posttoday

"อุทัย พิมพ์ใจชน"ชี้แฟลซม็อบเกิดจากต้นเหตุคนยึดอำนาจ

20 ตุลาคม 2563

"อุทัย พิมพ์ใจชน"อดีตประธานรัฐสภาชี้แฟลซม็อบเยาวชนขยายวงทั่วประเทศ ต้นเหตุเกิดจากคนยึดอำนาจเป็นได้แค่กรรมการแต่กลับมาต่อยเองจนถูกไล่ให้ลาออก

เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2563 นายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานรัฐสภาและอดีตส.ส.หลายสมัยเปิดเผยถึงสถานการณ์การชุมนุม"แฟลซม็อบ"ของนักเรียน นิสิตนักศึกษาและประชาชนที่กระจายไปทั่วประเทศว่า ต้องใช้คำ"อย่างนี้ก็ยุ่งตายห่า.."ที่นายประสิทธิ์ กาญจวัฒน์ อดีตประธานรัฐสภา เคยอุทานวลีนี้ขณะประชุมสภาช่วงปี2518 เพราะเกิดความวุ่นวายสับสนในระหว่างประชุมสภา

นายอุทัยกล่าวว่า ปัญหาบ้านเมืองเวลานี้เป็นผลมาจากการยึดอำนาจของคสช.หรือจะเรียกว่ามรดกบาปจากการรัฐประหารปี2557ก็ได้ การแก้ปัญหาความขัดแย้งแตกแยกตอนนั้นถือว่าพอไปได้ แต่พล.อ.ประยุทธ์ยึดอำนาจแล้วไม่คืนอำนาจ มิหนำซ้ำ บอกว่าจะคืนความสุข ก็ไม่เห็นความสุข ตรงกันข้าม ประชาชนมีแต่ความทุกข์

"ผมเคยเตือนพล.อ.ประยุทธ์แล้วแต่ไม่ฟัง พล.อ.ประยุทธ์เป็นได้แค่กรรมการห้ามมวย อย่าลงไปต่อยเอง แต่ไม่เชื่อ แล้วเป็นไง รัฐธรรมนูญเขียนให้สืบทอดอำนาจ วางกลไกที่เป็นพวกพ้องไว้หมด คอยเล่นงานฝ่ายตรงข้าม เกือบ 7 ปี รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ล้มเหลวทุกเรื่อง คอรัปชั่นเกิดขึ้นมากมาย คนยากจนเต็มไปหมด ทำให้คนออกมาขับไล่ให้ออกจากนายกฯ แต่พล.อ.ประยุทธ์ไม่ยอมออก อย่างนี้ก็ยุ่งตายห่า น่ะสิ"นายอุทัยกล่าว

อนึ่ง ที่มาของคำ"อย่างนี้ก็ยุ่งตายห่า" มาจากในการทำหน้าที่ประธานนั่งบนบัลลังก์ในที่ประชุมสภาผู้แทนฯ นายประสิทธิ์พูดกระซิบกับนายประมวล กุลมาตย์ รองประธานสภาฯด้วยวลีดังกล่าวโดยลืมไปว่า ไมโครโฟนกำลังเปิดอยู่ ทำให้เสียงได้ยินไปทั่วห้องประชุมสภาฯ หนังสือพิมพ์เลยนำคำนี้ไปเขียนจนกลายเป็นคำพูดหรือวลีทีฮิตติดปากของคนทั่วไป