posttoday

อานุภาพ เจโตปริยญาณ

21 พฤศจิกายน 2553

ตอนเรียนแปลธรรมบทเรื่องภาคิเนยยสังฆรักขิต เป็นเรื่องของพระรูปหนึ่งที่มีฐานะเป็นอุปัชฌาย์ได้ล่วงรู้ความคิดของลูกศิษย์ทั้งหมด....

ตอนเรียนแปลธรรมบทเรื่องภาคิเนยยสังฆรักขิต เป็นเรื่องของพระรูปหนึ่งที่มีฐานะเป็นอุปัชฌาย์ได้ล่วงรู้ความคิดของลูกศิษย์ทั้งหมด....

โดย...อ.ตุ้ย วรธรรม

ตอนเรียนแปลธรรมบทเรื่องภาคิเนยยสังฆรักขิต เป็นเรื่องของพระรูปหนึ่งที่มีฐานะเป็นอุปัชฌาย์ได้ล่วงรู้ความคิดของลูกศิษย์ทั้งหมด ช่วงที่แปลนั้นบางครั้งก็ทำให้คิดว่าถ้าตัวเองสามารถล่วงรู้ความคิดจิตใจของคนอื่นได้ก็คงจะดีไม่น้อยจะได้รู้ว่าใครคิดยังไงกับเรา

เรื่องนี้มีว่ามีชายคนหนึ่งฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าแล้วอยากจะบวชมาก ถึงขนาดสละทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้น้องชายไปบริหารจัดการ พอบวชแล้วต่อมาไม่นานได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์และได้ชื่อว่า “พระสังฆรักขิตเถระ”

พระเถระนี้มีน้องชายคนหนึ่งและน้องชายคนนี้ก็รักท่านมาก แต่งงานมีครอบครัวจนมีลูกชายหนึ่งคน และด้วยความรักในพระพี่ชายจึงได้เอาชื่อพระของท่านมาตั้งเป็นชื่อลูกเพื่อความเป็นสิริมงคลด้วย

เกือบทุกวันพ่อจะพาลูกไปที่วัดทำให้สังฆรักขิตเมื่อเติบโตเป็นหนุ่มเกิดอยากบวชขึ้นมา พ่อแม่จึงพาไปปรึกษากับหลวงลุงซึ่งท่านไม่ขัดข้องและยินดีบวชให้

แต่บวชแล้วไม่ได้อยู่กับอุปัชฌาย์ได้ย้ายไปจำพรรษาที่วัดอื่น และที่วัดนั้นโยมได้ถวายผ้าจำนำพรรษา 2 ผืน 7 ศอก และ 8 ศอก ครั้นได้ผ้ามาก็พิจารณาว่าผ้า 7 ศอกจะใช้เอง แต่ 8 ศอกจะเอาไปถวายหลวงลุงอุปัชฌาย์

ดังนั้นออกพรรษาแล้ววันหนึ่งจึงเดินทางมาเยี่ยมหลวงลุง แต่ไม่พบเพราะเป็นเวลาบิณฑบาตจึงถือวิสาสะเข้าไปปัดกวาด เตรียมน้ำล้างเท้า ปูอาสนะแล้วนั่งคอย พอท่านมาก็เข้าไปรับบาตรจีวรนิมนต์ให้นั่งบนอาสนะที่เตรียมถวาย แล้วเอาพัดก้านตาลออกมาพัดให้

ผ่านไปครู่หนึ่งพระหลานชายฉวยเอาผ้าที่เตรียมมาออกมาถวายวางไว้แทบเท้าพร้อมเรียนว่า ผ้าผืนนี้เก็บไว้ตั้งแต่ในพรรษาและตั้งใจจะเอามาถวาย

ฝ่ายหลวงลุงเป็นพระสันโดษจึงบอกให้เก็บไว้ใช้เอง แม้จะถูกรบเร้าหลายครั้ง|ก็ไม่รับจนสร้างความน้อยใจให้พระหลานชายมากจนคิดอยากสึกขึ้นมาแต่ยังไม่เห็นทาง คิดไปพลางพัดให้หลวงลุงพลาง ในที่สุดเห็นช่องทางทำมาหากิน คือ คิดเอาผ้าผืน ที่ถวายหลวงลุงนี้แหละไปขาย ได้เงินมาแล้วก็เอาไปซื้อแม่แพะตัวหนึ่งกะว่าแม่แพะ ตกลูกก็จะเอาลูกแพะทั้งหลายไปขาย ได้เงินมาก็เก็บ ได้มากก็จะหาหญิงสักคนมาเป็นเมีย

พระหนุ่มคิดต่อไปว่า และเมื่อมีลูกชายก็จะเอาชื่อหลวงลุงมาตั้งเป็นชื่อลูก จากนั้นก็จะพาลูกเมียนั่งยานน้อยมากราบหลวงลุง  ความคิดของพระหนุ่มเลื่อนลอยต่อว่า ในขณะที่ขับยานมานั้นจะขออุ้มลูกเองเพราะยานเหวี่ยงแรงเกรงเมียอุ้มไม่ไหว เดี๋ยวจะทำลูกหล่นให้ยานเหยียบตาย เมื่อนั้นก็ทะเลาะกันเราก็จะเอาปฏักหวดเมียให้หลังหัก

คิดมาถึงตอนนี้ พระหลานชายก็เผลอสติลืมตัวคิดว่าหลวงลุงเป็นเมียเลยเอาด้ามพัดแทนปฏักกระแทกไปที่ศีรษะอุปัชฌาย์อย่างแรง แต่อุปัชฌาย์ก็ไม่แสดงอาการเจ็บออกมาให้เห็น คงนั่งนิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่พระหลานชายหารู้ไม่ว่าความคิดของตนหลวงลุงรู้แล้วทั้งหมด

แต่เพื่อเป็นการเตือนพระหลานชายท่านจึงพูดขึ้นว่า สังฆรักขิต! เธอตีผู้หญิงไม่ได้แล้วในเรื่องนี้ พระแก่อย่างหลวงลุงจะต้องได้รับโทษด้วยอย่างนั้นหรือ

สิ้นสุดคำพูดพระอุปัชฌาย์สังฆรักขิตผู้หลานถึงกับร้องตายแล้ว! ความคิดของเราทั้งหมดหลวงลุงรู้หมดแล้ว เป็นอย่างนี้เราจะบวชอยู่ต่อไปได้อย่างไร ว่าแล้วก็เผ่นหนีหลวงลุงด้วยความละอายไปอย่างรวดเร็ว

การที่หลวงลุงรู้ความคิดของพระหลานชายตลอดนั้น เพราะท่านได้เจโตปริยญาณซึ่งเป็นญาณที่สามารถล่วงรู้จิตของคนอื่นได้ทะลุปรุโปร่ง
สุดยอดอย่างนี้ ใครเล่าที่ไม่อยากมี แต่ของอย่างนี้ตราบใดที่ยังเป็นโลกีย์หมายถึงคนได้ยังไม่ได้เป็นอรหันต์ ก็มีสิทธิเสื่อมได้ทุกเมื่อ และถึงเป็นของคนที่บรรลุอรหันต์ก็จะหาใครเท่าพระพุทธเจ้าไม่มี

ข่าวล่าสุด

ประกาศ! ปิดกั้นอ่าวไทย 'สกัดน้ำมัน-ยุทธปัจจัย' เข้ากัมพูชา