เรยาถอยไป...แซมมี่ขอแจ้งเกิด

เปิดใจ "แซมมี่-ศิรภัสสร อัฒยกร" มิสทิฟฟานี่ ยูนิเวิร์ส 2001 กับความฝันที่อยากเป็นดาวร่วมประดับวงการบันเทิงของไทย 

โดย สมชาย บุญเหลือ / ภาพ ทีมงานแซมมี่

เวทีการประกวดชายงาม เอ้ย.!!! สาวงามในนาม มิสทิฟฟานี่ ยูนิเวิร์ส 2011 หรือผู้ชายที่สวยที่สุดในปฐพี ที่โรงละครทิฟฟานี่โชว์ พัทยา จ.ชลบุรี ผ่านพ้นไปแล้ว

ได้รู้แล้วว่าใครคือผู้ชายที่สวยที่สุดในประเทศ เห็นหน้าค่าตาแต่ละอนงค์นายแล้ว ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ นึกอยากจะเป็นยอดชาย หรือชายเหนือชายขึ้นมาทันที

อย่าว่าแต่ผู้ชายเลยที่ต้องตะลึง ผู้หญิงบางคนเห็นยังต้องอาย ยอมพ่ายต่อความ จริตจะก้านของเจ้าหล่อน ผู้ชายอะไรช่างสวยปานนี้... เอาเป็นว่าเวทีนี้ผู้หญิงจริงอย่าแหยม ผู้ชายสวยเท่านั้นถึงจะกลายเป็นพระเอก เอ้ย...นางเอก และเป็นเวทีที่บรรดาชาย แต่ใจเป็นหญิงอยากขึ้นไปเดินโชว์ทรวดทรงองค์เอว

แซมมี่-ศิรภัสสร อัฒยกร คือชายงามที่คว้ามงกุฎในปีนี้มาครองอย่างภาคภูมิใจ นอกจากมงกุฎ และสายสะพายแล้ว เธอยังได้เงินรางวัล 1.2 แสนบาท รถยนต์โตโยต้า ยาริส เป็นรางวัลอีกด้วย

เธอได้สั่งสมประสบการณ์บนเวทีประกวดนางงามมาตั้งแต่อายุ 17 ปี ผ่านเวทีผ่านสายตาเสือสิงห์กระทิงแรดมาจนนับไม่ถ้วน แต่เวทีทิฟฟานี่ ยูนิเวิร์ส 2011 เป็นเวทีที่เธอภูมิใจที่สุด เนื่องจากขึ้นประกวดครั้งแรกก็คว้ามงกุฎมาครองได้สำเร็จ

แซมมี่เล่าความฝันให้ “โพสต์ทูเดย์” ฟังว่า อยากประกวดเวทีทิฟฟานี่มาตั้งแต่เรียนชั้น ม.6 โรงเรียนดาราวิทยาลัย จ.เชียงใหม่ คิดว่าสักวันหนึ่งจะต้องได้ตำแหน่งให้ได้ เพราะมีแรงบันดาลใจเห็นรุ่นพี่ประสบความสำเร็จจากเวทีทิฟฟานี่ ทั้ง ปอย-ตรีชฎา เพชรรัตน์ และ ไก่โต้ง-รัฐระวี จีระประภากุล เลยตัดสินใจเข้าประกวด

พื้นเพเป็นคน จ.เชียงใหม่ มีพี่น้อง 2 คน แซมมี่เป็นลูกชายคนโต และมีน้องชายอีก 1 คน ชีวิตในวัยเด็กก็เหมือนเด็กผู้ชายทั่วไป เป็นพี่ชายจะรักน้องมากใครมารังแกน้องจะไม่ยอมเลย จะปกป้องน้องสุดตัว แต่ลึกๆ ในใจก็มีความอ่อนแออยู่

สมัยเด็กไม่ชอบเลยที่คนมาเรียกตุ๊ด เรียกกะเทย จะไม่ยอมรับคำนี้ แต่พอโตเริ่มมีสังคม มีเพื่อน เริ่มรู้จุดว่าจะเลือกทางเดินเพศไหน ต่อให้ฝืนอย่างไรก็ไม่ได้ เริ่มแรกที่พ่อแม่รู้ว่าเป็นกะเทยก็ไม่ชอบ คอยเตือนว่าอย่าตุ้งติ้งไม่อยากเห็นลูกเบี่ยงเบน

พ่อเคยพาไปเล่นฟุตบอล และว่ายน้ำเพื่อหวังให้ลูกกลับมาเป็นผู้ชายแต่ก็ไม่สำเร็จ พ่อลองมาทุกวิถีทางแล้ว ก็กลับมาเป็นผู้ชายไม่ได้ ในทางกลับกันยิ่งทำให้อ่อนแอ พอเล่นกีฬายิ่งรู้สึกว่าเราอ่อนแอ วิ่งก็ไม่ทันเพื่อน แต่พอโตขึ้นพ่อแม่ก็ยอมรับ เพราะต้องปล่อยตามที่ลูกต้องการ

“แม้แต่ไปโรงเรียน แซมมี่ก็มักจะชอบไปสลับเอารองเท้าเพื่อนผู้หญิงมาใส่กลับบ้านเป็นประจำ อยู่บ้านก็จะเอารองเท้าส้นสูงและกระโปรงของคุณแม่มาใส่ ดังนั้นแซมมี่จะรู้ตัวมาตลอดว่าไม่ใช่ผู้ชาย เพื่อนก็จะคบแต่เพื่อนผู้หญิง ไม่ชอบเล่นกีฬาที่มีความรุนแรง แต่ก็ถูกเพื่อนผู้ชายแกล้งประจำ” แซมมี่เผยให้รู้ถึงชีวิตสมัยเป็นเด็ก

หลังจากเรียนจบ ม.6 ก็เข้ามาเรียนต่อในมหาวิทยาลัยรามคำแหง คณะมนุษยศาสตร์ ก็ตั้งใจแน่วแน่จะเป็นผู้หญิงให้เต็มตัว เลยเริ่มไว้ผมยาวแต่งชุดนักศึกษา ใส่กระโปรงไปมหาวิทยาลัย ที่เลือกเรียนคณะมนุษยศาสตร์ เพราะสมัยเรียนมัธยมเรียนด้านศิลปศาสตร์เยอรมัน เลยคิดว่าจะนำวิชาที่เรียนมา มาปรับใช้ในมหาวิทยาลัยได้

ทุกสัดส่วนในร่างกาย แซมมี่ยอมรับว่าทำหน้าอกมาเพื่อให้ความเป็นผู้หญิงเด่นชัดขึ้น ในอนาคตจะถึงขั้นขึ้นเขียงให้หมอเฉาะเอาส่วนที่ไม่พึงประสงค์ออกไปหรือไม่ ก็ต้องดูความพร้อมของร่างกายและจิตใจ ที่สำคัญรอให้พ่อแม่อนุญาตก่อน ถ้าทุกอย่างพร้อมก็ทำเพื่อให้เป็นผู้หญิงสมบูรณ์แบบ

สำหรับหัวใจ 4 ห้องของมิสทิฟฟานี่คนล่าสุดยังว่างไม่มีชายคนใดมาจับจอง เธอย้ำหนักแน่นโสด 100% ไม่มีใครเข้ามาเลย เหตุที่ไม่มีใครมาจีบเพราะจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับเพื่อน จะไปไหนก็จะไปกับเพื่อนผู้หญิงและเพื่อนสาวประเภทสองเป็นกลุ่มใหญ่ ดังนั้นใครจะเข้ามาจึงต้องผ่านด่านเพื่อนก่อนว่าเป็นคนดีหรือเปล่า เพราะเพื่อนรักกันมาก คบกันก็ให้ความจริงใจต่อกัน เพื่อนอยากให้เจอคนดีๆ
อนาคตก็อยากทำงานวงการบันเทิง อยากมีส่วนร่วมในงานด้านการแสดงบ้าง อยากใช้ความรู้ที่ร่ำเรียนมาให้เกิดประโยชน์ เพราะเรียนด้านการสื่อสารมวลชนมาด้วย

แซมมี่ยอมรับว่า ไอดอลหรือคนต้นแบบเธอจะเดินตามแนวของ ปอย ตรีชฎา หากเป็นดาราผู้หญิงจะยึด อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ ดารานางแบบคนดัง เป็นแบบอย่าง เพราะเป็นนักแสดงที่ดี เป็นลูกที่กตัญญูต่อพ่อแม่ แต่ยืนยันเธอไม่ใช่เรยาเด็ดขาด ทุกวันนี้ก็ไม่ได้เป็นเรยา พร้อมกับเผาเพื่อนซึ่งเป็นรองมิสทิฟฟานี่อันดับ 1 และ 2 ว่า เป็นเรยามากกว่า เธอกล่าวพร้อมกับหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

อย่างไรก็ตาม ในเดือน พ.ย. 2554 แซมมี่จะเป็นตัวแทนของสาวประเภทสองของประเทศไทยเข้าประกวดมิสอินเตอร์เนชั่นแนล ควีน 2011 ซึ่งจะมีสาวประเภทสองจากทั่วโลกมาประกวดที่พัทยา เธอจึงเริ่มเตรียมความพร้อม เพราะสวมสายสะพายในนามประเทศไทย จึงต้องทำให้ดีที่สุด และจะสู้ให้เต็มร้อย

เธอดีใจมากขึ้นอีกหลังได้ตำแหน่งที่ได้ยินพ่อพูดว่า ภูมิใจมากที่ลูกประสบความสำเร็จในชีวิต บอกให้ตั้งใจทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ได้ยินคำนี้ถึงกับน้ำตาซึม และมีความสุขมากที่พ่อแม่และน้องชายมาเชียร์

ท้ายสุดแซมมี่ได้ฝากถึงผู้ชายสวย ที่มีใจเป็นผู้หญิงทั้งหลาย แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จว่า ใครมีความฝันต้องเดินตามฝันให้ได้ หากเรามีความรู้ความสามารถ ต้องใช้ในทางที่ถูกต้อง แม้จะเป็นสาวประเภทสอง แต่การกระทำอยู่ที่ตัวเรา หากเราทำตัวให้แปลกแยกคนอื่นก็จะมอง ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง แต่ถ้าเราทำตัวเป็นปกติ ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ก็จะอยู่ร่วมกับคนในสังคมได้

“อยากให้ทุกคนในสังคมมองสาวประเภทสองที่จิตใจมากกว่า เพราะคุณค่าของคนอยู่ที่จิตใจและการกระทำ ไม่ใช่อยู่ที่เพศ ไม่ว่าเราจะเป็นเพศไหน แต่สิ่งหนึ่งที่เราทำได้คือการคิดดี ทำดี ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น คิดว่าสาวประเภทสองจะมีส่วนเติมเต็มให้สังคมได้ในทุกเรื่อง”

ทั้งหมดนี้คือตัวตนที่แท้จริงของมิสทิฟฟานี่คนล่าสุด แซมมี่ ศิรภัสสร ชายไม่จริงหญิงไม่แท้ แม้ร่างกายจะเป็นผู้ชาย แต่จิตใจเธอเป็นผู้หญิงล้านเปอร์เซ็นต์ไปแล้ว อนาคตเธอจะเดินหาฝันตามรุ่นพี่ที่โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงได้อย่างสง่างามหรือไม่ ก็ต้องคอยเอาใจช่วย แซมมี่สู้ๆๆ !!!