ร้านลาบเป็ดชาละวัน อร่อยตามสไตล์ชนบท
ช่วงนี้ใกล้เข้าสู่เทศกาลสงกรานต์ หลายท่านต้องขับรถขึ้นสู่ภาคเหนือ หรือขับรถจากภาคเหนือมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ
โดย/ภาพ สิทธิพจน์ เกบุ้ย
ช่วงนี้ใกล้เข้าสู่เทศกาลสงกรานต์ หลายท่านต้องขับรถขึ้นสู่ภาคเหนือ หรือขับรถจากภาคเหนือมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ ที่ต้องใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 11 วังทอง-สากเหล็ก-เขาทราย เมื่อถึง อ.สากเหล็ก จ.พิจิตร ซึ่งถือได้ว่าเป็นระยะครึ่งทางระหว่างเชียงใหม่-กรุงเทพฯ หากรู้สึกหิว ขอแนะนำให้แวะร้าน “ลาบเป็ดชาละวัน” ตั้งอยู่เลขที่ 117 บ้านถ้ำคะนอง ต.สากเล็ก อ.สากเหล็ก จ.พิจิตร ร้านเป็นแบบเรียบง่าย บรรยากาศร่มรื่น ลมโชยเย็นสบายแบบร้านอาหารตามสไตล์ชนบท
วสันต์ เสงี่ยมวิไล เจ้าของร้านลาบเป็ดชาละวัน กล่าวว่า เคยทำร้านอาหารอยู่ในต่างจังหวัดมาหลายแห่ง มีประสบการณ์มาก แต่ถึงเวลาก็อยากกลับบ้านเกิดมาดูแลแม่ที่บ้านถ้ำคะนอง จึงปรับปรุงบ้านเป็นร้านอาหาร เปิดมาได้ 8 ปีแล้ว
เคล็ดลับการทำอาหารก็เนื่องมาจากตนเองเป็นนักตระเวนชิม ที่ไหนว่าอร่อยก็ครูพักลักจำนำมาปรับปรุงพัฒนาต่อยอดให้เป็นสูตรเฉพาะของตัวเอง ลองผิดลองถูกตามที่ลูกค้าติชม จนในที่สุดก็ค้นพบว่าคนไทยชอบอาหารป่า รสจัด รสแซ่บ ราคาต้องไม่แพง จึงตัดสินใจเปิดเป็น “ร้านลาบเป็ดชาละวัน” มีเมนูหลากหลายกว่า 100 เมนู ที่ใครมาก็ต้องสั่งก็คือ ลาบเป็ด ลาบจระเข้ ลาบเนื้อแพะ เนื้อกวาง-เนื้อจระเข้แดดเดียว เมนูปิ้งย่าง ลิ้นย่าง เนื้อย่าง เสือร้องไห้ นมย่าง กบ ปลาไหลผัดเผ็ด ขาดไม่ได้คือส้มตำ อาหารจากเมนูหลากหลายนี้ราคาเริ่มต้นที่ 60-120 บาท เท่านั้น
วสันต์ กล่าวถึงเคล็ดลับความร่อยว่า อาหารทุกอย่างต้องปรุงสด โดยเฉพาะของปิ้งย่าง จะไม่ย่างใส่ตู้เย็นแล้วเอามาเข้าไมโครเวฟให้ลูกค้ากิน เนื่องจากความหอมนุ่มจะไม่ได้อรรถรสที่เป็นธรรมชาติ ส่วนประเภทผัดเผ็ด พริกขี้หนู เครื่องเทศ เครื่องแกง ก็ต้องโขลกกันวันต่อวัน เมื่อนำลงกระทะก็จะมีรสชาติอร่อย กลิ่นหอมกรุ่น ซึ่งเป็นเสน่ห์ของอาหารไทย อาหารป่ารสแซ่บ ส่วนที่ว่าอาหารป่าประเภทเนื้อจระเข้ เนื้อกวางนั้น ก็ซื้อมาจากฟาร์มที่ใส่แพ็กมาขายถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ได้ไปล่าในป่า ส่วนกบ นก ตะพาบ หนูนา ก็มีขายอยู่ในท้องถิ่น พืชผักเครื่องปรุง พริก มะกรูด มะนาว ก็ปลูกข้างรั้วบ้าน จึงทำให้ไม่มีต้นทุนเรื่องค่าเช่าบ้าน


