'ก้าวไกล'ลั่นประเทศไทยมาถึงจุดวิกฤตเพราะมีนายกชื่อ"ประยุทธ์"

วันที่ 21 ก.ค. นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. และโฆษกพรรคก้าวไกล (กทม.) กล่าวว่า สถานการณ์ประเทศไทยในขณะนี้ไม่สามารถไปต่อได้แล้วจริงๆ ระบบการจัดการรองรับผู้ป่วยและควบคุมโรคแก้ไขกันวันต่อวัน ไม่มีแผนรองรับ สถานการณ์ที่ยืนปากเหวเช่นนี้ นายกรัฐมนตรีกลับทำงานที่บ้าน วันนี้สิ่งที่รัฐบาลต้องทำคือเปิดหูเปิดตา ที่ผ่านมาฝ่ายค้านสะท้อนปัญหาเสนอแนะทางออกกันทุกวัน เหตุการณ์ที่มีผู้เสียชีวิต ริมถนนในวันเดียวถึง 5 ราย แต่ไม่มีใครกล้ามาเก็บศพ พี่น้องประชาชนคนไทยตั้งคำถามเป็นเสียงเดียวกันว่า เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร เรายังคงเจอกรณีที่มีผู้เสียชีวิตคาบ้านอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่รัฐมนตรีเคยรับปากว่าจะไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก

“ในวันที่เลวร้ายเช่นนี้ เรากลับไม่เห็นผู้รับผิดชอบสถานการณ์คนใดที่เคยกล่าวคำอวดดีและใช้กฎหมายไล่บี้ต่อคำวิพากษ์วิจารณ์กล้าหาญออกมาสบตาประชาชนและแสดงความรับผิดชอบต่อความผิดพลาดอย่างตรงไปตรงมาแม้แต่คนเดียว เรามีผู้นำที่รวบอำนาจทุกอย่างไว้กับตัวเองมาแล้วเกือบ 2 ปี แต่ยังคงเอาแต่หลบอยู่หลังแป้นพิมพ์แล้วเขียนข้อความสวยหรูราวกับว่าอยู่กันคนละโลกกับประชาชน เพื่อบอกว่าเขายังทำงานอยู่ ขณะที่ประชาชนกลับไม่รู้สึกสัมผัสถึงสิ่งนั้นได้เลย เป็นผู้นำที่มั่นหน้าว่ามาจากกองทัพแต่ชอบเอาแต่หดหัวอยู่ในบ้านพักหลวง รอรับสวัสดิการที่ไม่ควรได้ในค่ายทหารอย่างหรูหรา ในขณะที่บุคลากรด่านหน้ายังต้องออกไปเผชิญเสี่ยงทุกๆ วันด้วยอาวุธที่ประสิทธิภาพน้อยที่สุดที่ท่านเลือกให้เพื่อไปสู้รบปรบมือในสมรภูมิเชื้อโรค ราวกับยื่นมีดปอกผลไม้แล้วบอกให้พวกเขาไปสู้ให้เต็มที่ท่ามกลางห่ากระสุนหูดับตับไหม้” นายณัฐชา กล่าว

นายณัฐชา กล่าวว่า หากรัฐบาลใส่ใจประชาชนมากกว่านี้ ป่านนี้เราคงมีวัคซีนที่หลากหลาย ไม่ใช่วัคซีนที่มีประสิทธิภาพดีมากในการป้องกันการนำเข้าวัคซีนอื่นที่มีประสิทธิภาพดีกว่าในการป้องกันโรคเข้ามา เราคงไม่ต้องเจอกับคำโกหกหลอกลวงมานานนับปีว่า เราจะมีวัคซีนที่ผลิตได้เองในประเทศและจะได้ใช้วัคซีนเหล่านั้นก่อน ทั้งที่ไม่เคยมีอยู่ในสัญญา ดั้งนั้น หากจะตอบคำถามแรกว่าเรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ตนคิดว่าทุกคนมีคำตอบเดียวที่ตรงกัน นั่นก็คือ เพราะ เรามีนายกฯ ชื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่นเอง