ประชาธิปัตย์จองกฐินสอบสร้างรัฐสภาใหม่

ปชป.ลั่นจะไม่เข้าไปนั่งในสภาที่มีความไม่โปร่งใสในการก่อสร้างแน่ เตรียมยื่นองค์กรอิสระสอบ เชื่อเอื้อเอกชน

นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์  อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวในการเสวนา หัวข้อ ตรวจสอบปัญหาการทุจริตประพฤติชอบ กรณีไอที-รัฐสภาแห่งใหม่ ว่า ไม่เคยเห็นโครงการใดที่เละเท่าโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่นี้ โดยเฉพาะการขยายเวลาการก่อสร้างที่สังคมยังไม่ทราบว่าเป็นเพราะการส่งมอบพื้นที่ล่าช้า

ทั้งนี้ มั่นใจว่าการก่อสร้างรัฐสภาใหม่มีความผิดปกติ ในอนาคตเมื่อสร้างแล้วเสร็จจะไปยื่นร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อมีการเลือกตั้งแล้ว และหากในอนาคตได้กลับไปนั่งในสภาผู้แทนราษฎร ในตำแหน่งกรรมาธิการ ป.ป.ช.อีก ก็จะตรวจสอบเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก

นายวัชระ เพชรทอง อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การขยายเวลาการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่อีก 1,482 วัน จากเดิมในสัญญากำหนดไว้เพียง 900 วัน รวมต้องใช้เวลาการก่อสร้างถึง 2,382 วัน ถือว่าบริษัทผู้รับเหมาเป็นบริษัทที่ได้รับความเมตตาจากรัฐมากที่สุดที่ให้ขยายเวลาการก่อสร้างไปถึง 3 ปี จึงตั้งข้อสังเกตว่าการขยายเวลาครั้งแรกที่นายจเร พันธุ์เปรื่อง อนุมัติการขยายเวลาไม่ครบตามจำนวนบริษัท ซิโน-ไทยฯ ขอมา ทำให้นายจเรถูกคำสั่งมาตรา 44 ให้ย้ายไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แสดงให้เห็นว่าการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชนหรือไม่

นายวัชระ กล่าวว่า จะไม่ยอมเข้าไปนั่งในสภาที่มีการทุจริตอย่างแน่นอนและเตรียมยื่นหนังสือเรียกร้องให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ด้วย

นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะบุตรชายผู้ก่อตั้งบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น ที่ได้รับว่าจ้างก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ กล่าวยืนยันว่าทุกครั้งที่มีการขยายสัญญา เพราะมีเหตุจำเป็นที่เกิดจากความผิดพลาดในการส่งมอบพื้นที่ ไม่ใช่ความผิดของบริษัท และไม่เคยใช้อิทธิพลในการต่อสัญญา ดังนั้น ที่กล่าวหาว่าการขยายเวลาทำให้รัฐเกิดความเสียหายนั้น ขอชี้แจงว่าบริษัทไม่ได้ทำผิดและไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าเสียหายใดๆ