posttoday

มท.จับมือพาณิชย์เร่งขับเคลื่อนนโยบายประกันรายได้เกษตรกร

30 กันยายน 2562

มหาดไทยจับมือพาณิชย์ชี้แจงผู้ว่าทั่วประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายประกันรายได้เกษตรกรตามนโยบายรัฐบาล

มหาดไทยจับมือพาณิชย์ชี้แจงผู้ว่าทั่วประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายประกันรายได้เกษตรกรตามนโยบายรัฐบาล

เมื่อวันที่ 30 ก.ย. ที่กระทรวงมหาดไทย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เป็นประธานในการประชุมชี้แจงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว และชาวสวนปาล์มน้ำมัน ผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล (Video Conference) ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดที่วประเทศ คณะอนุกรรมการติดตามกำกับดูแลการบริหารจัดการข้าวระดับจังหวัด คณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาเกษตรกรอันเนื่องมาจากผลิตผลการเกษตรระดับจังหวัดทั่วประเทศ โดยมี นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย คณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยและผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค เข้าร่วมการประชุม

มท.จับมือพาณิชย์เร่งขับเคลื่อนนโยบายประกันรายได้เกษตรกร

นายจุรินทร์ กล่าวว่า การประชุมในวันนี้เป็นการซักซ้อมความเข้าใจให้กับผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะเป็นประธานคณะอนุกรรมการติดตามกำกับดูแลการบริหารจัดการข้าวระดับจังหวัด และคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาเกษตรกรอันเนื่องมาจากผลิตผลการเกษตรระดับจังหวัด รวมถึงคณะกรรมการอื่น ๆ
ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนหน่วยงานปฏิบัติทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เพื่อให้เกิดความเข้าใจในนโยบายประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว และชาวสวนปาล์มน้ำมัน เพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปในทางเดียวกัน มีประสิทธิภาพและเกิดความเรียบร้อย ซึ่งนโยบายประกันรายได้ฯ เป็นนโยบายเร่งด่วน และเป็น 1 ใน 12 นโยบายที่รัฐบาลได้ชี้แจงต่อรัฐสภา

ทั้งนี้ รัฐบาลจะประกันรายได้ผลิตผลเกษตร 5 ชนิดได้แก่ ปาล์ม ข้าว ยาง ข้าวโพด และมันสำประหลัง และ นอกเหนือจากพืช 5 ชนิดนี้ รัฐก็จะดูแลด้วยเช่นกัน โดยจะดูแลในวิธีการอื่น ๆ ตามความเหมาะสมทุกผลผลิต สำหรับการประกันรายได้ข้าวและปาล์ม ตามมติ ครม.27 ส.ค. 2562 ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการปฏิบัติ จึงต้องสร้างความเข้าใจ โดยหลักการประกันรายได้ เป็นการป้องกันความเสี่ยงด้านราคาให้เกษตรกร ไม่ให้ประสบปัญหาขาดทุน เป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ

มท.จับมือพาณิชย์เร่งขับเคลื่อนนโยบายประกันรายได้เกษตรกร

นอกจากนั้น ยังทำให้กลไกตลาดทำงานได้ปกติ ผู้ประกอบการสามารถแข่งขันทางการค้าได้ ทำให้เกษตรกรจะมีรายได้ ทั้งจากราคาพืชผลที่ขายได้จริง บวกกับ รายได้ส่วนต่างที่รัฐจ่ายชดเชยให้ ซึ่งการประกันรายได้ปาล์มจะเริ่มชดเชยงวดแรกในวันที่ 1 ต.ค. 2562 นี้ โดย ธ.ก.ส.จะโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้โดยตรง

สำหรับ การประกันรายได้ข้าวเปลือก กำหนดไว้ 5 ชนิด ได้แก่ ข้าวหอมมะลิ ข้าวหอมมะลินอกพื้นที่ ข้าวเจ้า ข้าวหอมปทุมธานี1 และข้าวเหนียว โดยกำหนดราคาประกัน และปริมาณที่แตกต่างกัน และข้าวจะเริ่มจ่ายชดเชยงวดแรกในวันที่ 15 ต.ค. 2562 นี้ โดย ธ.ก.ส.จะโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้โดยตรง โดย เกษตรกรสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ กรมส่งเสริมการเกษตร หรือ สายด่วน 1569

ด้าน นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ได้เน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้นำนโยบายดังกล่าวไปสู่การปฏิบัติในพื้นที่อย่างจริงจัง พร้อมทั้งขอให้ประชาสัมพันธ์กับเกษตรกรได้รับทราบให้เข้าใจเกี่ยวกับนโยบาย แนวทางปฏิบัติและวิธีการต่าง ๆ เพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และเกิดผลสัมฤทธิ์กับพี่น้อเกษตรกรอย่างรวดเร็ว เป็นรูปธรรม และทั่วถึงกัน