posttoday

เยือนอาณาจักร เจงกีส ข่าน ‘มองโกเลีย’ เที่ยวได้ไม่ง้อวีซ่า

19 มีนาคม 2566

สถานทูตมองโกเลียประจำประเทศไทย และบ้านพระยาทราเวลเชิญชวนให้คนไทยได้สัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวใหม่ๆใน ‘มองโกเลีย’ ดินแดนสุดยูนีค เต็มอิ่มด้วยธรรมชาติและประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ และที่สำคัญคือคนไทยสามารถไปเที่ยวได้เลยโดยไม่ต้องขอวีซ่า

มองโกเลีย ถือเป็นดินแดนสุดยูนีค เปี่ยมไปด้วยธรรมชาติที่งดงามและประวัติศาสตร์ยิ่งใหญ่ ถึงขนาดเคยครองพื้นที่ได้ถึง 1 ใน 4 ของโลก ทั้งยังมีกิจกรรมสุดสนุก ผู้คนน่ารัก อาหารอร่อย ซึ่งหากคนไทยอยากไปเยือนสถานที่แห่งนี้สามารถไปได้เลยโดยไม่ต้องขอวีซ่า

เยือนอาณาจักร เจงกีส ข่าน ‘มองโกเลีย’ เที่ยวได้ไม่ง้อวีซ่า

ในปี ค.ศ. 1206 อาณาจักรมองโกลถูกก่อตั้งโดย เจงกีส ข่าน ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นอาณาจักร ที่ครอบคลุมพื้นใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก

เมืองหลวงของมองโกเลียคืออูลันบาตอร์ (ULAAN BAATAR)  ซึ่งมีความหมายว่า ‘วีรบุรุษแดง (Red Hero)’ เพื่อให้เกียรติแก่ DAMDIN SUHNAATAR ผู้ชักนำกองทัพของสหภาพโซเวียตเข้ามา เพื่อปลดปล่อยมองโกเลียจากการยึดครองของจีน

เยือนอาณาจักร เจงกีส ข่าน ‘มองโกเลีย’ เที่ยวได้ไม่ง้อวีซ่า

สัมผัส 10 ประสบการณ์สุดยูนีคในมองโกเลีย

1.ใช้ชีวิตแบบ Nomad นอนใน Ger ที่พักแบบกระโจม

หนึ่งในสิ่งห้ามพลาดเมื่อไปมองโกเลีย ก็คือการพักค้างแรมใน เกอร์ (Ger) กระโจมที่พักแบบกระโจมสไตล์มองโกเลีย ที่พำนักของชาว Nomad ชนเร่ร่อนของมองโกเลีย รูปทรงของเกอร์จะเป็นทรงกลมๆ เป็นภูมิปัญญาที่พวกเขาใช้มาหลายทศวรรษ ต้านลมแรงได้ดี มีเสาสองต้นตรงกลางเพื่อรับน้ำหนัก หลังคาและผนังทำจากผ้าใบเคลือบไขมันสัตว์ทำให้อบอุ่นในหน้าหนาว

ปัจจุบันอาจไม่ใช้ไขมันสัตว์แต่พวกเขาก็มีเทคนิคการออกแบบให้ผนังอบอุ่นสบาย ในปีหนึ่งๆ ชาวมองโกลจะย้ายที่อยู่ไปเรื่อยๆ เกอร์จึงมีการออกแบบให้รื้อถอนได้ง่าย ภายในจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่นเตียง, โต๊ะหรือตู้ และเตาผิงไฟ

เยือนอาณาจักร เจงกีส ข่าน ‘มองโกเลีย’ เที่ยวได้ไม่ง้อวีซ่า

2.ท่องเที่ยวชมวิวสุดฟิน นอนบนรถไฟสาย Trans Mongolia

การเดินทางในประเทศด้วยรถไฟเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวหลายคนใฝ่ฝันถึง เพื่อที่จะได้ชมวิวอันหลากหลายของมองโกเลียได้อย่างเต็มตา นักท่องเที่ยวต่างก็อยากอยู่บนขบวนโบกี้นี้อย่างน้อยสักครั้งในชีวิต เพื่อชมบรรยากาศตลอด 2 ข้างทางว่าสวยสดงดงามเพียงใด ยิ่งได้นอนชมวิวบนรถไฟด้วยยิ่งได้บรรยากาศ และไม่ต้องกลัวความหนาว เพราะมีฮีทเตอร์บนรถไฟ ความสนุกในการพักที่ตู้นอนบนขบวนรถไฟ ในห้องจะมี 4 เตียง

 

เยือนอาณาจักร เจงกีส ข่าน ‘มองโกเลีย’ เที่ยวได้ไม่ง้อวีซ่า

3.กิจกรรมสุดยูนีค ขี่ม้าเดินเล่น-ขี่ม้าลากเลื่อน-สุนัขลากเลื่อน

การท่องเที่ยวในมองโกเลีย นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับการขี่ม้าเดินเล่น เป็นม้าที่ถูกฝึกให้เชื่อง จนนักท่องเที่ยวขี่ม้าเดินเล่นได้ตามลำพัง ม้าจะกลับมาหาเจ้าของเอง ในฤดูหนาวที่น้ำจับตัวเป็นแผ่นน้ำแข็งหนาหลายเมตร นักท่องเที่ยวจะได้ขี่ม้าลากเลื่อนบนพื้นน้ำแข็งอย่างสนุกสนาน

เยือนอาณาจักร เจงกีส ข่าน ‘มองโกเลีย’ เที่ยวได้ไม่ง้อวีซ่า

อีกกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดคือสุนัขลากเลื่อน (Mongol dog sledding) เหล่าสุนัขแสนน่ารักจะพาลัดเลาะเที่ยวชมธรรมชาติ สัมผัสความงามของป่าที่ปกคลุมด้วยหิมะ และความตื่นเต้นไปพร้อมกัน ตลอดจนจะพบเห็นอูฐและเหยี่ยวในกองคาราวานที่มีอยู่โดยทั่วไป

เยือนอาณาจักร เจงกีส ข่าน ‘มองโกเลีย’ เที่ยวได้ไม่ง้อวีซ่า

4.เรื่องราวแห่งประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ เจงกีสข่าน และแดมดิน ชุคบาตาร์

อนุสาวรีย์เจงกิสข่าน มหาบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ ครอบครอง 1 ใน 4 ของโลก (Genghis Khan Statue Complex) สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึง นักรบผู้ยิ่งใหญ่แห่งมองโกล อนุสาวรีย์คนขี่ม้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีความสูงประมาณ 40 เมตร น้ำหนักกว่า 250 ตัน เทียบเท่าตึก 12 ชั้น

รวมถึงอนุสาวรีย์สามข่านผู้ยิ่งใหญ่แห่งจักรวรรดิมองโกลทั้งเจงกิสข่าน , โอเกเดข่าน และกุบไลข่าน ณ จัตุรัสซัคบาทาร์ ยังมีอนุสาวรีย์รูปปั้นของแดมดิน ชุคบาตาร์ (DAMDIN SUHNAATAR) ผู้นำการปฏิวัติในปี ค.ศ. 1921 แลอกีอแห่งคืออนุสรณ์สถานแห่งการต่อสู้ไซซาน (Zaisan Memorial) ตั้งอยู่บนยอดเขาไซซาน สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารมองโกเลียที่เข้าร่วมรบกับทหารสหภาพโซเวียตในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จนนำไปสู่การปฏิวัติประกาศอิสรภาพของประเทศมองโกเลีย

เยือนอาณาจักร เจงกีส ข่าน ‘มองโกเลีย’ เที่ยวได้ไม่ง้อวีซ่า

5.ธรรมชาติและภูมิประเทศสุดหลากหลาย

หนึ่งในนั้นคือทะเลสาบฮุฟสกุล (khuvsgul lake)เปรียบดั่ง เจ้าหญิงแห่งมองโกเลีย น้ำจะจับตัวกันเป็นแผ่นน้ำแข็งหนาหลายเมตร พร้อมให้นักท่องเที่ยวสัมผัสความหนาวเย็น -15 ถึง -30 องศาเซลเซียส

มองโกเลียในช่วงหน้าร้อน ในพื้นที่ใจกลางมองโกเลียจะมีภูมิประเทศที่หลากหลาย ทั้งหนองน้ำ ทุ่งหญ้าสเตปป์ ทุนดรา ป่าสนไทก้า และเขตอัลไพน์ ทำให้มีนกและสัตว์ป่าหายากหลายชนิด

มาถึงมองโกเลียทั้งที พลาดไม่ได้ที่จะชมอุทยานแห่งชาติโกรชิ เตเรลจ์ (Gorkhi-Terelj National Park) เขตอนุรักษ์ทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของมองโกเลีย มีภูเขาหินแกรนิตขนาดใหญ่รูปร่างแปลกตามากมาย ในอุทยานมีชาวนอร์มาดิก (NORMADIC FAMILY) ซึ่งเป็นชนเผ่าพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ และมีหินเต่า (Turtle Rock) เป็นภูเขาหินแกรนิตขนาดใหญ่ มีรูปร่างคล้ายเต่า

เยือนอาณาจักร เจงกีส ข่าน ‘มองโกเลีย’ เที่ยวได้ไม่ง้อวีซ่า

6.อารยธรรมหลายพันปี และหินกวางโบราณ

อาจกล่าวได้ว่ามองโกเลียเป็นประเทศเก่าแก่โบราณอีกประเทศหนึ่งที่มีอารยธรรมมายาวนานและมีความเจริญรุ่งเรืองมากในอดีต หนึ่งในการค้นพบที่น่าทึ่ง เช่นหินกวางลึกลับ หินรูปกวางเหล่านี้มีอายุประมาณ 2,700 ปีเป็นอย่างต่ำ และแสดงภาพหลายภาพ เช่น กวาง กวางเอลก์ ม้า ใบหน้าคน และดวงอาทิตย์ ผลงานชิ้นเอกในยุคสำริด ปัจจุบัน มีการค้นพบหินกวางอย่างน้อย 1,500 ชิ้นทั่วประเทศมองโกเลีย

เยือนอาณาจักร เจงกีส ข่าน ‘มองโกเลีย’ เที่ยวได้ไม่ง้อวีซ่า

7.ดินแดนแห่ง Buddist Tourism สุดยิ่งใหญ่

ประชากรของมองโกเลียส่วนใหญ่นับถือพุทธศาสนา โดยมีวัดกานดาน (Gandan Monastery) บางครั้งเรียกอารามกันดาน เป็นวัดคู่บ้านคู่เมือง ศูนย์รวมใจชาวพุทธมองโกเลียในเมืองหลวงอูลันบาตอร์ เป็นที่ประดิษฐานของพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปในพระอิริยาบถยืน อยู่ด้านในพระวิหารที่สูงที่สุดในโลกด้วย ความสูง 26.5 เมตร ใครมาทัวร์มองโกเลีย ต้องแวะมากราบสักการะเพื่อเป็นสิริมงคลกันสักครั้ง

เยือนอาณาจักร เจงกีส ข่าน ‘มองโกเลีย’ เที่ยวได้ไม่ง้อวีซ่า

8.ดินแดนแห่งอุปกรณ์กันหนาวและแคชเมียร์

ในย่านใจกลางของเมืองอูลันบาตอร์ (Ulaanbaatar) มีร้านขายของที่ระลึกหลายแห่ง โดยมีสินค้ายอดนิยม ได้แก่ เสื้อผ้าแบบดั้งเดิม, รองเท้าบูท, หมวก, เสื้อผ้าแคชเมียร์ทำจากขนแพะภูเขา มีหมวกมองโกล (Mongolian Hat) เป็นต้นตำรับที่ต่อมาผลิตกันไปทั่วโลก

Gobi cashmere Outlet คือที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยว ขายเสื้อผ้าขนสัตว์ แบรนด์ GOBI ที่ ทำส่งออกมาตรฐานยุโรป-อเมริกา และ BLACK Market Dunjingarav ตลาดขายเสื้อผ้าและอุปกรณ์กันหนาว สินค้าราคาถูก คล้ายกับย่านโบ๊เบ๊ คลองถม พาหุรัด หรือสำเพ็งของบ้านเรา

เยือนอาณาจักร เจงกีส ข่าน ‘มองโกเลีย’ เที่ยวได้ไม่ง้อวีซ่า

9.ผู้คนแข็งแกร่งสุดในปฐพี

ในมองโกเลียอุณภูมิสูงสุดในฤูดูร้อนอาจจะสูงถึง 40 °C และต่ำสุดในฤดูหนาวอาจจะลดลงถึง -40 °C ชาวมองโกเลียสามารถปรับตัวให้เข้ากับอากาศทุกฤดูกาลได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในชาติพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี

คนพื้นเมืองส่วนใหญ่จะใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติที่ไม่ถูกรบกวน เลี้ยงสัตว์ และดำรงชีวิตแบบท้องถิ่นของตน มีความสามารถในการขี่ม้าและยิงธนู เป็นความสามารถเฉพาะตัวที่อยู่ในสายเลือดของชาวมองโกล

เยือนอาณาจักร เจงกีส ข่าน ‘มองโกเลีย’ เที่ยวได้ไม่ง้อวีซ่า

10.อาหารสไตล์มองโกเลีย บาร์บีคิวและสุกี้สไตล์มองโกลอันลือลั่น

มองโกเลียบาร์บีคิว (Khorkhog-คอร์คอก) เป็นอาหารดั้งเดิมของชาวมองโกล เขาจะนำเนื้อแพะย่าง มาต้มรวมกันกับผักต่างๆ เช่นแครอท มันฝรั่้ง หัวหอม เติมน้ำเล็กน้อยแล้วใส่หินที่ร้อนจัดลงไป บาร์บีคิวมองโกลโด่งดังไปทั่วโลก เพราะอากาศหนาวคนจึงนิยมทานปิ้งย่าง ยังมีสุกี้ มองโกล ที่อร่อยมาก คือนำเนื้อต่างๆ มาต้มรวมกัน มีเกี๊ยวที่ทำจากแป้งที่มีไส้ ทำจากเนื้อวัวหรือเนื้อแกะ เกี๊ยวนึ่ง ซึ่งเรียกว่า บึซ และเกี๊ยวทอดเรียกว่า คื้อคูชูวร์ และยังมีขนมปังรวมถึงโดนัทสไตล์มองโกล ขนมปังนุ่มๆ ชิ้นใหญ่มาก

นี่เป็นเพียงประสบการณ์ส่วนหนึ่งจากการท่องเที่ยวในมองโกเลีย หากอยากได้ประสบการณ์ในดินแดนสุดชิคและยูนีค มองโกเลียถือเป็นสถานที่ต้องห้ามพลาดอย่างปฎิเสธไม่ได้