posttoday

หมวดเจี๊ยบ โชว์วิชั่นชูชาติพัฒนาไม่บังคับเป็นทหาร-ใช้สมยอม100%

27 กุมภาพันธ์ 2562

โฆษกฯเพื่อไทย อ้างประเทศพัฒนาเชื่อว่าการบังคับคนไม่เต็มใจเป็นทหารทำลายประสิทธิภาพกองทัพแนะใช้ระบบสมัครใจทั้งหมด

โฆษกฯเพื่อไทย อ้างประเทศพัฒนาเชื่อว่าการบังคับคนไม่เต็มใจเป็นทหารทำลายประสิทธิภาพกองทัพแนะใช้ระบบสมัครใจทั้งหมด 

เมื่อวันที่ 27 ก.พ.  ร.ท.หญิง สุณิสา ทิวากรดำรง หรือ หมวดเจี๊ยบ รองโฆษกและผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นกรณีการเกณฑ์ทหารและบทบาทหน้าที่กองทัพประเทศไทยกับต่างชาติ ว่า “จากข้อมูลของซีไอเอ ระบุว่าขณะนี้มี 88 ประเทศในโลกที่ยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหารไปแล้ว ไม่ใช่แค่ 13 หรือ 29 ประเทศอย่างที่โฆษกกระทรวงกลาโหมอ้าง ไม่ทราบว่าท่านอ้างอิงข้อมูลจากแหล่งไหน

ส่วนที่อ้างว่าฝรั่งเศสมีความคิดจะกลับมารื้อฟื้นการเกณฑ์นั้น ท่านไม่เห็นหรือว่า ช่วงนี้ประธานาธิบดีฝรั่งเศสโดนต่อต้านรุนแรงขนาดไหน แม้ว่าสาเหตุหลักของการจลาจลเมื่อเดือน ธ.ค ที่ผ่านมา จะพุ่งเป้าไปที่เรื่องการขึ้นภาษีน้ำมัน แต่ในช่วงหลังได้ลุกลามไปเป็นนโยบายด้านอื่นๆด้วย แล้วท่านคิดว่า คนฝรั่งเศสจะยอมถูกบังคับเกณฑ์ทหารงั้นหรือ เพราะฝรั่งเศสเป็นประเทศแรกๆ ที่ยกเลิกการเกณฑ์ทหารหลังเกิดเหตุการปฏิวัติฝรั่งเศส

นอกจากนี้ ประเทศที่พัฒนาแล้วส่วนใหญ่มีความเชื่อว่า การบังคับเกณฑ์ทหารส่งผลกระทบต่อความสามารถในการผลิตของประเทศและการบังคับเอาคนที่ไม่เต็มใจมาเป็นทหารย่อมทำลายประสิทธิภาพในการทำงานให้กองทัพ ดังนั้นข้ออ้างของโฆษกกระทรวงกลาโหมจึงไม่มีน้ำหนัก

ทั้งนี้ ปัจจุบันภัยคุกคามสำคัญของทุกประเทศคือภัยจากการก่อการร้าย ไม่ใช่การสู้รบด้วยการยกกำลังทหารเข้าห้ำหั่นกัน โดยการระงับข้อพิพาทระหว่างประเทศต้องใช้กลไกทางการทูตและเวทีการเจรจาไม่ใช่แก้ปัญหาด้วยการใช้กำลังหรือด้วยการสู้รบ ดังนั้น กองทัพไทยต้องปรับลดขนาดให้เล็กลงให้สอดคล้องกับภารกิจที่เปลี่ยนไป แต่ยังคงเข้มแข็ง ทันสมัยและมีสวัสดิการที่ดี

ในส่วนของจำนวนทหารเกณฑ์ก็ต้องลดลงให้สอดคล้องกับโครงสร้างที่เล็กลงในภาพรวม ไม่ใช่ว่านึกจะเรียกเกณฑ์ทหารปีละกี่แสนคนก็ได้ตามอำเภอใจ โดยอ้างว่าเพื่อความมั่นคง แต่ไม่อธิบายเหตุผลที่ชัดเจนว่ามีความจำเป็นอย่างไร ล่าสุดบังคับเกณฑ์ทหารถึง 104,734 นายต่อปี โดยมีข่าวทหารเกณฑ์หลายรายถูกบังคับใช้เป็นแรงงานทาส ไม่ได้ทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างที่คิด

ที่สำคัญ ต้องเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร แต่เปลี่ยนไปใช้ระบบสมัครใจและกองทัพอย่าอ้างว่าทำไม่ได้ เพราะเคยเลิกบังคับเกณฑ์ทหารแล้วใช้ระบบรับสมัครมาแล้ว 2 ครั้งในอดีต และมีคนสมัครจนล้นทั้ง 2 ครั้ง แต่ตอนหลังก็เลิกทำไปเฉยๆ หลังจากเข้ามามีอำนาจทางการเมือง ซึ่งโฆษกกระทรวงกลาโหมก็ยอมรับเองว่า ทุกวันนี้ มีคนสมัครเป็นพลทหารฯเยอะตั้งเกือบ 50% ดังนั้น ถ้ากองทัพลดปริมาณทหารเกณฑ์ที่จะเรียกใช้งานลงได้ครึ่งหนึ่ง ข้อเสนอให้ยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหาร แล้วใช้ระบบสมัครใจ 100% ย่อมเป็นไปได้ ไม่ใช่การขายฝัน.”