ปชป.ส่อแตก! กลุ่มสายกปปส.จัดโผครม.ท้าชน"จุรินทร์"

ปชป.ป่วนหนัก!กลุ่มสายกปปส.จัดโผเก้าอี้รัฐมนตรีแข่งกลุ่ม “จุรินทร์”ชู”อภิรักษ์”นั่งรมว.พาณิชย์ “กรณ์”คุมเกษตรอ้างแกนนำพลังประชารัฐเห็นด้วย

ความคืบหน้าในการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีในส่วนโควต้าพรรคประชาธิปัตย์จำนวน 8 ตำแหน่ง7คนนั้น หลังนายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคได้นัดประชุมกรรมการบริหารพรรค ในวันนี้เวลา 14.00 น.เพื่อเคาะบุคคลที่เหมาะสมเป็นรัฐมนตรีก่อนที่จะให้ที่ประชุมร่วมส.ส.ให้ความเห็นในเวลา15.00.น.ในวันเดียวกัน ล่าสุดได้มีความเคลื่อนไหวจากกลุ่มส.ส.สายกปปส.และกลุ่มอดีตผู้สมัครชิงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการจัดโผครม.ใหม่ของพรรคแข่งกับโผครม.ก่อนหน้านี้ที่มีการคาดหมายว่าจะได้รับเลือกเป็นรัฐมนตรีตามที่กรรมการบริหารพรรคจะพิจารณา

ทั้งนี้รายชื่อที่กลุ่มดังกล่าวเสนอมานั้นคือให้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ เป็น รองนายกรัฐมนตรี ตำแหน่งเดียวในฐานะที่เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญทางด้านการค้าและการตลาดเป็นที่ยอมรับของนักธุรกิจ ซึ่งทางกลุ่มมองว่า ในโลกธุรกิจสมัยใหม่ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องใช้คนอย่างนายอภิรักษ์ มาบริหาร และนายกรณ์ จาติกวณิช เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เนื่องจากเป็นผู้ลงมือทำชุดนโยบาย แก้จน สร้างคน สร้างชาติ ด้วยตนเองมาตลอด 5 ปี ทั้งยังสามารถเชื่อมโยงกับ ธกส.ซึ่งเป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหาให้กับเกษตรกร โดยเฉพาะการประกันรายได้

สำหรับในตำแหน่งที่เป็นกระทรวงฯ ด้านสังคมอื่น ๆ นั้น ได้พิจารณาจากความเหมาะสมตามเกณฑ์ 6 ข้อที่ทางส.ส.อดีตผู้สมัครหัวหน้าพรรคได้ยื่นหนังสือถึงนายจุรินทร์ไว้แล้ว และโผชุดใหม่นี้ จะมีการนำเสนอในที่ประชุมส.ส.พรรคในวันที่ 14 มิ.ย. เวลา 15.00 น.

แหล่งข่าวกล่าวว่า โผดังกล่าวได้มีการหารือกับแกนนำพรรคพลังประชารัฐแล้ว เป็นที่พอใจ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทีมเศรษฐกิจของพรรคประชาธิปัตย์ที่มีชื่อทางสื่อมวลชนว่าไม่ตอบโจทย์สถานการณ์ปัจจุบัน

สำหรับหนังสือที่อดีตผู้สมัครชิงหัวหน้าพรรคได้ยื่นจดหมาย ลงวันที่ 6 มิถุนายน 2562 ถึง นายจุรินทร์  ผ่านทางนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ที่ผ่านมา นั้นระบุว่า ขอเสนอแนวทางการคัดสรรบุคคลเข้าสู่ตำแหน่งรัฐมนตรีใหม่

โดยเนื้อความในจดหมายระบุว่า ตามที่พรรคมีมติเข้าร่วมรัฐบาล กับพรรคพลังประชารัฐและพรรคร่วมอื่นนั้น เป็นที่ทราบกันว่า พรรคฯ ได้รับมอบหมายให้ดูแลบริหารราชการแผ่นดิน ในระดับรัฐมนตรีว่าการ 3 กระทรวง ระดับรัฐมนตรีช่วยว่าการ 4 กระทรวง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของพรรคและเกิดความเป็นธรรมในการเข้าสู่ตำแหน่ง จึงขอเสนอแนวทางการกำหนดหลักเกณฑ์การเข้าสู่ตำแหน่งดังนี้คือ

1.พรรคฯ ต้องคำนึงถึงความเป็นธรรม โดยไม่คำนึงถึงความเห็นต่างในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคครั้งที่ผ่านมา เพื่อให้มีความทั่วถึงเป็นธรรม 2. พรรคฯ ต้องคำนึงถึงความสำคัญกับ ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งในระบบเขต และบัญชีรายชื่อตามลำดับก่อนผู้ที่ไม่ได้เป็น ส.ส. 3. พรรคต้องคัดเลือกบุคคลเข้าสู่ตำแหน่งโดยคำนึงถึงภูมิภาค ข้อบังคับ และจำนวน ส.ส.ในภูมิภาคนั้น ๆ

4. พรรคฯต้องคำนึงถึงหลักอาวุโสในการคัดเลือก 5. พรรคฯ ต้องคำนึงถึงสตรี ตามข้อบังคับพรรคด้วย และ 6.พรรคต้องคัดสรรบุคคลโดยยึดหลักความสามารถและประสบการณ์ในงานบริหารราชการแผ่นดินกระทรวงนั้น ๆ

ทั้งนี้ ในจดหมายยังระบุด้วยว่า พรรคฯ ต้องยอมรับว่าการเข้าร่วมรัฐบาลผสมในครั้งนี้ มีความท้าทายเป็นอย่างมาก ทั้งจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคม ทั้งจากความเห็นที่ไม่ตรงกันในผู้สนับสนุนพรรคฯ ดังนั้น การคัดสรรบุคคลเข้าเป็นรัฐมนตรี จึงต้องสามารถประสานงานและรวบรวมปัญหาของประชาชนในพื้นที่ของเพื่อน ส.ส.ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และต้องทำงานให้เกิดความสำเร็จด้วย

แหล่งข่าวกล่าวว่า สำหรับข้อบังคับของพรรคประชาธิปัตย์นั้นจะให้อำนาจคณะกรรมการบริหารพรรคเป็นผู้พิจารณาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ส่วนส.ส.เพียงแค่พิจารณาให้คำรับรองหรือไม่รับรอง ถ้าไม่รับรองก็ให้กรรมการบริหารกลับไปทบทวน ไม่มีสิทธิ์เสนอคนมาแข่งเหมือนกับการโหวตในการเข้าร่วมรัฐบาล