"ชัชชาติ"วอนฝ่ายปชต.ร่วมมือกันหวั่นฝ่ายตรงข้ามใช้เลือกตั้งบังหน้า

“ชัชชาติ” ชี้ เวลาหาเสียงจำกัด เตรียม แบ่งทีมเพื่อไทยกระจายลงพื้นที่ บอก อยู่ที่ประชาชนเลือกฝ่ายประชาธิปไตยให้ได้ 375 เสียง เพื่อจัดตั้งรัฐบาล หวั่น บางกลุ่มอาศัยเลือกตั้งขึ้นสู่อำนาจทำประชาธิปไตยเสียหาย

เมื่อวันที่ 24 ม.ค. ที่พรรคเพื่อไทย นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ คณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงคณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนดวันเลือกตั้ง24มี.ค. และที่ผ่านมาชื่ออยู่ในแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีว่า วันนี้ตนเข้ามาถามทางพรรคว่าต้องทำอะไร อย่างไรบ้าง เพราะมีเรื่องเกี่ยวกับกฎหมายค่อนข้างเยอะ  ก็คงต้องรอดูทางพรรคให้ความชัดเจนตอนนี้ตนเองเป็นแค่สมาชิกพรรค ยังไม่ทราบว่าจริงๆแล้วจะให้ดำเนินการอะไรต่อ วันนี้คงมาช่วยสรุปนโยบายการหาเสียง แต่ยังไม่รู้ว่าสรุปแล้วจะให้อยู่ตำแหน่งไหน ส่วนเรื่องของเวลาการหาเสียง ยอมรับว่าคงมีเวลาอย่างจำกัด พรรคคงจะแบ่งทรัพยากร บุคลากรเป็นทีมไปยังพื้นที่ต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชน ไปดูปัญหาของประชาชน เราทำงานเป็นทีม ตนไม่ได้รู้ทุกเรื่อง ซึ่งเรามีจุดแข็งที่มีบุคคลากรมีความรู้ความสามารถทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม อย่างไรก็ดีเมื่อมีการประกาศวันเลือกตั้งออกมาแล้ว เชื่อว่าความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเริ่มกลับคืนมา ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ตอบรับ ส่งสัญญาณไปในทิศทางบวก นักลงทุนจะกลับมาลงทุน สำหรับนโยบายของพรรคเพื่อไทยแม้จะชูเรื่องเศรษฐกิจ การแก้ไขปัญหาปากท้องเป็นหลัก แต่เราไม่ได้เน้นในเรื่องนี้เพียงอย่างเดียว จะดูไปถึงเรื่องอื่นด้วย เช่น เรื่องยาเสพติด ราคาพืชผลทางการเกษตร การแก้ไขปัญหาทุจริตคอรัปชั่น เป็นต้น

เมื่อถามว่าสิ่งที่เคยพูดกับพี่น้องภาคอีสาน เรียกร้องให้เลือกพรรคฝ่ายประชาธิปไตยให้มาก เพื่อจะได้มาจับมือกันให้ได้ถึง 375เสียง นายชัชชาติ กล่าวว่า ตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับประชาชน คำว่าประชาธิปไตย วันนี้มี 2 แบบ คือ คนที่ยึดมั่นที่มีจิตวิญญาณเป็นประชาธิปไตย กับ คนที่ไม่ได้เชื่อมั่นในระบบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เรียกว่าอาศัยประชาธิปไตยเป็นช่องทางเข้ามา ส่วนเรื่องตัวเลขคงไม่ได้คาดการณ์อะไร ก็ทำให้ดีที่สุด แล้วหาแนวร่วม

“หัวใจของประชาธิปไตยไม่ใช่การต่อสู้กันจนเอาเป็นเอาตาย เราอย่ามองคู่แข่งขันเป็นศัตรู แต่ผู้แข่งขันก็ต้องแข่งกันในเชิงนโยบาย สุดท้ายหัวใจของประชาธิปไตยคือการร่วมมือกันเพื่อหาทางออกที่ดีให้ประชาชน ที่เรากลัวคือคนที่จิตใจไม่ได้ศรัทธาประชาธิปไตย แต่อาศัยช่องทางการเลือกตั้งเข้ามาสู่อำนาจ แล้วสุดท้ายถ้าเข้ามาได้ในระยะยาวจะมีผลเสียกับประชาธิปไตย สุดท้ายต้องหาทางออกร่วมกัน หลายพรรคมีนโยบายที่ดี สุดท้ายต้องเอามากลั่นเป็นนโยบายประเทศให้ได้” นายชัชชาติ กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีการลาออกของ 4รัฐมนตรีหลังมีพรฎ.เลือกตั้ง นายชัชชาติ กล่าวว่า เรื่องนี้คงต้องแล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละท่าน ไม่ก้าวล่วง แต่อยากพูดถึงตัวเอง คือผมเองเคยอยู่เอกชนมาก่อน ถามว่าทำไมต้องลาออก สำหรับตนคิดว่ามันไม่แฟร์ที่จะเอาเวลาซึ่งเราต้องทำงานให้เอกชนทำในแง่การเมือง ตนก็เลยตัดสินใจลาออกให้หมด เพื่อให้เรามีเวลาสำหรับการเมือง การเมืองไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องมีเวลาให้

เมื่อถามถึงกรณีที่มีผู้ตั้งข้อสังเกตคดีความต่างๆของนักการเมืองพรรคเพื่อไทย และแม้แต่นายชัชชาติเอง ที่มีคดีในชั้นปปช. ซึ่งล้วนแล้วแต่ถูกหยิบยกมาในช่วงใกล้การเลือกตั้ง นายชัชชาติ กล่าวว่า เราต้องเชื่อมั่นในระบบส่วนหนึ่งของประชาธิปไตยว่าจะเกิดความเป็นธรรม ความกังวลมี แต่คงกังวลอะไรมากไม่ได้ คงต้องลุยในช่วงเวลาที่มีก่อนเลือกตั้ง ส่วนได้มีการวางแผนรับมืออะไรหรือไม่ ผมคิดว่าบุคคลากรของเราไม่ได้ขึ้นอยู่กับใครคนใดคนหนึ่งเป็นพิเศษ เราทำงานเป็นทีม เกิดกรณีของผมหากโดนจริงๆ ก็ยังมีบุคคลอื่นที่พร้อมเข้ามาทำหน้าที่ต่อได้ เกิดเหตุฉุกเฉินจริงๆ ก็มีคนแทน ไม่ได้กังวลอะไร เราชี้แจงให้ดีที่สุด แล้วก็มั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิด