posttoday

'ธนาธร'ลุยปฏิรูปกองทัพเปิดเฟซบุ๊กแข่ง'บิ๊กแดง'ให้ทหารผู้น้อยร้องเรียน

15 กุมภาพันธ์ 2563

'ธนาธร' เผย "อนาคตใหม่" จะขอตั้งกรรมาธิการตรวจสอบเสนอแนะการปฏิรูปกองทัพ พร้อมเปิด Facebook ส่วนตัวให้ทหารชั้นผู้น้อยร้องเรียนแข่งกับ ผบ. ทบ.

เมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว พรรคอนาคตใหม่ได้จัดกิจกรรม "จากโคราชสู่การปฏิรูปกองทัพ #เมื่อน้ำตาไม่ใช่ทางออก" โดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวปราศรัยในหัวข้อ "ปฏิรูปกองทัพอย่างไรไม่ใช่เป็นแค่การแ(ส)ดง" โดยระบุว่า เหตุการณ์ที่โคราชให้บทเรียนว่าหากสังคมไทยยุติธรรมกว่านี้เหตุการณ์นั้นก็อาจจะไม่เกิดก็ได้ ดังนั้น จึงต้องมาพูดถึงบ่อเกิดความไม่ยุติธรรม คือ โครงสร้างของกองทัพที่มีปัญหา

'ธนาธร'ลุยปฏิรูปกองทัพเปิดเฟซบุ๊กแข่ง'บิ๊กแดง'ให้ทหารผู้น้อยร้องเรียน

ทั้งนี้ ขอบอกไปถึง ผบ.ทบ. ว่า ต้องปฏิรูปกองทัพจริงจัง ที่ผ่านมาเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งกรรมาธิการงบประมาณได้เคยสอบถามกระทรวงกลาโหมไป 5 เรื่อง 1.ธุรกิจมวย รายรับรายจ่ายค่าโฆษณามีเท่าไหร่ 2.สนามม้าที่โคราชก็ได้ถามว่าเงินที่ได้มาเป็นเท่าใด รายได้เสียภาษีถูกต้องหรือไม่ 3.เงินนอกงบประมาณ สอบถามว่าเงินปีละ 1.8 หมื่นล้านบาทได้เอาไปใช้อย่างไร เพราะเงินนั้นสามารถทำประโยชน์ให้กับประชาชนได้มหาศาล

4.ผลประโยชน์จากคลื่นวิทยุและโทรทัศน์ รายได้สัมปทานและค่าโครงข่ายพื้นฐานที่ให้ทีวีดิจิทัลเป็นเงินเท่าไหร และ 5.กองทัพมีปฎิบัติข้อมูลข่าวสารหรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมามีการใช้คำพูดปลุกให้คนเกลียดกัน ใน 5 หัวข้อเหล่านี้ได้ถามตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2562 แต่ผ่านมา 80 วันก็ยังไม่ได้รับคำตอบสักข้อ

นายธนาธร กล่าวว่า เหตุที่ต้องถามเรื่องพวกนี้เพราะเป็นเรื่องโครงสร้างของกองทัพที่ไม่มีใครเห็นและเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดความ อยุติธรรมเกิดขึ้น ความไม่ยุติธรรมที่เป็นตัวอย่าง คือ กรณีธุรกิจบ้านจัดสรรของกองทัพ จ่าสิบเอกคนหนึ่งอยากมีบ้านสักหลัง การไปกู้เงินจากกรมสวัสดิการทหารบกทำได้ยาก จึงต้องเข้าหานายหน้าคนสนิทของผู้พันเพื่อติดต่อผู้พันให้เซ็นอนุมัติเงินกู้

เมื่ออนุมัติเงินกู้ให้แล้วก็ไปติดต่อธุรกิจบ้านจัดสรรเพื่อซื้อที่ดินและสร้างบ้านให้เป็นเงิน 1 ล้านบาท และนำเอกสารเหล่านี้ไปหากรมสวัสดิการทหารบกเพื่อขอกู้เงิน และจ่ายเงินตรงให้กับธุรกิจบ้านจัดสรร บ้านที่จ่าสิบเอกไปซื้อไม่ได้อยู่ในเมืองแต่ไปอยู่ชนบทมีขนา 40 ตารางวา ราคาประเมินจากผู้เชี่ยวชาญและการก่อสร้างประมาณ 7 แสนบาทเท่านั้น จ่าสิบเอกเป็นยศที่สูงสุดของชั้นประทวน และโอกาสในทางอาชีพการงานไปถึงสัญญาบัตรทำได้ยากมาก ดังนั้น การผ่อนบ้านด้วยเงินเท่านี้จึงเป็นเรื่องลำบากมาก กรณีเช่นนี้เกิดขึ้นทั่วประเทศแต่อาจต่างกันในรายละเอียด

นายธนาธร กล่าวว่า การปฏิรูปกองทัพเป็นเรื่องจำเป็นของประเทศ เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ผบ.ทบ. บอกว่าจะปฏิรูปกองทัพ 5 ประการ จะทำให้เสร็จภายใน 90 วัน หรือแม้แต่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ก็เห็นถึงการปฏิรูปเช่นกัน แต่มีปัญหาที่สำคัญ คือ จะเชื่อใจผบ.ทบ. และนายกฯ ได้อย่างไรว่าจะปฏิรูปกองทัพอย่างจริงจัง

'ธนาธร'ลุยปฏิรูปกองทัพเปิดเฟซบุ๊กแข่ง'บิ๊กแดง'ให้ทหารผู้น้อยร้องเรียน

"ผมมี เหตุผลที่ทำให้ไม่ไว้ใจนายกฯ และผบ.ทบ. ได้แก่ 1.ทรัพย์สินของนายพลหลังการรัฐประหารปี 2557 ที่เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) 81 คน พบว่ามีทรัพย์สินเฉลี่ย 78 ล้านบาทต่อคน 2.คนกลุ่มนี้ยังเป็นคนกลุ่มที่มีทหารรับใช้ด้วย จะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะมีการปฏิรูปกองทัพกันจริงๆ ที่จะไปกระทบกับคนกลุ่มนี้ 3.นายกฯ ก่อนหน้านี้มีมาตรา 44 จะทำอะไรก็ได้ แต่กลับไม่เคยใช้มาตรา 44 ปฏิรูปกองทัพ แล้วจะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะจริงใจกับการปฏิรูปกองทัพ"นายธนาธร กล่าว

อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ล้อเล่นไม่ได้ วันหนึ่งจะมาร้องไห้อีกวันหนึ่งจะจูงหมามาด่าคนไม่ได้ จึงไม่ไว้วางใจให้นายกฯ และผบ.ทบ.เข้ามาปฏิรูปกองทัพ

“หน้าที่ของประชาชน คือ ต้องทำให้การปฏิรูปกองทัพไม่ใช่แต่การแสดง หรือเพื่อเฉือนเนื้อส่วนน้อยออกเพื่อรักษาเนื้อส่วนใหญ่เอาไว้ นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดเพื่อการปฏิรูปกองทัพโดยจะให้พวกเขาทำกันเองไม่ได้” หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าว

นายธนาธร กล่าวอีกว่า โครงสร้างปัญหาของกองทัพมีด้วยกัน 3 ประการ 1.โครงสร้างของกองทัพที่ไม่เปิดโอกาสให้ประชาชนตรวจสอบ เป็นอาณาจักรที่มืดมิด กลายเป็นรัฐอิสระ 2.โครงสร้างเกี่ยวกับสิทธิมุนษยชน ที่เกิดการละเมิดสิทธิอย่างสม่ำเสมอ ทหารชั้นผู้น้อยบาดเจ็บและล้มตายจากการซ่อม แต่กลับไม่เคยได้รับความยุติธรรม และ 3.วัฒนธรรมคนผิดลอยนวล นายทหารชั้นสูงไม่ว่าจะมีส่วนต่อการซ่อมไม่เคยมีใครต้องมารับผิดชอบ

จากปัญหาโครงสร้างเหล่านี้ที่ทำให้เชื่อว่าเราต้องมีมาตรการเพิ่มเติมอีก 3 มาตรการหรือ 3 ป. ไปถึงผบ.ทบ. ได้แก่ 1.เปิดชื่อ คือ มีนายทหารที่เกษียณไปแล้วยังใช้บ้านพักทหารกี่คน การพาณิชย์ของกองทัพต้องเปิดให้หมด 2.เปิดงบ ตกลงว่างบประมาณที่ใช้ในการบริหารเชิงพาณิชย์และในการปฏิบัติการต่างๆมีเท่าไหร และ3.เปิดทาง เราปล่อยให้กองทัพปฏิรูปกันเองไม่ได้ เพราะต้องเปิดทางการมีส่วนร่วมของประชาชน สื่อมวลชน ส.ส.เข้าไปร่วมติดตามและตรวจสอบการปฏิรูปกองทัพ

ทั้งนี้ในสัปดาห์พรรคอนาคตใหม่จะขอเสนอตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญตรวจสอบการปฏิรูปกองทัพตามที่ผบ.ทบ.เสนอมา ไม่มีเหตุผลใดๆ ที่ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลจะไม่ให้ตั้งคณะกรรมาธิการนี้ เพราะนายกฯ และผบ.ทบ.พูดแล้วเรื่องการปฏิรูปกองทัพ

นอกจากนี้จะขอเปิดเฟสบุ๊คส่วนตัวเพื่อสื่อสารกับทหารชั้นผู้น้อยที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในกองทัพแข่งกับ ผบ.ทบ. ก็ให้ร้องเรียนมาที่ผมเต็มที่ได้เลย จะใช้เวลาที่เหลือก่อนการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะเป็นปากเสียงให้กับพวกท่านเอง

“ผมอยากบอกประชาชนว่าเรายืนอยู่ในช่วงเวลาประวัติศาสตร์และเป็นเวลาที่วาระการปฏิรูปกองทัพได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง จึงเป็นโอกาสที่ดีที่สุดของการปฏิรูปกองทัพ อย่าทิ้งโอกาสนี้ไป การปฏิรูปกองทัพครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นสมัยรัชกาลที่ 5 และเกิดอีกครั้งสมัยสงครามโลก อีก 90 วันจะครบสัญญาที่ผบ.ทบ.จะปฏิรูปกองทัพ คือ วันที่ 12 พ.ค. ผมทำคนเดียวไม่ได้ วันนั้นมาเจอกันอีกรอบเพื่อมาทวงสัญญาการปฏิรูปกองทัพด้วยกัน อย่าให้โอกาสที่ดีครั้งนี้หลุดลอย อย่าให้คนที่โคราชตายฟรี อย่าให้ลูกหลานของเราเจอกับโศฏนาฎกรรมแบบนี้อีก” นายธนาธร กล่าว

'ธนาธร'ลุยปฏิรูปกองทัพเปิดเฟซบุ๊กแข่ง'บิ๊กแดง'ให้ทหารผู้น้อยร้องเรียน

ขณะที่ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ปราศรัยหัวข้อ "ทุกซ่อมเป็นประจำจะเป็นทำอย่างไร" โดยระบุว่า ปี 2561 กองทัพเคยพูดเรื่องการตั้งศูนย์ร้องทุกข์ของทหารชั้นผู้น้อยซึ่งฟังดูเหมือนดีแต่ไม่มีใครกล้าร้อง เพราะไม่มีการตรวจสอบการอำนาจของระบบ ไม่มีการคุ้มครองสิทธิของผู้ร้อง ล่าสุดผบ.ทบ.ประกาศช่องทางของการร้องเรียน แต่ขอตั้งคำถามว่าปัญหาช่องทางหรืออยู่ที่ระบบวันนี้เปลี่ยนแค่ช่องทางแต่โครงสร้างยังยึดกับ พรบ. วินัยทหาร พ.ศ. 2476 ก็รังแต่จะทำให้คนร้องทุกข์ถูกกระทืบง่ายขึ้น

นายวิโรจน์ ได้แจกแจง พ.ร.บ.วินัยทหาร โดยอ้างว่าทั้งหมดเน้นที่ดุลพินิจของผู้บังคับบัญชา ซึ่งกฎหมายควรถูกปรับให้ทันสมัย แต่อย่างไรก็ตามกฎหมายนี้ไม่ได้ให้อำนาจทหารซ่อมกันเอง ทั้งยังมีกฎหมายห้ามร้องทุกข์ก่อน 24 ชั่วโมง ทั้งที่หากมีการซ้อมหลักฐานก็คงจะถูกทำลายหมดแล้ว แถมยังกำกับไว้ว่าร้องผิดระเบียบก็ถือว่าผิดวินัยอีก

"การทำให้การธำรงวินัยทหารเป็นธรรมจะต้องใส่หลักสิทธิมนุษยชน ทั้งในค่ายทหารและโรงเรียนทหารไม่อย่างนั้นประชาชนจะระแวงทหารไม่จบไม่สิ้น และต้องมีกลไกในการคุ้มครองผู้ถูกร้องทุกข์" นายวิโรจน์กล่าว

นอกจากนี้ต้องพิจารณาเขตอำนาจของศาลทหารซึ่งจำเป็นเฉพาะศาลอาญาศึก การจำกัดบริเวณเฉพาะเขตสู้รบหรือเขตที่มีปัญหาความมั่นคงเท่านั้นและจำเลยจะต้องเป็นทหารเท่านั้นห้ามจับขึ้นศาล

ทั้งนี้ มีความตั้งใจช่วยทหารชั้นผู้น้อย แค่บัญชีการหักเงินเดือนค่าใช้จ่าย ของทหารมาเข้าระบบ Excel กวาดดูก็รู้แล้วว่าใครเดือดร้อนอะไร ไม่ต้องมาเล่นปาหี่ตั้งศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์อย่างที่ทำอยู่

"หากกองทัพโปร่งใสเพียงพอกล้าให้ผมไปตรวจบัญชีการเบิกค่าประกอบเลี้ยงเพื่อเทียบกับจำนวนทหารที่อยู่ในค่ายหรือไม่ ถ้ากล้า ผมและกรรมาธิการทหาร สภาผู้แทนฯ จะไปโดยไม่บอกล่วงหน้า"นายวิโรจน์ กล่าว