posttoday

"คสช." จับตามือที่ 3 ป่วนชุมนุม "กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง" สั่งห้ามใช้ความรุนแรง

30 เมษายน 2561

โฆษก คสช.เผยพล.อ.เฉลิมชัย สั่งให้ติดตามและทำความเข้าใจกับคนอยากเลือกตั้ง ย้ำไม่ใช้ความรุนแรง เผยเฝ้าจับตามือที่สาม

โฆษก คสช.เผยพล.อ.เฉลิมชัย สั่งให้ติดตามและทำความเข้าใจกับคนอยากเลือกตั้ง ย้ำไม่ใช้ความรุนแรง เผยเฝ้าจับตามือที่สาม

เมื่อวันที่ 30 เม.ย.  พล.ต.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ผู้บัญชาการทหารบกที่ 11 ในฐานะทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงคนอยากเลือกตั้งจะมีการเคลื่อนไหวในวันที่ 5 พ.ค.นี้ ว่า พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบกฐานะเลขาธิการ คสช. ได้ให้ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องและทำความเข้าใจกับประชาชนว่า บ้านเมืองกำลังปกติสุข ซึ่งการสนับสนุนงานรัฐบาลของ คสช.คือให้รัฐบาลบริหารงานได้อย่างต่อเนื่อง ไม่มีอุปสรรค ทุกอย่างเป็นไปตามโรดแมพ การเลือกตั้งจะต้องเกิดขึ้น แต่ต้องเป็นไปตามกรอบกฏหมายที่วางไว้

ส่วนมาตรการดูแลผู้ชุมนุมนั้นมีหลายมาตรการ ทั้งมาตรการด้านการข่าว มาตรการชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชน การทำความเข้าใจกับผู้ที่ออกมาชุมนุม นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานอยู่จุดที่มีการชุมนุม จะต้องดูเรื่องการจราจร การอำนวยความสะดวกให้เกิดความเหมาะสมกับสถานการณ์ในขณะนั้น ไม่ให้มีภาพการกระทบกระทั่ง หรือยื้อยุดฉุดกระชากลากดึงกันไปมา ไม่ให้มีความรุนแรงเกิดขึ้น และดูแลติดตามบุคคลที่สามที่จะเข้ามาก่อความวุ่นวาย

เมื่อถามว่า กลุ่มผู้ชุมนุมจะยกระดับการชุมนุมขึ้นเรื่อยๆเจ้าหน้าที่จะยกระดับการดูแลด้วยหรือไม่ พล.ต.ปิยพงศ์ กล่าวว่า เชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ ว่าเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย การจะยกระดับจะทำให้เกิดความสับสนวุ่นวาย ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ แต่หากยังมีคนที่คิดจะทำกิจกรรมอยู่ ก็ต้องทำความเข้าใจในฐานะคนไทยด้วยกัน โดยเน้นการพูดคุยซึ่งน่าจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุด

เมื่อถามว่าจะเชิญแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมมาพูดคุยทำความเข้าใจหรือไม่ พล.ต.ปิยพงศ์ กล่าวว่า ไม่มีการเชิญมาพูดคุย ทั้งนี้ส่วนตัวขอความร่วมมือว่า บ้านเมืองกำลังเดินไปด้วยดี อะไรที่เป็นปัญหาควรมานั่งคุยกันน่าจะเป็นทางออกที่เหมาะสมที่สุด

เมื่อถามว่าเลขาธิการ คสช.ห่วงเรื่องมือที่สามและมีรายงานข่าวมีหรือไม่ พล.ต.ปิยพงศ์ กล่าวว่า ยังไม่มีอะไรที่เป็นประเด็นหลักสำคัญ สำหรับมือที่สามที่อาจจะเข้ามาก่อความวุ่นวาย เจ้าหน้าที่ติดตามกลุ่มบุคคลหรือคนที่อาจจะมีรายชื่อ ที่เคยก่อเหตุหรือสร้างสถานการณ์ จะดูว่ามีความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติหรือไม่