posttoday

ดีเอสไอเผยมือบึ้มวัดพระแก้วรับ5แสน

30 เมษายน 2553

ดีเอสไอ เผยมือบึ้มวัดพระแก้วรับ 5 แสน เปิดแผนการเสื้อแดงหวังก่อวินาศกรรมสถานที่ราชการและสถานที่สำคัญ พร้อมเชิญสอบเพิ่มอีก 3 ราย พบเป็นตำรวจเคยก่อเหตุทุบรถนายกฯที่ พัทยา

ดีเอสไอเผยมือบึ้มวัดพระแก้วรับ5แสน นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ

 เมื่อเวลา 21.00 น. ที่กรมทหาราบที่ 11นาย ธาริต เพ็งดิษฐ์   อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ พ.ต.อ.ณรัชต์  เศวตนันท์  รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ แถลงผ่านรายการโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรมในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบ การสืบสวนสอบสวน คดีพิเศษ กรณีการก่อการร้ายที่เกี่ยวกับความไม่สงบในบ้านเมืองขณะนี้ กรณีการจับกุมคนร้ายใช้เครื่องยิงระเบิด อาร์พีจี ยิงใส่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว แต่เกิดผิดพลาด สืบเนื่องจากมเอวันที่ 20 มีนาคม เวลาประมาณ 22.00 น เกิดเหตุคนร้าย ใช้อาวุธสงครามยิงใส่บริเวณกระทรวงกลาโหม เขตพระนคร มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1ราย และสานโทรศัพท์ได้รับความเสียหาย

จากการสืบ สวนสอบสวนที่นำโดย พล.ต.ท. อัศวิน ขวัญเมือง  ผช.ผบ.ตร. พล.ต.ต. จักรทิพย์ ชัยจินดา และพล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ทำให้สามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้  2 รายตามหมายจับของศาลอาญา คือ ส.ต.ต. บัณฑิต สิทธิทุม   ซึ่ง ออกจากราชการไปนานกว่า 10 ปี อายุ 43 ปี ,นายศุภณัฐ   หุลเวช  หรือโก้ โดยกล่าวหาว่าทั้ง 2คนร่วม กันใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนคือเครื่องยิงระเบิดอาร์พีจี ที่เป็นการกระทที่ผิดกฎหมาย นอกจากนี้ยังได้อาศัยอำนาจตาม พรก.ฉุกเฉินเชิญตัวบุคคลอีก3ราย เพื่อทำการซักถาม 1นายภาสกร หรือสมนึก ศิริรัตน์ อายุ 50 ปี 2.นายวายุภักดิ์  โนรี อายุ 48 ปี และ 3.พ.ต.ท. ศุภชัย ผุยแก้วคำ อายุ 39 ปี ซึ่งเคยโดนคดีก่อเหตุทุบรถ นาย อภิสิทธิ์ เวชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่พัทยา อย่างไรก็ตามท้หงมดต้องสอบความเชื่อมโยงางการใช้โทรศัพท์และเส้นางการเงิน ที่ไหลมาด้วย ซึ่งเรากำลังดำเนินการ่วมกับ ปปง.

นาธาริต กล่าวต่อว่า ผลจากการสอบสวน ปรากฏว่า ส.ต.ต. บัณฑิต ผู้ต้องหาที่1 เป็นเพื่อนกับพ.ต.ท.ศุภชัย ซึ่งมีภรรยาเป็นแกนนำคนเสื้อแดงพัทยา โดยส.ต.ต.บัณฑิต มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการใช้อาวุธสงครามจากการรับราชการในเขตชายแดน ได้ทำหน้าที่ขับรถและดูแลความปลอดภัยให้กับนาง จุรีพร สินธุไพร ภรรยาของพ.ต.ท.ศุภชัย ส.ต.ต. บัณฑิต ให้การรับสารภาพ ในวันนี้เมื่อถูกจับกุมว่าได้เดินทางเข้าทกทม.พร้อมกับนางจุรีพร เพื่อเจ้าร่วมชุมนุมกับคนเสื้อแดงที่สะพานผ่านฟ้า ซึ่งพ.ต.ท.ศุภชัยบอกว่า การจะร่วมต่อสู้เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของคนเสื้อ แดง จะต้องก่อวินาศกรรมสถานที่สำคัญของทางราชการหรือสถานที่สำคัญที่ประชาชนยึด เหนี่ยว จึงได้สั่งการให้เตรียมระเบิดอาวุธสงครามและยานพาหนะ พ.ต.ท.ศุภชัย ได้ให้นำเครื่องยิงอาร์พีจี ไปยังที่เกิดเหตุ และได้มอบเงินเป็นค่าตอบแทน 5 แสนบาท ต่อมาเมื่อวันที่ 20 มีนาคม ส.ต.ต.บัณฑิต ได้ร่วมมือกับพวก ร่วมกันกระทำความผิด โดยยิงลุกระเบิดอาร์พีจี มีเป้าหมายคือ วันพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว  แต่ เป็นโชคดีของบ้านเมืองหัวระเบิดไปติดสายไฟที่อยู่ใกล้จึงไม่ถูกเป้า จึงรีบทิ้งอาวุธปืนไว้ในรถแล้วหลบหนีไป

“ผมในฐานะอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ในคดีก่อการร้ายซึ่งเกิดความไม่สงบในบ้านเมือง ขณะนี้และในฐานะคณะกรรมการศอฉ.ของวิงวอนประชาชน อย่าได้เข้าไปในบริเวณที่ชุมนุมที่เป็นการชุมนุมโดเยผิดกฎหมายของบ้านเมือง ขณะนี้เพื่อหลีกเหลี่ยงเหตุร้ายที่จะเกิดภัยอันตรายทั้งชีวิตร่างกายและ ทรัพย์สิน และในโอกาสนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทวงยุติธรรม ใคร่ของความร่วมประชาชนแจ้งเบาะแสแหล่งคนร้ายที่หลบซ่อน ที่พักพิง หรือมีอาวุธร้ายแรงต่างๆ หากได้พบเบาะแสต่างๆของให้แจ้งมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ หมายเลขโทรศัพท์ 1202  ทางกรม สอบสวนคดีพิเศษจะรีบติดต่อประสานงาน และจะมีมาตรการดูแลในการคุ้มคอรงพยาน และความร่วมมือของแประชาชนในครั้งนี้จะช่วยระงับเหตุร้ายของบ้านเมืองตอนนี้ ได้เป็นอย่างดี” นายธาริต กล่าว