ปลา (เหล็ก) น้อยสะเทือนโลก
ปลาเหล็กได้รับการตอบรับที่ดีมาก เวลาปรุงอาหารชาวบ้านก็จะนำปลาเหล็กใส่ลงไปในหม้อต้ม วิธีการนี้ทำให้โรคขาดธาตุเหล็กอันตรธานไปจากพื้นที่
โดย...m2fnews.com
ในปี 2008 คริสโตเฟอร์ ชาร์ลส์ เพิ่งจบการศึกษาด้านชีวการแพทย์ จากมหาวิทยาลัยเกลฟ์ (University of Guelph) ในประเทศแคนาดา เขาได้รับทุนไปทำการวิจัยด้านปัญหาสุขภาพในวงกว้างที่ประเทศกัมพูชา ที่เขาเลือกกัมพูชาก็เพราะทราบว่าที่นั่นต้องการอาสาสมัครไปช่วยแก้ปัญหาการขาดสารอาหาร โดยเฉพาะแร่เหล็ก คริสโตเฟอร์ ชาร์ลส์ และทีมงานจึงไปปักหลักศึกษาวิจัยที่หมู่บ้านต่างๆ ใน จ.กันดาล
ปัญหาของชาวชนบทกัมพูชาคือ ไม่มีรายได้ไม่มากพอที่จะซื้อหาเครื่องครัวที่ทำจากโลหะมาใช้ เพราะตามปกติแล้วการปรุงอาหารผ่านเครื่องครัวที่ทำจากโลหะหรือเหล็กจะช่วยปล่อยธาตุซึมเข้าไปในอาหารไปในตัว ครั้นจะไปหาเนื้อแดง ธัญพืช หรืออาหารเสริมธาตุเหล็กมารับประทานก็ยิ่งไปกันใหญ่ เพราะโอกาสที่คนยากจนในกัมพูชาจะลิ้มรสอาหารพวกนี้มีน้อยมาก
ชาร์ลส์ ใช้เวลาแก้ปัญหานี้นานหลายสัปดาห์ แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป จนต้องขอไปเลื่อนส่งงานวิจัยกับอาจารย์ที่ปรึกษา ซึ่งอาจารย์ที่ปรึกษาก็ดีใจหาย นอกจากจะอนุญาตแล้วยังสนับสนุนให้เขาทำงานวิจัยเรื่องการขาดธาตุเหล็กที่ จ.กันดาลต่อไป
ต่อมา ชาร์ลส์ ได้ไอเดียที่จะทำตุ้มเหล็กสำหรับนำไปใส่ในระหว่างปรุงอาหารเพื่อช่วยกระจายธาตุเหล็ก ตุ้มที่ว่านี้ตอนแรกทำเป็นรูปดอกบัว แต่ชาวบ้านไม่ชอบ หลังจากหารือกับผู้หลักผู้ใหญ่ในหมู่บ้านก็ตกลงกันว่าจะทำเป็นรูปปลาท้องถิ่นที่คนแถบนั้นถือกันว่าเป็นปลามงคล
ปรากฏว่าปลาเหล็กได้รับการตอบรับที่ดีมาก เวลาปรุงอาหารชาวบ้านก็จะนำปลาเหล็กใส่ลงไปในหม้อต้ม โดยจะบีบน้ำมะนาวลงไปเล็กน้อยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของร่างกายในการดูดซึมแร่ธาตุ เมื่อปรุงเสร็จแล้วก็นำออกมาล้าง ส่วนอาหารก็ไม่มีรสแปลกปลอม ทั้งยังให้ธาตุเหล็กที่จำเป็นในแต่ละวันอีกด้วย วิธีการนี้ทำให้โรคขาดธาตุเหล็กอันตรธานไปจากพื้นที่
เกวิน อาร์มสตรอง ดอกเตอร์หนุ่มชาวแคนาดา ศิษย์เก่าแห่งมหาวิทยาลัยเกลฟ์เช่นกัน และสนใจปัญหาโภชนาการมาโดยตลอด ได้นำไอเดียนี้มาปลุกปั้นให้เป็นความจริงและบริการจัดการในเชิงพาณิชย์แต่ไม่หวังผลกำไร ภายใต้ชื่อ บริษัท The Lucky Iron Fish Project ในปี 2012 โดยจ้างชาวกัมพูชาที่ด้อยโอกาสให้มาช่วยผลิตปลาเหล็ก โดยใช้เหล็กจากโรงงานเก่าแห่งหนึ่ง ในช่วงแรก ประมาณเดือนต.ค. 2013 บริษัทเริ่มการประชาสัมพันธุ์ปลาเหล็กตามหมู่บ้านไม่กี่แห่ง ต่อมาในเดือน ม.ค. 2014 จึงเริ่มโปรโมทปลาเหล็กแบบเต็มตัวที่ จ.กันดาล
การดำเนินงานของ Lucky iron fish ได้รับทุนอุดหนุนจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะในแคนาดา เช่น จากโครงการ Grand Challenges Canada หรือ GCC ของรัฐบาลแคนาดา เป็นเงิน 500,000 เหรียญแคนาดา ซึ่ง GCC เป็นโครงการที่มุ่งสนับสนุนแนวคิดที่ส่งผลสะเทือนในแง่บวกต่อความก้าวหน้าด้านสาธารณสุขระดับโลก นอกจากนี้ ยังได้รับเงินสนับสนุนจากภาคเอกชนกว่า 1 ล้านเหรียญแคนาดา
แม้ว่าจะไม่ใช่บริษัทที่แสวงหาผลกำไร หรือเป็นธุรกิจประเภท B Corporation แต่การจัดการแบบ Social Enterprise หรือ “กิจการเพื่อสังคม” ของบริษัทนี้น่าสนใจมาก โดยเฉพาะในด้านการพีอาร์ เพราะการประชาสัมพันธ์เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง ไม่เฉพาะแต่การระดมทุนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการทำให้สังคมเกิดความตระหนักว่า “ปลาตัวเล็กๆ ก็สามารถสร้างผลสะเทือนที่ใหญ่หลวง” (Little Fish. Big Impact) ได้เช่นกัน
เพราะทุกวันนี้ ยังมีชาวโลกถึงเกือบ 3,500 ล้านคน ที่เสี่ยงกับภาวะขาดธาตุเหล็ก
การได้ เกวิน อาร์มสตรอง มาเป็นผู้บริหาร มีส่วนช่วยเปิดมิติใหม่ในการแก้ปัญหาทุพโภชนาการ หรือขาดแคลนอาหาร จากประสบการณ์ของเขาที่เคยร่วมงาในค่ายผู้ลี้ภัยขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) และรู้สึกไม่พอใจกับการจัดการภาวะขาดอาหารในหมู่ผู้ตกทุกข์ได้ยาก เพราะเขามองว่าแค่การแจกจ่ายอาหารเท่านั้นไม่เพียงพอ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจะมีจินตนาการที่กว้างไกลและขยายความร่วมมือไปยังฝ่ายต่างๆ มากกว่านี้
ด้วยจิตใจที่มุ่งมั่นจะสร้างความเปลี่ยนแปลง ทำให้ Lucky iron fish สามารถแจกจ่ายไปได้เแล้วเกือบ 200,000 ตัว และตั้งเป้าจะให้ถึง 1 ล้านตัวทั่วโลกในเร็วๆ นี้
ความสำเร็จของ Lucky iron fish ภายใต้การบริหารของ อาร์มสตรอง ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (ซีอีโอ) ทำให้บริษัทเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง และทำให้เขาได้รับการจัดอยู่ในทำเนียบผู้บริหารประเภทกิจการเพื่อสังคมที่น่าจับตา ซึ่งมีอายุต่ำกว่า 30 ปี จากการสำรวจโดยนิตยสารฟอร์บส์ (30 Under 30) ยังไม่นับรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย
ขณะที่ คริสโตเฟอร์ ชาร์ลส์ เจ้าของไอเดีย ได้รับการยกย่องจากสื่อทั่วโลก ในฐานะผู้ชี้ทางออกให้กับปัญหาระดับโลกที่เรียบง่ายและราคาไม่แพง และเป็นผลผลิตจากความกระตือรือร้นที่จะช่วยเพื่อนร่วมโลกที่ตกทุกข์ได้ยากอย่างจริงใจ


