posttoday

รู้จักแมรี่ โวลสโตนคราฟต์ ผู้หญิงที่ทำให้ ‘นิการากัว’ มงลง!

19 พฤศจิกายน 2566

ในรอบ 3 คนสุดท้าย สาวงามต้องเจอกับคำถามที่ว่า ‘หากคุณสามารถเป็นผู้หญิงคนอื่นได้ 1 ปี คุณจะเป็นใคร’ คำตอบของนิการากัว คือ แมรี่ โวลสโตนคราฟต์ ผู้หญิงที่เกิดในยุค 1759 เธอสำคัญอย่างไร และทำไมพลังของเธอถึงส่งให้ ‘นิการากัว’ คว้ามง

แมรี่ โวลสโตนคราฟ เกิดเมื่อวันที่ 27 เมษายน ค.ศ.1759 เธอเป็นนักคิด นักเขียนและนักปรัชญาชาวอังกฤษ ที่กล้าออกมาวิพากษ์วิจารณ์เรื่อง 'ความเท่าเทียมและการเลือกปฏิบัติทางเพศ' ในยุคศตวรรษที่ 18 ผ่านทางผลงานของเธอ และแม้ว่าในยุคนั้นคนจะยังไม่ได้มีการเคลื่อนไหวในเรื่องสิทธิสตรีเด่นชัดมากนัก รวมไปถึงมีข้อจำกัดหลายอย่าง แต่การเคลื่อนไหวของเธอก็ถือว่าเป็น ต้นแบบของ ‘เฟมินิสต์’ รุ่นบุกเบิกอย่างแท้จริง

 

แม้เธอจะชอบแนวคิดของ 'รุสโซ' ที่ให้ความสำคัญกับประชาธิปไตย เสรีภาพและความเท่าเทียม แต่เธอก็เคยออกมากังขากับความคิดเห็นของ ‘รุสโซ’ ในเรื่องของบทบาทสตรี ว่าทำไมความเท่าเทียมและเสรีภาพของปัจเจกบุคคลจึงไม่ครอบคลุมสตรี และมองว่าการกดขี่ที่ทุกคนพูดถึง อย่างเช่นในการเมืองซึ่งถูกบอกว่า ทุกคนควรจะปลดตัวเองให้เป็นอิสระจากผู้กดขี่อย่างเช่นกษัตริย์ ควรจะรวมถึงการกดขี่ของสามีที่บ้านด้วยเช่นกันหรือไม่? ซึ่งทำให้ผู้คนในสมัยนั้นออกมาดูถูกและไม่ชอบแนวคิดของเธอเป็นอย่างมาก

 

ภูมิหลัง ตัวตนของ 'เฟมินิสต์ยุคบุคเบิก'

 

เมื่อย้อนไปดูประวัติช่วงแรกของแมรี่นั้น เธอเป็นลูกคนที่ 2 จากพี่น้องจำนวน 7 คน และแม้ว่าครอบครัวของเธอจะไม่ได้ขาดแคลนสิ่งใด และใช้ชีวิตที่สบายๆ ในตอนเป็นเด็ก แต่ต่อมาเมื่อพ่อของเธอลงทุนผิดพลาดจึงขาดความมั่นคงทางการเงิน เมื่อสถานการณ์การเงินย่ำแย่จนขีดสุด เธอได้เห็นพ่อของเธอทุบตีแม่ด้วยความโกรธและเมา .. สิ่งที่แม่รี่ทำคือ เธอมีความกล้าหาญพอที่จะนอนนอกประตูห้องนอนแม่เพื่อปกป้องไม่ให้พ่อมาทำร้าย ในขณะเดียวกันเธอก็ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับชีวิตของน้องสาว โดยเตรียมการให้หลบหนีจากสามีที่ชอบใช้ความรุนแรงและลูกเนื่องจากทุกข์ทรมานด้วยภาวะซึมเศร้าหลังคลอด

 

ชีวิตของเธอแสดงให้เห็นตลอดเวลาว่าเธอพร้อมที่จะท้าทายบรรทัดฐานสังคม และท้าทายผู้มีอำนาจ ซึ่งในชีวิตของเธอนั้นก็คือ ‘ผู้ชาย’ ที่ทำร้ายเธอและครอบครัว

 

แมรี่ โวลสโตนคราฟต์

 

นอกจากนี้การตัดสินใจที่ท้าทายบรรทัดฐานของสังคมและทำให้เราได้เห็นแนวคิดของเธอเผยแพร่สู่สาธารณะมากขึ้นก็คือ การที่แมรี่ตัดสินใจจะเป็นนักเขียน ซึ่งเป็นสิ่งที่สุดโต่งมากในยุคนั้น ว่ากันว่าผู้หญิงในยุคดังกล่าวถูกจำกัดการทำงานเพียงไม่กี่อย่าง และไม่รวมถึงการเป็นนักเขียนเป็นแน้แท้ และแม้แต่ผู้ชายเองก็ไม่สามารถหาเลี้ยงตัวเองด้วยการเป็นนักเขียนได้ด้วยซ้ำ แต่แม่รี่ก็ทำ ..

เธอตั้งใจเขียนงาน เรียนภาษาฝรั่งเศสและเยอรมันเพื่อแปลงานไปพร้อมกัน โดยหนังสือที่เธอเขียนนั้นมีอยู่หลายเล่มที่สำคัญ แต่เล่มที่ทำให้เธอโด่งดังคือ Vindication of the Rights of Men ซึ่งเธอเขียนออกมาเพื่อที่จะโจมตีแนวคิดของสภาฝรั่งเศสระบุให้ผู้หญิงควรได้รับการศึกษาแต่เพียงเรื่องในบ้านเท่านั้น  นอกจากนี้เธอยังระบุชัดว่าเธอนั้นเชื่อในความก้าวหน้า และเยาะเย้ยผู้ที่เอาแต่พึ่งพาประเพณี

งานเขียนของแมรี่ส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นไปที่การศึกษาเป็นสำคัญ โดยเฉพาะการพัฒนาการศึกษาของผู้หญิง นอกจากนี้ยังสอนให้เด็กรู้จักจรรยาบรรณ รู้จักเหตุผล และมองว่าผู้หญิงที่มีการศึกษาดีจะเป็นภรรยาและแม่ที่ดี และมีส่วนช่วยเหลือประเทศชาติได้ในท้ายที่สุด

 

รู้จักแมรี่ โวลสโตนคราฟต์ ผู้หญิงที่ทำให้ ‘นิการากัว’ มงลง!

 

ชีวิตของแมรี่ กับชีวิตและความคิดก้าวหน้า

 

ในช่วงชีวิตของแมรี่ เธอได้ตัดสินใจหลายประการที่สะท้อนความคิดก้าวหน้า แม้จะเป็นผู้หญิงที่เกิดและอยู่ในสังคมที่ไม่ก้าวหน้าและไม่ยอมรับเรื่องความเท่าเทียมและหลากหลายอย่างเข้มข้น

 

ยกตัวอย่างเช่นการที่เธอตัดสินใจเลือกจะไปใช้ชีวิตอยู่กับ แฟนนี่ บลัด เพื่อนรักของเธอ และวางแผนจะใช้ชีวิตร่วมกัน แม้จะเป็นผู้หญิงด้วยกัน พวกเธอสองคนวางแผนจะใช้ชีวิตร่วมกัน เช่าห้องอยู่ร่วมกันและสนับสนุนกันทางความรู้สึกและการเงิน พวกเธอสองคนถึงขั้นที่ว่าก่อตั้งโรงเรียนร่วมกัน อย่างไรก็ตามในภายหลัง บลัดป่วยและทำงานไม่ไหว เธอได้แต่งงานไปกับสามีที่พาไปอยู่ที่ประเทศโปรตุเกส และเสียชีวิตลง ซึ่งในช่วงเวลาที่บลัดเจ็บป่วย แมรี่ทิ้งโรงเรียนมาดูแลเธอ เพราะฉะนั้นแล้วเมื่อบลัดเสียชีวิต แมรี่จึงสูญเสียทั้งเพื่อนที่ดีที่สุดและโรงเรียนของเธอ

 

นอกจากนี้ในช่วงที่เธอเขียนงาน แม่รี่ยังมีควาสัมพันธ์กับศิลปินอีกคนหนึ่ง และสิ่งที่เธอตัดสินใจทำคือ เธอเสนอให้ตัวเองเข้าไปอยู่กับศิลปินคนนั้นและภรรยาของเขา อย่างไรก็ตามศิลปินคนดังกล่าวปฏิเสธของเสนอของเธอและตัดขาดจากเธอในที่สุด

 

ชีวิตรักของแมรี่นั้น ค่อนข้างจะตกตะลึงสำหรับคนยุคก่อน ต่อมาเมื่อเธอมีลูกกับกิลเบิร์ต อิมเลย์ นักเดินทางผจญภัยชาวอเมริกัน เธอก็ไม่ได้แต่งงาน อย่างไรก็ตามเมื่อเธอมีลูก เธอได้เลิกนิสัยต่อต้านสังคมของตัวเอง แต่นั่นทำให้กิลเบิร์ตทิ้งเธอไป จนทำให้เธอเคยคิดจะฆ่าตัวตาย

 

เมื่อเธอแต่งงานใหม่กับ วิลเลียม ก็อดวิน และมีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคน และเป็นคนที่สองของแมรี่ .. หลังจากที่แมรี่จากไปอย่างกะทันหัน วิลเลียมได้ตีพิมพ์ข้อเขียนของเขาที่มีต่อแมรี่ ซึ่งทำให้คนที่อ่านดูถูกและเหยียดความคิดของแมรี่และตัวแมรี่เองมานานนับหลายศตวรรษ .. นอกจากนี้ยังมีข้อเขียนบางประการที่โจมตีเธอ โดยบอกว่า การติดเชื้อทางช่องคลอดหลังจากต้องคลอดบุตรสาวของตัวเองเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ชัดเจน ถึงความแตกต่างด้านเพศ และชี้ให้เห็นว่านี่คือชะตากรรมของผู้หญิงและโรคที่พวกเธอ (ซึ่งเป็นผู้หญิง) ต้องได้รับเท่านั้น!

 

รู้จักแมรี่ โวลสโตนคราฟต์ ผู้หญิงที่ทำให้ ‘นิการากัว’ มงลง!

 

แมรี่ตายในปี 1797 หลังจากนั้นกว่าร้อยๆ ปี ความคิดเฟมินิสต์ และการเรียกร้องสิทธิความเท่าเทียมทางเพศบนโลกใบนี้จึงก้าวหน้าขึ้น ดังเช่น สปีชของ มิสยูนิเวิร์ส 2023 ที่บอกว่า

‘ ฉันจะเลือก แมรี วอลล์สโตนคราฟต์ (Mary Wollstonecraft) เพราะเธอช่วยเปิดพื้นที่ทางสังคมและให้โอกาสผู้หญิงหลายคน และสิ่งที่ฉันจะทำ ฉันอยากลดช่องว่างด้านรายได้ (ระหว่างผู้ชายและผู้หญิง) เพื่อให้ผู้หญิงสามารถทำงานได้ในสถานที่ใดก็ได้ที่พวกเขาเลือก เพราะไม่มีข้อจำกัดสำหรับผู้หญิง … (สิ่งที่แมรี่ทำ) นั่นคือเมื่อปี 1750 ตอนนี้ปี 2023 แล้ว เรากำลังสร้างประวัติศาสตร์อีกครั้ง’

 

มิสยูนิเวิร์ส 2023

 

และนี่คือบุคคลที่ มิสนิการากัวเลือกและส่งให้เธอได้คว้ามงกุฎมาครอง  .. แมรี่ โวลสโตนคราฟต์ ผู้บุกเบิกความเท่าเทียมทางเพศในยุคที่ไม่มีใครนึกถึง 'สิทธิสตรี'