4รัฐมนตรี'จตุรเทพ'ค้ำเก้าอี้'บิ๊กตู่'

ครม.ใหม่บิ๊กตู่ยังไม่สะเด็ดน้ำหลายพรรคเปิดศึกแย่งโควต้าเก้าอี้กันนัว แต่ 'ป้อม-ป็อก-วิษณุ-สมคิด'อยู่ในตำแหน่งเดิม

การจัดตั้งรัฐบาลบิ๊กตู่ชุดเลือกตั้ง ยังไม่ทันเป็นรูปเป็นร่าง แค่เริ่มฟอร์มรัฐบาล ก็ปรากฎข่าวพรรคร่วมรัฐบาลเปิดศึกแย่งชิงโควต้าเก้าอี้รัฐมนตรีกันนัว มีการกล่าวหา พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ซึ่งเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลใจแคบ ฮุบโควต้าเก้าอี้กระทรวงเกรด เอไว้หมด ทั้งกระทรวงด้านเศรษฐกิจ พาณิชย์ คลัง คมนาคม รวมถึงกระทรวงด้านความมั่นคง อย่างกระทรวงกลาโหม และมหาดไทย สร้างความไม่พอใจให้พรรคร่วมอื่นๆ ส่งผลให้การเจรจาแบ่งเก้าอี้ ยังไม่คืบหน้าเท่าที่ควร

อย่างไรก็ตาม งานนี้ ไม่ว่าใครจะแย่งเก้าอี้กับใคร ก็ว่ากันไปตามกลยุทธการต่อรองของแต่ละพรรค แต่ 4 ตำแหน่ง ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ล็อกไว้ ใครอย่ามายุ่ง คือตำแหน่งของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีด้านกฎหมาย และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษิ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ซึ่งทั้งหมด พล.อ.ประยุทธ์ จะจัดวางไว้ในตำแหน่งเดิม ของรัฐบาลชุดใหม่

ทั้งนี้หากถามว่า 4รัฐมนตรี ดังกล่าวนั้น มีความพิเศษอย่างไร ถึงทำให้"บิ๊กตู่"ต้องตีตราจองเก้าอี้ไว้ให้ คำตอบคือ 4 รัฐมนตรี ดังกล่าว ถือเป็นหัวใจสำคัญ ที่ทำให้บิ๊กตู่กลับมายืนอยู่ในอำนาจต่อไป ซึ่งหากเปรียบความสำคัญของ4รัฐมนตรีดังกล่าว เสมือน"จตุรเทพ"คู่บุญของ"บิ๊กตู่"ไปแล้ว

บทบาทความสำคัญของทั้ง 4 คน นั้น เริ่มที่ พล.อ.ประวิตร หรือบิ๊กป้อม พี่ใหญ่แห่งบูรพาพมัคฆ์ ซึ่งถือเป็นต้นกำเหนิดของ" 3 ป."คุมเครือข่ายในกองทัพจนทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ มีวันนี้ได้ ฉายา "3ป."นั้นประกอบ ด้วย พล.อ.ประวิตร หรือบิ๊กป้อม พล.อ.อนุพงษ์ หรือบิ๊กป็อก และ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งทั้ง 3 คน หอบหิ้วเดินตามกันมาจนเป็นผู้บัญชาการทหารบก และ ถึงจะเกษียณก็มาร่วมกันอยู่ในคสช.และรัฐบาล จวบจนจนถึงวันนี้

แม้ พล.อ.ประวิตร จะโดนมรสุมอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมาทั้งเรื่องของ "นาฬิกาหรู" เรื่องข้อครหาต่างๆมากมาย จนกลายเป็นจุดอ่อนของรัฐบาลคสช.แต่"บิ๊กตู่"ยังโอบอุ้มเอาไว้ และจะให้ทำหน้าที่เดิมต่อไปในรัฐบาลชุดใหม่ เพราะมีส่วนสำคัญที่ทำให้พรรคพลังประชารัฐชนะการเลือกตั้งในหลายพื้นที่

เช่นเดียวกับ พล.อ.อนุพงษ์ หรือบิ๊กป็อก ถือเป็นพี่รอง ของกลุ่ม 3ป. ซึ่งถูกวางให้เป็นรมว.มหาดไทยต่อไป แม้พรรคภูมิใจไทย ประกาศจองกระทรวงนี้มาตลอด แต่เมื่อ"บิ๊กป็อก"เป็นตัวยืน พรรคภูมิใจไทย จึงถอยร่นไปขอคุมกระทรวงคมนาคม แทน

ในช่วง 4 ปีกว่า ที่ผานมา หากว่ากันตามจริง ผลงานของ"บิ๊กป็อก" ในกระทรวงมหาดไทย ไม่ได้โดดเด่นมากนัก แถมยังมีเรื่องข้อครหามากมายไม่แพ้"บิ๊กป้อม" แต่ในการเลือกตั้งช่วงที่ผ่านมา ผลงานเข้าตา พล.อ.ประยุทธ์ บวกกับความใกล้ชิดเป็นพี่เป็นน้อง เลยต้องจัดให้อยู่ในตำแหน่งเดิม ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจสำคัญในการบริหารประเทศ

ขณะที่ "วิษณุ เครืองาม" ก็เป็นมือกฎหมายที่บิ๊กตู่ขาดไม่ได้ เพราะเป็น ผู้ออกแบบ ม.44 ให้บิ๊กตู่และคสช.ใช้อำนาจ จวบจนทุกวันนี้ และยังออกมาช่วยชี้แจงคลายปมปัญหาข้อกฎหมายตลอดเวลา จนได้ฉายา "เนติบริกร"

เส้นทางของ "วิษณุ"นั้นไม่ธรรมดา เคยเป็นรองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้ร่วมงานกับนายกรัฐมนตรีถึง 7 คน กับ รัฐบาล 10 ชุด ได้แก่ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ นายอานันท์ ปันยารชุน พล.อ.สุจินดา คราประยูร นายชวน หลีกภัย นายบรรหาร ศิลปอาชา พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และหลังจากลาออกจาก เลขาครม.ก็นั่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายสมัยทักษิณ ชินวัตร และเมื่อมานั่งเป็นมือกฎหมายให้"บิ๊กตู่"และ"คสช."ก็ได้รับความไว้วางใจ "บิ๊กตู่"เลยต้องเอาไว้ข้างกายต่อไป

ปิดท้ายที่"สมคิด จาตุศรีพิทักษ์"รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ที่รัฐบาลชุดนี้ขาดไม่ได้เพราะทุกนโยบายที่พรรคพลังประชารัฐหาเสียงล้วนมาจาก"สมคิด" และขณะเดียวกัน"สมคิด" ยังมีส่วนสำคัญในการอยู่เบื้องหลังการตั้งพรรคพลังประชารัฐ ซึ่ง มีอดีตรัฐมนตรี 4 ยอดกุมาร ที่ประกอบด้วย นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค อดีตรมว.อุตสาหกรรม นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค อดีตรมว.วิทยาศาสตร์ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค อดีต รมว.พาณิชย์ และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นเด็กในคา กระโจนออกมาอยู่เบื้องหน้าแทน ดังนั้นรองนายกรัฐมนตรีเศรษฐกิจ จึงไม่หนีไปไหน

ทั้งหมดนี้เป็นผลสำคัญที่ทำให้"บิ๊กตู่"ต้องจัด 4 รัฐมนตรี "จตุรเทพ"นี้ไว้ในรัฐบาลชุดใหม่ ขาดใครไปไม่ได้เลย