posttoday

ทีรามิสุ ของหวานสัญชาติอิตาเลี่ยน

15 มกราคม 2553

ทีรามิสุ (Tiramisu) ฟังดูเหมือนสำเนียงคล้ายญี่ปุ่น หากทว่าเป็นของหวานเลื่องชื่อสกุลดังจากอิตาลีต่างหากล่ะ!...

ทีรามิสุ (Tiramisu) ฟังดูเหมือนสำเนียงคล้ายญี่ปุ่น หากทว่าเป็นของหวานเลื่องชื่อสกุลดังจากอิตาลีต่างหากล่ะ!...

โดย...สาโรจน์ มีวงษ์สม                             

ทีรามิสุ ของหวานสัญชาติอิตาเลี่ยน

ทีรามิสุ (Tiramisu) ฟังดูเหมือนสำเนียงคล้ายญี่ปุ่น หากทว่าเป็นของหวานเลื่องชื่อสกุลดังจากอิตาลีต่างหากล่ะ!
รู้ไหมว่าร้านอาหารอิตาเลี่ยนไม่ว่าจะไปสร้างชื่อเสียง หรือเปิดบริการ ณ มุมใดของโลก จะต้องมีของหวานที่ว่านี้เป็นการตบท้ายของมื้ออยู่เสมอ

เรียกได้ว่าถ้าขาดไปเมื่อใดถือว่ามื้อพิเศษนั้นยังไม่สิ้นสุด หรือไม่ก็ขาดอรรถรสในการร่ำรสอาหารอิตาเลี่ยนขนานแท้กันไปเลย  และหากได้ลิ้มลองเมื่อใดรสชาติจะติดลิ้น และติดใจไม่รู้ลืมกันเลยทีเดียว

ทีรามิสุ (Tiramisu) เป็นภาษาอิตาเลียน ที่มีความหมายว่า "Pick me up" เพราะทิรามิสุเป็นเค้กที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงาน จากส่วนผสมที่มีทั้งไข่ไก่ น้ำตาล และยังมีคาเฟอีนในปริมาณที่สูง จึงทำให้ผู้ที่ได้ลองลิ้มชิมรสรู้สึกกระปี้กระเปร่า  หรืออาจจะแปลในอีกความหมายหนึ่งก็ได้ว่า "เลือกฉันซิ"  แล้วคุณจะรู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้นประมาณนั้น

ทิรามิสุเรียกอีกอย่างว่า "Tuscan Trifle" ที่นอกจากรสชาติชวนให้หลงใหลได้ปลื้มกันแล้ว เรื่องของต้นกำเนิดก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ซึ่งอันที่จริงเรื่องต้นกำเนิดของขนมหวานเลื่องรสนี้มีมาอย่างไรนั้นยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ เพียงแต่เห็นปรากฏในตำราทำอาหารของกรีก

บ้างก็ว่าเป็นขนมที่เพิ่งเกิดขึ้นมาเมื่อ 10 กว่าปีนี้เอง โดยเกิดจากที่ "ปาตีซีแยร์" หรือคนทำขนมที่ชาวฝรั่งเศสเขาเรียกกันเห็นว่ามีคุกกี้ที่เหลือในตู้เย็นจนแข็งไม่น่ากินแต่ในใจก็นึกเสียดาย ว่าแล้วก็เกิดปิ๊งไอเดียด้วยการนำคุกกี้ที่ว่ามาแช่คาลัวส์ วางสลับกับครีมชีส จนได้เค้กที่แสนอร่อยในที่สุด

บ้างตำราก็ว่า ทิรามิสุ เกิดขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งเป็นช่วงที่ประชากรประเทศอิตาลีประสบปัญหายากจน  แล้วพวกเขาต้องออกสู้ในสนามรบ  ภรรยาเลยนำเอาขนมปังกรอบมาผสมกับกาแฟให้สามีของตนพกติดตัวไปรับประทานยามออกรบ  เพราะเชื่อว่าด้วยส่วนผสมของขนมชนิดนี้จะช่วยเพิ่มพละกำลังให้กับพวกเขาได้รับชัยชนะ และจะได้กลับมาบ้านอย่างปลอดภัย หรืออีกนัยหนึ่งก็เพื่อที่ว่าเวลาสามีได้ลิ้มรสขนมชนิดนี้ยามใดจะเหมือนต้องมนต์จนอดคิดถึงภรรยาสุดที่รักไม่ไหว จึงมีกำลังใจทำศึกเพื่อที่จะได้กลับบ้านไปหาเธอโดยเร็ว แหล่ม...ไหมล่ะภรรยาของพวกชาตินักรบ

ทีรามิสุ ของหวานสัญชาติอิตาเลี่ยน

บ้างก็ว่าที่มาของทิรามิสุฉบับที่ใกล้เคียงมากที่สุดคือ  เกิดขึ้นในสมัยเรอเนซองส์ ที่เซียน่าเมืองทัสคานี ซึ่งอยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอิตาลี  โดยได้มีผู้ปรุง "ซุปปาเดลดุคา" ขึ้นถวาย Grand Duke Cosimo de'Medici III (มหาดยุคโคซิโมเดเมซี) และท่านดยุคได้นำกลับมาที่เมืองฟลอเรนซ์ด้วย ซึ่งเชื่อว่านั่นก็คือทิรามิสุนั่นเอง

ครั้นพอถึงศตวรรษที่ 19 ซุปปาเดลดุคากลายเป็นของหวานที่นิยมมากในหมู่ปัญญาชนและศิลปินชาวอังกฤษ ซึ่งพักอาศัยที่ฟลอเรนซ์ในขณะนั้น กลุ่มคนดังกล่าวเรียกซุปปาเดลดุคา อีกอย่างว่า "ซุปปาอินกลีส" (zuppa Inglese) เมื่อพวกเขากลับอังกฤษก็ได้นำซุปปาอินกลีสกลับไปด้วย ต่อมาซุปปาอินกลีสก็เป็นของหวานที่ชาวผู้ดีเขาชื่นชอบไปทั้งเกาะกันเลยทีเดียว

ความนิยมชมชอบ ซุปปาอินกลีส ยังแผ่ไปถึงเมืองเทรวิโซ่ ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเวนิสในจังหวัดแถบตะวันตกเฉียงเหนือของเวเน โต เทรวิโซ่ ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องคลองสวย ภาพเขียนสีน้ำเป็นเลิศ และที่แน่ๆ คือ กลายเป็นดินแดนที่ขึ้นชื่อในเรื่องของ ทิรามิสุ อีกด้วย

ยังมีเรื่องเล่าสนุกๆ ที่ทำให้ทีรามิสุมีสีสันและน่าสนใจมากขึ้น หนึ่งในนั้นเล่าว่าในอดีตทีรามิสุเป็นที่ชื่นชอบของบรรดาสตรีในราชสำนักของเวนิสมากที่สุด ทั้งนี้ก็เพราะว่า Tirami-su แปลตามตัวได้ว่า pick me up ที่แปลว่าคุ้นเคย สนิทสนม ซึ่งพวกเธอใช้เป็นรหัสลับยามเมื่อแอบพบกับชายชู้นั่นเอง

แม้แต่ในอเมริกาเอง ทิรามิสุ ก็เข้าไปครองใจผู้คนไม่ใช่น้อย ซึ่งเริ่มแพร่หลายในเมืองซานฟรานซิสโก และปัจจุบันนี้ ทีรามิสุ ได้กลายเป็นเป็นส่วนหนึ่งในเมนู ของร้านอาหารหลายร้านทั่วประเทศไปแล้ว 

เรียกได้ว่าถึงเวลานี้ทีรามิสุกลายเป็นของหวานที่ไม่ได้นิยมแค่ชาวอิตาลี แต่คนทั่วโลกที่มีโอกาสได้ลิ้มรสขนมชนิดนี้พากันติดอกติดใจในรสชาติถึงขั้นที่ยากจะลืมเลือน ทั้งนี้คงเป็นเพราะรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากส่วนผสมที่แตกต่าง อาทิ ไข่ไก่ ชีสมาสคาโปเน่ของอิตาลีที่ให้รสชาติออกมันๆ อมเปรี้ยวนิดๆ ที่ปลายลิ้น กับวิปปิ้งครีมนุ่มๆ ตัดกับรสเข้มของขนมปังเค้กสปองจ์หรือคุกกี้แบบนิ่มที่เรียกว่าเลดี้ฟิงเกอร์สลับเป็นชั้นที่ชุ่มฉ่ำด้วยกาแฟเอสเปรสโซ่ที่ให้ความขมกำลังดี แถมยังเพิ่มดีกรีความอร่อยด้วยการผสมเหล้ามัลซาร่าลงไป จึงกลายเป็นของหวานมีระดับที่มีความอร่อยแสนจะลงตัว

ทีรามิสุ ของหวานสัญชาติอิตาเลี่ยน

พอหลังๆ คนนิยมมากขึ้น ทิรามิสุก็ยิ่งมีการพัฒนาทั้งรสชาติและหน้าตาที่แตกต่างกันออกไปอีกมากมาย อาทิ ใครชอบกาแฟก็ใส่กาแฟหนักนิดหนึ่ง ส่วนคนไม่กินกาแฟเขาก็หันไปทำเวอร์ชั่นอื่นๆ กันแทน เช่น อาจจะใช้ โกโก้ หรือว่าช็อกโกแลตแทน ในช่วงที่ชาเขียวมาแรงก็เลยมีโอกาสได้ลิ้มลองทิรามิสุรสชาเขียว ที่อร่อยไปอีกแบบ


ทีรามิสุยังมีอีกหลายสูตร บางสูตรก็ใส่ชีส บางสูตรก็ไม่ใส่ บางสูตรใส่ไข่ บางสูตรไม่ใส่ไข่ บางสูตรก็เพิ่มด้วยการใส่เหล้า เลือกความร้อนแรงได้ตามความต้องการกันเลย และทิรามิสุ สามารถเสิร์ฟได้ในลักษณะที่เป็นแก้วหรือถ้วย และในแบบที่เป็นมูสเค้ก ก็แล้วแต่ความชอบ

ว่ากันว่าถ้าอยากกินทีรามิสุให้อร่อยควรจะรับประทานในขณะที่เย็นจัด และอาจจะเพิ่มรสชาติด้วยการเสิร์ฟกับขนมปัง หรือผลไม้สด โดยเฉพาะสตรอเบอรี่นั้นเขาขากันนักแล
คนที่มีเสน่ห์ปลายจวัก หรือรักการเข้าครัว รวมทั้งมือสมัครเล่นยังหาเวลาว่างเข้าครัว ง่วนอยู่กับการทำทีรามิสุกันอย่างสนุกสนาน พอเชี่ยวชาญขึ้นหน่อย หรือรสมือดีจนคนยอมรับก็มักจะจัดมาเลี้ยงแขกเหรื่อเป็นการตบท้ายของมื้อพิเศษด้วยกันทั้งนั้น

ทีนี้เชื่อหรือยังละครับว่าของหวานสัญชาติอิตาลีนามว่า ทีรามิสุ นี้ธรรมดาซะทีไหน ผู้ใดได้ลิ้มรสเป็นต้องติดอกติดใจและเรียกหาทุกครั้งที่มีโอกาส ส่วนใครที่ยังไม่ได้ลิ้มลองต้องรีบไปหารับประทานกันนะครับ เดี๋ยวจะโดนค่อนเอาได้ว่าเสียชาติเกิดที่ไม่ได้ลิ้มลองของดีๆ คริ คริ...!

ข่าวล่าสุด

วปอ.68 มอบตาข่ายป้องกันโดรน ทิ้งระเบิด และสิ่งของ ช่วยทหารชายแดนภาค 2