กาฬสุตตะ นรกด้ายดำ
โดย...อ.ตุ้ย วรธรรม
โดย...อ.ตุ้ย วรธรรม
นรกใหญ่ขุมที่สองนี้เรียกว่า “กาฬสุตตะ” นรกด้ายดำ หรือ นรกที่ลงโทษเหล่าสัตว์ตามเส้นด้ายดำ หรือนรกที่มีการลงโทษสัตว์นรกด้วยด้ายเหล็กดำ
เหตุที่เรียกเช่นนั้นเพราะสัตว์ในนรกนี้จะถูกนิรยบาลลงโทษโดยการเอาด้ายดำมาตีเป็นเส้นตามร่างแล้วเอาเลื่อยมาเลื่อย บางครั้งเอาขวานมาผ่า หรือเอามีดมาเฉือนหรือกรีดไปตามเส้นดำที่ตีไว้ไม่ให้ผิดรอยได้
นี่คือความหมายของกาฬสุตตนรก (กาฬดำ, สุตตเส้นด้าย)
นรกนี้ตั้งอยู่ใต้สัญชีวนรก รูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างยาวและลึกได้ 100 โยชน์ มีประตู 4 ประตู และมีนิรยบาลประจำอยู่ทุกประตูเพื่อคอยลงโทษสัตว์นรกด้วยวิธีต่างๆ (แหม...รู้ยังกับเคยลงนรกขุมนี้มายังงั้น)
ชีวิตพวกกาฬสุตตนรกบางพวกจะถูกนิรยบาลจับมัดให้นอนลงเหนือแผ่นเหล็กแดงยาวเหมือนร้อนลุกโชนด้วยไฟนรก
จากนั้นก็เอา “ด้ายดำ” ซึ่งทำด้วย “เหล็กใหญ่เท่าต้นตาล” มาตีนาบบนร่างของสัตว์นรกนั้นให้เป็นรอยเส้น ตีนาบลงตรงส่วนไหนก็เป็นรอยเส้นด้ายดำตรงนั้น ซึ่งรอยเส้นตรงนั้นเสมือนตีเส้นเพื่อการอย่างใดอย่างหนึ่ง
ใช่แล้วละครับ...รอยเส้นขนาดใหญ่นั้นนิรยบาลจะเอาเลื่อยนรกไฟลุกแดงมาเลื่อยลงไปตามรอยเส้นนั้นจนร่างของสัตว์นรกนั้นขาดเป็นท่อนๆ หรือบางทีก็เอาขวานมาผ่า เอามีดมาเฉือน กรีดตามรอยเส้นด้ายดำร้อนจัดที่ตีเอาไว้
สัตว์นรกเมื่อถูกทรมานสากรรจ์แสนหวาดเสียวเช่นนั้นก็ดิ้นรนทุรนทุรายร้องลั่นนรกด้วยความเจ็บปวด บางครั้งถึงกับทะลึ่งพรวดแสดงท่าทางฮึดฮัดหวังจะสลัดให้หลุดจากการลงทัณฑ์ของนิรยบาล
แต่ถึงจะดิ้นพล่านอย่างไรนิรยบาลก็มิปรานี มีแต่บังคับจับมัดให้แน่นเข้าไปอีก แล้วทำการเลื่อยตัดร่างกายสัตว์นรกต่อไป
กาฬสุตตนรกบางพวกพอเห็นนิรยบาลถือเลื่อยมาแต่ไกล ก็ไม่อาจจะอยู่ตรงนั้นต่างพากันวิ่งหนีเอาตัวรอด แต่พอถูกนิรยบาลร้องตวาดใส่เสียงสนั่นก้องนรกก็ยิ่งทำให้ตกใจกลัวสุดขีดหนีกันอุตลุดไปคนละทิศทาง
แต่ถึงจะหนีก็ไม่รอด เพราะว่าบาปกรรมที่สัตว์เหล่านั้นทำเมื่อครั้งเป็นมนุษย์ไม่ให้หนีไปไหนได้กลับบันดาลให้มีแผ่นกระดานเหล็กคมกริบลุกโชนด้วยเปลวไฟ
พร้อมทั้งมีเสียงดังน่ากลัวเหมือนฟ้าผ่าแล่นมาตัดที่ร่างของสัตว์นรกเหล่านั้นให้ขาดเป็นท่อนๆ หล่นร่วงเกลื่อนกลาดไปในที่นั้นๆ
เหล่าสัตว์นรกจะเสวยทุกขเวทนาอันร้ายกาจเห็นปานนี้อยู่เป็นเวลานานแสนนานจนกว่าจะหมดอกุศลกรรมที่ตนทำไว้แล้วจึงจะไปเกิดในภพภูมิอื่นขึ้นอยู่กับบุญกรรม
อยู่ในนรกนี้นานเท่าไรล่ะ ให้ดูที่เกณฑ์อายุของสัตว์ในกาฬสุตตนรกซึ่งอยู่ที่ 1,000 ปี หากเทียบเวลาของมนุษยโลกคือ 3โกฏิกับ 6 ล้านปี ของมนุษย์นั่นแหละ
พอสัตว์นรกพ้นจากกาฬสุตตนรกแล้วอกุศลกรรมยังไม่สิ้นก็เลื่อนออกไปตกในนรกบริวารของกาฬสุตตนรก หากยังไม่สิ้นก็เลื่อนขึ้นมาตกในสัญชีวนรกแล้วก็เลื่อนออกไปตกในนรกบริวารของสัญชีวนรกทุกขุมๆ
ครั้นพ้นจากนรกเหล่านี้แล้วอกุศลกรรมยังไม่สิ้นก็ไปบังเกิดในเปรตวิสัย ดิรัจฉาน บางทีไปเกิดเป็นคนเข็ญใจ เป็นคนอายุไม่ยืน ง่อยเปลี้ยเสียขา พิการ โรคมาก เรียกว่าไปเกิดเป็นอะไรก็ไม่ดี ไม่สมบูรณ์ สมประกอบ
ถามว่าทำชั่วอะไรจึงมาเสวยวิบากกรรมในนรกขุมนี้
ท่านว่าเมื่อเป็นมนุษย์เป็นคนใจบาปหยาบช้า ชอบจับสัตว์ต่างๆ มาตัดเท้า ตัดหู จมูก ปาก ให้ทุกข์ทรมาน ชอบจุดไฟเผาป่าด้วยเจตนาให้สัตว์ตาย หรือไม่ก็มักลงไม้ลงมืประทุษร้ายบิดามารดา ครูบาอาจารย์ผู้มีพระคุณ ชอบลักขโมย ฉ้อโกง เป็นอาจิณ
รู้อย่างนี้ก็ไม่ควรทำบาปใดๆ


