ศาลอุทธรณ์ยืนยกฟ้อง "ประยุทธ์" ปมออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนยกฟ้อง "ประยุทธ์" ออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ เขต กทม.ปี 63 โดยอ้างเหตุมีการชุมนุม ชี้นายกฯมีอำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฯ พฤติการณ์ไม่เข้าองค์ประกอบความผิด
เมื่อวันที่ 17 ส.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงาน มีการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีที่ประชาชน 12 คน ยื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ในความผิดต่อความมั่นคงของรัฐ ตามประมวลกฎหมายอาญา (ป.อ.)มาตรา 116 กรณีเมื่อวันที่ 14-22 ต.ค.63 พล.อ.ประยุทธ์ นายก ฯ ได้ออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่ กทม. โดยอ้างเหตุมีบุคคลหลายกลุ่มเชิญชวนให้มีการชุมนุมสาธารณะโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
โดยชั้นตรวจฟ้องของศาลชั้นต้น ศาลพิจารณาฟ้องของโจทก์แล้ววินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยไม่ใช่การกระทำที่เป็นองค์ประกอบความผิดตาม ป.อ.มาตรา 116 ที่โจทก์ได้ตั้งเป็นข้อหา จึงพิพากษายกฟ้อง
ซึ่งต่อมาโจทก์ยื่นอุทธรณ์ โดยศาลอุทธรณ์ วินิจฉัยแล้วเห็นว่า ที่จำเลยประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่ กทม. ตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 และมาตรา 11 พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ซึ่งให้อำนาจแก่จำเลยในฐานะนายกรัฐมนตรีที่จะมีประกาศได้หากปรากฏเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทำที่มีความรุนแรงกระทบต่อความมั่นคงของรัฐความปลอดภัยในชีวิตหรือทรัพย์สินของรัฐหรือบุคคล การที่จำเลยมีประกาศเช่นนั้น จึงไม่ได้เป็นการกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวิธีอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ
ส่วนจะมีเหตุให้จำเลยมีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินตามที่กล่าวอ้างหรือไม่นั้น เป็นความชอบด้วยกฎหมายในการมีประกาศดังกล่าวซึ่งเป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก
อีกทั้งการมีประกาศตามบทบัญญัติแห่งพระราชกำหนดดังกล่าวก็มีเจตนาเพื่อให้มีการแก้ไขเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ยุติลงได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงทีไม่ใช่มีความมุ่งหมายเพื่อให้ประชาชนทั่วไปหรือโจทก์ทั้งสิบสองล่วงละเมิดประกาศดังกล่าวตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์ทั้งสิบสอง แต่อย่างใด
การกระทำของจำเลยตามฟ้อง จึงไม่เป็นความผิดตาม ป.อ.มาตรา 116 อุทธรณ์ของโจทก์ทั้งสิบสองฟังไม่ขึ้น ศาลอุทธรณ์จึงพิพากษายืน


