โยกย้ายนายพลสีกากี ‘ประวิตร-จักรทิพย์’ คุมเบ็ดเสร็จ

โดย...ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์

ระยะเวลา 3 ชั่วโมงในห้องประชุมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ท้ายสุด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ก็เคาะรายชื่อโยกย้ายนายตำรวจ “ชุดนายพลเล็ก” ระดับตำแหน่งรองผู้บัญชาการ (รอง ผบช.)-ผู้บังคับการ (ผบก.) รวม 200 ตำแหน่งเสร็จสิ้น

เป็นการจัดแถวนายพลสีกากีล็อตใหญ่ในยุคของ ผบ.ตร.คนใหม่ อย่าง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ที่รอบนี้เข้ามากำกับดูแลแต่ละรายชื่อด้วยตัวเอง

โผนายตำรวจชั้นยศพลตำรวจตรี จึงออกมาตามที่ผู้ใหญ่ของสีกากีอย่าง พล.ต.อ.จักรทิพย์ และผู้ใหญ่ของบ้านเมืองยุคทหารอย่าง พล.อ.ประวิตร มีความต้องการให้เป็น

หากสอดส่องพบว่าบางพื้นที่ที่มีการล้างบางนายพลตำรวจเล็ก แทบยกชุดจากของเดิม โดยเฉพาะพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ที่โผล็อตนี้มีการย้ายรอง ผบช.น. ในชุดของ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ว่าที่รอง ผบ.ตร. ที่เคยคุมกำลังพื้นที่ บช.น.แบบยกชุด และสลับสับเปลี่ยนนายตำรวจในคาถาของ พล.อ.ประวิตร และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ เข้ามาคุมกำลังแทน หลังจากที่ก่อนหน้าที่ พล.ต.ต.ศานิตย์ มหถาวร น้องรักของ พล.อ.ประวิตร และใกล้ชิดกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็มานั่งเก้าอี้ ผบช.น.

สำหรับชื่อเด่นๆ ที่โผล่มาเป็นรอง ผบช.น. คุมพื้นที่กรุงเทพมหานครนั้น พบว่ามีชื่อของ พล.ต.ต.จารุวัฒน์ ไวศยะ รอง จตร.สบ.7 ที่มีสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับ พล.อ.ประวิตร เข้ามาทำหน้าที่ และยังมีลูกหม้อนครบาลที่ถูกย้ายออกนอกหน่วยหลายปีกลับมายังถิ่นเดิม อย่าง พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.ปส. และ พล.ต.ต.ธนพล สนเทศ รอง ผบช.ปส. ขยับเข้ามาอยู่ในเมืองกรุงเช่นกัน

หรือแม้แต่นายตำรวจที่เคยโดดเด่นในยุคที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ มีอำนาจ ก็กลับมาสู่พื้นที่เกรดเอเช่นกัน ระดับ ผบก. พบว่ามี พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี อดีตรอง ผบก.น.1 ก้าวเข้ามาเป็น ผบก.น.1 หรือแม้แต่ พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผบก.อก.บช.ก. มือทำงานของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ก็ได้เป็น ผบก.น.2 คุมพื้นที่ที่คุ้นเคยอย่างดี

หรือแม้แต่ พล.ต.ต.ศุภพล อรุณสิทธิ์ ผบก.ทท. คนสนิทของ ยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภา แต่แรงหนุนจากฝั่งทหารยังคงดี ผงาดเป็น ผบก.ตม.1 และ พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบก.น.3 สายสัมพันธ์แน่นปึ้กกับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ โยกมาคุมพื้นที่ทองคำ เป็น ผบก.น.5

รายชื่อตำรวจดังๆ ที่สนิทกับผู้มีอำนาจในยุคปัจจุบันยังคงได้ดีต่อเนื่อง อาทิ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.ประจำสง.ผบ.ตร. ได้ดิบได้ดีมาเป็น ผบก.ตำรวจท่องเที่ยว ขณะที่เพื่อนร่วมรุ่น ผบ.ตร.ก็ไม่น้อยหน้า ขยับคุมพื้นที่สำคัญๆ เช่นกัน ทั้ง พล.ต.ต.รณสิทธิ์ ภู่สาระ รอง ผบช.ก. เข้ามาคุมกำลังเป็นรอง ผบช.ภ.1 เพื่อให้งานราบรื่นในการทำงานร่วมกันกับ พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบช.ภ.1 ที่เป็นเพื่อนร่วมรุ่นเช่นกัน

ส่วนพื้นที่อื่นๆ โดยเฉพาะแถบภาคอีสานและภาคเหนือ ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญของกลุ่มคนเสื้อแดง ความรับผิดชอบของ บช.ภ.4 และ บช.ภ.5 ที่รัฐบาลทหารจำต้องวางกำลังเพื่อควบคุมดูแลให้เรียบร้อย และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ก็วางใจคนของตัวเองและของรัฐบาลเข้ามาคุมพื้นที่แห่งนี้ อาทิ พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผบก.สส.ภ.4 สายตรง พล.ต.อ.จักรทิพย์ เข้ามาคุมพื้นที่เสื้อแดงเป็น ผบก.อุดรธานี ขณะที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่ของคนเสื้อแดงเช่นกัน ยังไม่มีการขยับปรับเปลี่ยนมากนัก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความไว้วางใจนายตำรวจชุดเดิมที่เคยทำงานให้รัฐบาลอย่างราบรื่น

ขยับลงใต้ไปที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ วางคนของตัวเองเพื่อให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อกรกับความไม่สงบในพื้นที่ โดยมีชื่อของ พ.ต.อ.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รอง ผบก.ป. มือทำงานของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ขยับขึ้น ผบก.ภ.จว.ยะลา โดยก่อนหน้านี้มีกระแสว่าจะนั่งเก้าอี้ ผบก.สส.บช.น. แต่ด้วยว่าอาวุโสน้อยสุด จึงขอถอยฉาก รวมถึงนักสืบมือดีแต่คนละขั้วการเมืองอย่าง พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ ผบก.ผก.สยศ. โด่งดังในฐานะมือลุยม็อบและคนสนิทของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ยังไว้วางใจให้ก้าวขึ้นเป็นรอง ผบช.ศชต. และยังมี พล.ต.ต.วัลลภ ประทุมเมือง ผบก.ยธ.คนสนิท ร.ต.อ.เฉลิม อีกคน เป็นรอง ผบช.ศชต.

ระดับชั้นนายพลเล็กของสีกากี 200 นายที่ถูก พล.ต.อ.จักรทิพย์ วางหมากเอาไว้นั้น จะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่แล้วเป็นคนที่คุ้นเคยและเข้าใจระบบทำงานกับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ เป็นอย่างดี ทั้งนี้ก็เพื่อให้งานบริหารไร้รอยต่อและให้มีความราบรื่นมากที่สุด จะมีเพียงแค่ไม่กี่ตำแหน่งเท่านั้นที่ฝั่งการเมืองขอเข้ามาล้วงลูกฝากเด็กของตัวเอง

อีกทั้งการโยกย้ายครั้งนี้เป็นนายตำรวจระดับวางแผนปฏิบัติและคุมกำลังในพื้นที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ยิ่งต้องวางหมากให้รอบคอบมากที่สุด เพราะถือเป็นการจัดโผช่วงแรกที่ดำรงตำแหน่งนายใหญ่รั้วปทุมวัน การวางคนที่ทำงานจริงๆ เพื่อให้สนองต่อนโยบายของตนเองจึงเป็นเรื่องสำคัญ ยิ่งในช่วงที่ต้องเรียกศรัทธาความเชื่อมั่นจากประชาชนกลับคืนมา