posttoday

ยื้อเลือกตั้ง คสช. กกต.มีแต่เสียกับเสีย

09 มกราคม 2562

ความไม่ชัดเจนต่อการกำหนดวันเลือกตั้งกลับมาเป็นประเด็นทำลายความเชื่อมั่นทั้งต่อคสช. และ กกต. มากขึ้นเรื่อยๆ

โดย...ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์
        
ความไม่ชัดเจนต่อการกำหนดวันเลือกตั้งกลับมาเป็นประเด็นทำลายความเชื่อมั่นทั้งต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มากขึ้นเรื่อยๆ ท่ามกลางความกังขาเรื่องความพยายามยื้ออยู่ในอำนาจออกไปให้ยาวนานที่สุด

ปัญหาส่วนหนึ่งอยู่ที่ความเห็นซึ่งยังแตกต่างระหว่าง กกต.และ คสช. จนทำให้ไม่อาจเคาะหาข้อสรุปว่าจะกำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันไหนจนทำให้ทุกอย่างดูยืดเยื้อออกไป

เมื่อเวลานี้ กกต.มีความเห็นสมควรกำหนดให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไปเป็นวันที่ 10 มี.ค. อันน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะไม่ห่างจากกรอบเวลาเลือกตั้งเดิมที่เคยกำหนดไว้วันที่ 24 ก.พ. อันจะทำให้ทุกฝ่ายน่าจะพอรับได้หรือเกิดแรงกระเพื่อมน้อยที่สุด

ทั้งนี้ ถือเป็นการเลื่อนเพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับพระราชพิธีบรมราชาภิเษกที่จะมีขึ้นตั้งแต่วันที่ 4-6 พ.ค.  ซึ่งทาง กกต.ประเมินแล้วว่าหากเลือกตั้งในวันที่ 10 มี.ค. ก็จะสามารถประกาศรับรองผลการเลือกตั้งได้ภายในกรอบเวลา 60 วัน ซึ่งวันสุดท้ายตรงกับวันที่ 9 พ.ค. ซึ่งเลยพระราชพิธีไปแล้ว

อีกด้านหนึ่งย่อมทำให้ลดประเด็นความสุ่มเสี่ยงกรณีกรอบเวลา 150 วันที่ต้องจัดเลือกตั้งให้แล้วเสร็จหลัง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. ซึ่งประกาศใช้ไปเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 2561 ดังนั้นกรอบวันสุดท้ายจึงต้องไม่เกินวันที่ 9 พ.ค. 2562

เมื่อเวลานี้มีความเห็นที่แตกต่างกันด้านหนึ่งเห็นว่าการดำเนินการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จนั้นต้องรวมถึงขั้นตอนการประกาศผลการเลือกตั้งด้วย แต่อีกฝ่ายเห็นว่ากรอบ 150 วันนั้นไม่รวมกับเวลาประกาศผลการเลือกตั้ง ซึ่งจะเปิดช่องให้สามารถเลื่อนการเลือกตั้งออกไปได้เกินกรอบวันที่ 10 มี.ค.

แต่เพื่อความไม่ประมาทและตัดเงื่อนไขที่จะทำให้เกิดปัญหาในภายหลังจนอาจถึงขั้นทำให้การเลือกตั้งต้องเป็นโมฆะ ดังนั้นกำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันที่ 10 มี.ค. จึงอาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดที่มีอยู่เวลานี้

โดยเฉพาะในฐานะที่ กกต.มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในการกำหนดวันเลือกตั้ง การจะเปลี่ยนแปลงวันเลือกตั้งเป็นวันใด ช้าหรือเร็วจากกรอบเวลาเดิมมากแค่ไหน กกต.ย่อมต้องเป็นคนที่ออกมาอธิบายรวมถึงรับเสียงสะท้อนจากการตัดสินใจที่ดำเนินไป
 
แม้อีกด้านหนึ่งจะมีความเห็นว่าควรจะส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความให้ชัดเจนเพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต แต่นั่นย่อมอาจทำให้กระบวนการต้องล่าช้าออกไประหว่างรอการตีความของศาลรัฐธรรมนูญ

ทว่าอีกด้านหนึ่งฝั่ง คสช.กลับมีความเห็นว่าต้องการให้เลื่อนเลือกตั้งออกไปเป็นวันที่ 24 มี.ค. ซึ่งว่ากันว่าเป็นการชิงจังหวะและสร้างความได้เปรียบทางการเมืองให้มากที่สุด

เมื่อเวลานี้รัฐบาล คสช.กำลังเผชิญกับแรงเสียดทานที่รุมเร้าจนฉุดให้คะแนนนิยมที่สั่งสมมาต้องลดน้อยถอยลงไปเรื่อยๆ ขณะที่นโยบายลดแลกแจกแถมที่อัดฉีดลงพื้นที่หวังซื้อใจรากหญ้าก็ยังไม่เห็นผลอย่างที่คาดหวังจึงหวังยื้อเวลาออกไปให้หลายนโยบายเริ่มเห็นผลมากขึ้น

ยิ่งในช่วงนี้ที่มีอำนาจรัฐในมือและทยอยออกแพ็กเกจลดแลกแจกแถมกำลังปล่อยของออกมาอย่างต่อเนื่องหลังช่วงเอาใจผู้มีรายได้น้อยช่วงเทศกาลปีใหม่แล้ว ยังมีนโยบายเปลี่ยน ส.ป.ก.4.0 เปลี่ยนที่ดินทองคำกว่า 30 ล้านไร่ ที่สร้างความสนใจใหักับชาวบ้านได้ไม่น้อย

แต่อีกด้านหนึ่งในแง่ การจัดวางตัวผู้สมัครซึ่งยังไม่เข้าเป้าในหลายพื้นที่จนประเมินแล้วมีความเสี่ยงที่อาจจะไม่สามารถผนึกกำลังกับ 250 สว.เฉพาะกาล ผลักดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้อีกสมัยอย่างที่ต้องการ

การต้องปรับเปลี่ยนวางแผนใหม่เพื่อให้สามารถแข่งขันกับบรรดาพรรคต่างๆ ได้ในพื้นที่จึงอาจต้องยืดเวลาออกไปเพื่อสร้างความได้เปรียบในเชิงยุทธศาสตร์ รวมถึงการเตรียมความพร้อมให้ได้มากขึ้นจึงอาจเป็นทางเลือกที่รัฐบาล คสช. ต้องยอมเสี่ยงกับกระแสตีกลับ โดยเฉพาะบรรดากลุ่มคนอยากเลือกตั้งที่ออกมาเคลื่อนไหวหนักขึ้นเรื่อยๆ

แต่ปัญหาทั้งหมดอยู่ตรงที่ความไม่ชัดเจนว่าการเลื่อนเลือกตั้งที่เคยกำหนดไว้วันที่ 24 ก.พ.นี้ นั้นสุดท้ายและจะเลื่อนไปเป็นเวลาใดกันแน่ ซึ่งจะกัดเซาะความเชื่อมั่นในภาพรวมของประเทศและพานกระทบไปถึงความเชื่อมั่นในการค้า การลงทุน และความร่วมมือจากต่างประเทศ

สอดรับกับล่าสุดสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้เผยแพร่หนังสือที่แจ้งไปยังนายทะเบียนจังหวัดทุกจังหวัดและนายทะเบียนกรุงเทพมหานคร ว่าได้รับการประสานจาก กกต.ว่าพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง สส.เป็นการทั่วไปยังไม่ได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา จึงขอระงับการดำเนินงานตามแผนงานเตรียมการเลือกตั้งที่ได้แจ้งไว้

สะท้อนภาพความไม่ชัดเจน อย่างรุนแรงอันจะย้อนกลับมาเป็นปัญหาต่อไปในอนาคต ซ้ำเติมการ เลื่อนเลือกตั้งในอดีตที่เปลี่ยนแปลง มาตลอดจนไม่อาจสร้างความมั่นใจว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเมื่อใด

ทางออกที่ดีที่สุดในเวลานี้  จึงอยู่ที่การเร่งหาข้อสรุปและสร้างความชัดเจนเรื่องวันเลือกตั้งให้ ได้เร็วที่สุดและเดินหน้าไปตามนั้น อย่างไม่มีเงื่อนไข เพราะหากยิ่งยื้อเวลาออกไปนานเท่าไร ผลเสีย ย่อมเกิดกับ กกต.และ คสช.มากขึ้นเรื่อยๆ