posttoday

ติดโควิดใหม่พุ่งทั่วโลก! สธ.ขอคนไทยอย่าประมาทต้องป้องกันโรคเข้ม

21 กันยายน 2563

กรมควบคุมโรคเผยผู้ติดเชื้อโควิด-19ใหม่ทั่วโลกเพิ่มเกือบวันละ 3 แสนราย ขณะที่เมียนมายอดเพิ่มก้าวกระโดด แนะคนไทยไม่ประมาท ยังต้องป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด

เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 63 นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วโลกในช่วงนี้เพิ่มขึ้นเกือบ 300,000 รายต่อวัน ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อทั่วโลกสะสมกว่า 31 ล้านราย และมีหลายประเทศกลับมาพบการระบาดระลอกใหม่ ซึ่งแต่ละประเทศได้มีมาตรการบริหารจัดการสถานการณ์ที่แตกต่างกันไป อาทิ อังกฤษ ที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่กว่า 4,000 รายในวันเดียว ได้ออกมาตรการเข้มการกักตัวผู้ติดเชื้อและผู้สัมผัสใกล้ชิด และสั่งปรับผู้ที่ฝ่าฝืน รวมถึงเอาผิดนายจ้างที่ลงโทษลูกจ้างที่ต้องกักตัว

สำหรับเมียนมา พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด จำนวน 671 รายภายในวันเดียว ได้มีมาตรการลดความแออัด ชาวเมียนมาที่เดินทางกลับเข้าประเทศจะต้องถูกกักตัว 14 วันและกักตัวที่บ้านต่ออีก 7 วัน และล็อกดาวน์ในบางพื้นที่ เพื่อลดโอกาสการแพร่เชื้อในประเทศ

สำหรับประเทศไทย การติดเชื้อในขณะนี้ส่วนใหญ่มาจากผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ซึ่งภาครัฐได้วางมาตรการเฝ้าระวังควบคุมโรคทั้งด่านท่าอากาศยาน และด่านพรมแดน ผู้เดินทางทุกรายต้องเข้ารับการกักตัวเพื่อเฝ้าระวังอาการในสถานที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) สถานกักตัวที่รัฐกำหนด (Alternative State Quarantine) หรือสถานพยาบาลทางเลือก (Alternative Hospital Quarantine) และตรวจหาเชื้อตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข

ทั้งนี้สถานกักตัวทางเลือกไม่ว่าจะเป็นโรงแรมหรือโรงพยาบาล ผู้กักตัวจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายหากพบติดเชื้อจากประกันโควิดที่ทำไว้ก่อนการเดินทางเข้าประเทศ ส่วนสถานที่รัฐจัดให้จะจัดไว้สำหรับคนไทยที่เดินทางเข้าประเทศเท่านั้น โดยรัฐจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้

ส่วนคนในประเทศเองขอให้อย่าประมาท ยังคงปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัด ด้วยการสวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้า ทุกครั้งที่ออกจากบ้านและตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ ล้างมือบ่อยๆ เลี่ยงการนำมือสัมผัสบริเวณใบหน้า ตา จมูกปาก เว้นระยะห่างระหว่างผู้อื่นเท่าที่ทำได้ เลี่ยงการเข้าไปในสถานที่แออัด เมื่อป่วยขอให้อยู่บ้านหรือรักษาตัวให้หายก่อนไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อลดโอกาสในการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น