posttoday

ภรรยาธนาธร–พนักงานฯวีลัคยัน"สมพร-ธนาธร"อยู่พร้อมหน้ามีการโอนหุ้นกันจริง

18 ตุลาคม 2562

ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัยหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ถือหุ้นสื่อ20พ.ย.62ภรรยาธนาธร-พนักงานฯวีลัคขึ้นเบิกความยันมีการโอนหุ้นกันจริง

ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัยหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ถือหุ้นสื่อ20พ.ย.62ภรรยาธนาธร-พนักงานฯวีลัคขึ้นเบิกความยันมีการโอนหุ้นกันจริง

ศาลรัฐธรรมนูญ นัดฟังคำวินิจฉัยคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้วินิจฉัยความเป็น ส.ส.ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) เนื่องจากถือหุ้นสื่อบริษัท วี-ลัค มีเดีย เข้าลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.หรือไม่ ในเวลา 14.00 น.ของวันที่ 20 พ.ย.62 หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการไต่สวนพยานในวันนี้

ที่ศาลรัฐธรรมนูญช่วงบ่ายที่ผ่านมา ได้ไต่สวนพยานบุคคล นางรวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ ภรรยานายธนาธร ในการโอน หุ้นบริษัทวีลักมีเดีย โดยนางวริพรรณ ระบุว่าวันที่ 8 ม.ค ตนอยู่บ้านตลอดทั้งวัน และได้มีการนัดหมายให้นางสมพร และนายธนาธรกลับมาบ้านในเวลา 18.00 น. โดยนายณัฐนันท์ ทนายความได้เดินทางมาถึงเป็นคนแรกเพื่อจัดเตรียมเอกสาร และนายชัยสิทธิ์ พนักงานขับรถได้มาส่งนายธนาธร ซึ่งได้เดินทางจากจ.บุรีรัมย์มาถึงบ้านพักในเวลา 16.00 น. ต่อมานางสมพร และน.ส.ลาวัลย์ จันทร์เกษม พนักงานบริษัทที่ดูงานด้านบัญชี และน.ส.กานต์ฐิตา อ่วมขำ พนักงานที่ดูแลด้านการเงินของบริษัทได้เดินทางมาถึงในเวลาไล่เลี่ยกัน จากนั้นจึงมีการตรวจสอบสอบเอกสารที่จะเซ็นรวมทั้งอากรแสตมป์โดยนางสมพร ได้เตรียมเช็คมา 2 ใบ เพื่อชำระค่าหุ้น สั่งจ่ายนายธนาธร 6,750,000 บาทและตน โดยเช็คลงวันที่ 8 ม.ค.62 แต่ตนยังไม่ได้นำไปขึ้นเงินในทันที เนื่องจากมีภารในการเลี้ยงดูบุตรที่เพิ่งคลอดได้ 3 เดือนและบุตรคนอื่นๆ อีกทั้งเชคทั้ง 2ฉบับเป็นเชคของคนในครอบครัว ต่อมาในเดือนพ.ค.จึงนำเชคไปขึ้นเงินทั้งของสามีและตนเอง

ศาลได้ซักถามถึงการเข้าไปเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทวืลัคฯของนางรวิพรรณโดยได้ชี้แจงว่า บริษัทโซลิดมีเดียตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2551 โดยนางสมพร เป็นผู้จัดตั้งพร้อมทีมงานและผลิตนิตยสารWHO จำหน่าย ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัทวีลัคมีเดีย และในช่วงปลายปี 2554 นางสมพรได้ชวนให้มาช่วยบริหารในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ โดยในปี2555 บริษัทฯได้ผลิตหนังสือทั้งหมด 3 เล่ม คือ ฮู นิตยสารจิ๊บ จิ๊บ ของบริษัทนกแอร์ และนิตยสารของธนาคารไทยพาริชย์ ต่อมาปี 2559 นิตยสารฮูเริ่มไม่ทำกำไร เนื่องจากตลาดนิตยสารซบเซาจึงได้เลิกผลิตและเลิกจ้างพนักงานในส่วนนี้ แต่นิตยสารจิ๊บ จิ๊บและของไทยพาณิชย์ ยังคงผลิตอยู่เนื่องจากมีการทำสัญญา

ต่อมาศาลได้เบิกตัวน.ส.ลาวัลย์ ผู้จัดการทั่วไปที่ดูแลงานบัญชีของบริษัทในเครือไทยซัมมิท มาไต่สวน โดยน.ส.ลาวัลย์ ยืนยันว่า ในวันที่ 8ม.ค.นายธนาธร นางสมพร และนางรวิพรรณ อยู่ครบและมีการเซ็นต์เอกสารการโอนหุ้น มีนายณัฐนันท์ ตนและน.ส.กานต์ฐิตา เป็นพยาน โดยทนายและตนเป็นผู้จัดเตรียมเอกสารทั้งหมด ซึ่งนางสมพร ก็ได้เตรียมเซ็คจำนวน 2ฉบับ และตนได้ตรวจสอบตราสารโอนหุ้นกับสมุดทะบียนผู้ถือหุ้น การโอนหุ้นของผู้โอนและผู้รับโอนว่าถูกต้องหรือไม่ ตามปกติภายหลังการโอนหุ้นของบริษัทในเครือแต่ละครั้งแห่งจะต้องมีการยื่นสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (บอจ.5) จะต้อง แต่เฉพาะหุ้นบริษัทวีลัคฯตนยังไม่ได้แจ้งทันทีเนื่องจากเป็นการโอนหุ้นของคนในครอบครัว