยของสตรี แม้ปัจจุบันจะมีองค์กรเอกชนทำงานด้านนี้อยู่มาก แต่ยังกระจัดกระจาย จึงอยากให้ภาครัฐเป็นเจ้าภาพหลัก โดยเฉพาะประเด็นการให้ความรู้แก่เด็กและเยาวชนหญิงเรื่องการตั้งครรภ์ก่อนแต่ง หรือการป้องกันการข่มขืน เป็นต้น

“ตั้งใจลง สส.เขต เลือกเขตดุสิต แม้จะรู้ว่าเขตนี้แข่งขันดุเดือดมากๆ ทั้งพรรคเพื่อไทย ส่ง ลีลาวดี วัชโรบล และต้องชนกับ ชื่นชอบ คงอุดม ลูกชาย ชัชชวาลย์ หรือชัช เตาปูน พรรคพลังท้องถิ่นไทย ก็พร้อมสู้เต็มที่ไม่ถอย แม้จะเป็นนักการเมืองหน้าใหม่ก็ตาม” ธณิกานต์ กล่าว

ลำพังความรู้ความสามารถแม้จะจบนอก หรืองานการดีแค่ไหน หากพื้นที่ทางการเมืองไม่เปิดยากที่จะเข้ามาได้ แต่สำหรับ รัฐชยุตม์ รุ่งจารุพันธ์ หรือเอ็ม นักธุรกิจหนุ่มไฟแรง ไม่หวาดหวั่นกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์เหล่านี้ พร้อมที่จะก้าวเข้าสู่วงการการเมืองในนามพรรคพลังประชารัฐ เพราะมั่นใจในความสามารถของตัวเองว่าเป็นที่ยอมรับ และประกาศตัวเองว่า ผมไม่ใช่ทายาทนักการเมืองเป็นเพียงลูกครอบครัวคนจีนคนหนึ่งที่ปากกัดตีนถีบขยันทำงานมาตั้งแต่เด็กจนโต สามารถหาเงินเลี้ยงตัวเองและส่งตัวเองไปเรียนต่อต่างประเทศได้สำเร็จ กลับมาก็มาทำธุรกิจต่างๆ มากมายจนมีฐานะมั่นคง

“ผมสนใจงานการเมืองมาตั้งแต่เด็กๆ ชอบดูอภิปรายในสภา เห็นนักการเมืองรุ่นเก่าๆ โต้ตอบชิงไหวชิงพริบกันด้วยความคิดแบบจริงๆ จังๆ จึงอยากเข้ามาทำงานการเมืองบ้าง ซึ่งสิ่งที่ถนัดคือ งานเกี่ยวกับเศรษฐกิจและเกษตร ดังนั้น เมื่อพรรคสนับสนุนจึงพร้อมเดินลุยบนเส้นทางการเมืองอย่างเต็มที่” รัฐชยุตม์ กล่าว