posttoday

หน้าหล่อ หุ่นล่ำ ‘นางกวัก’ เรียกสาวๆ

11 ตุลาคม 2559

ถ้าหน้าตาไม่ดี ไม่ใช่ลูกครึ่งจมูกโด่งเป็นสัน คิ้วเข้ม ผิวขาวสะอาดสะอ้านแบบนี้

โดย...ชุติมา-ภาดนุ

ถ้าหน้าตาไม่ดี ไม่ใช่ลูกครึ่งจมูกโด่งเป็นสัน คิ้วเข้ม ผิวขาวสะอาดสะอ้านแบบนี้ ก็คงไม่ได้ยืนถือถาดพรีเซนต์เทียนหอมฝีมือดีไซเนอร์ระดับโลก หรือถือถาดน้ำหอมสัญชาติผู้ดีอังกฤษราคาขวดละหลายพันบาทให้ยิ่งดูโก้หรูแบบนี้แน่ๆ ก็เพราะชายหนุ่มหน้าตาดีซึ่งทำหน้าที่ “สมาร์ทบอย” นี่ละ ที่สร้างทั้งสีสัน ความสดใสซาบซ่า และสร้างภาพลักษณ์ให้อีเวนต์ดูดีแสนเก๋ได้ทันใด!!

ที่มาที่ไปใครเลือกใช้หนุ่มหล่อมาทำหน้าที่นี้? แล้วคนทำอาชีพนี้อนาคตดีได้ใจสาวๆ ขนาดไหน?!! ต้องไปฟัง

นำร่องเรียกใช้ ‘สมาร์ทบอย’

หนุ่มหล่อล่ำทั้งสไตล์ลูกครึ่ง ทั้งไทยแท้บุคลิกแมนๆ เป็นสีสันสุดเร้าใจในอีเวนต์ที่ต้องยกความดีความชอบนี้ให้ สมบัษร ถิระสาโรช หรือป้าตือ ออร์แกไนเซอร์ชื่อดังของเมืองไทยซึ่งครองเวทีจัดอีเวนต์บิ๊กๆ ดังๆ มายาวนานหลายทศวรรษ สร้างชื่อระดับทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ มามากมายนับไม่ถ้วน และถือเป็นผู้ริเริ่มนำ “สมาร์ทบอย” มาใช้ในงานอีเวนต์เป็นรายแรกๆ เผยว่า ได้นำสมาร์ทบอยเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของอีเวนต์เมื่อ 15 ปีที่แล้ว

“ในงานเปิดตัวเครื่องสำอางของเมืองไทย นอกจากตัวสินค้าแล้ว เรายังต้องใช้แรงจูงใจเป็นหนุ่มหน้าตาดีมาช่วยดูแลแขกวีไอพีที่มาร่วมงานด้วย ซึ่งก็เหมือนมาช่วยขายเครื่องสำอางไปด้วยในตัว ก็ถือว่าเป็นเรื่องแปลกใหม่และได้รับฟีดแบ็กที่ดี เพราะเป็นการใช้จิตวิทยาอย่างหนึ่ง ก็จริงอยู่ที่ว่าผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะชอบมองดูผู้หญิงด้วยกันที่หน้าตาสวยๆ งามๆ อยู่แล้ว แต่ถ้ามีผู้ชายหล่อๆ หุ่นดีๆ มาคอยเทกแคร์ มาช่วยทาครีมที่ผิวให้ตอนทดลองใช้ ก็เป็นสิ่งที่ผู้หญิงส่วนใหญ่จะรู้สึกพึงพอใจยิ่งขึ้น”

 

สมบัษร บอกว่า สมาร์ทบอยที่เคยได้ร่วมงานกันในครั้งนั้น ปัจจุบันนี้บางคนได้กลายเป็นพระเอกที่มีชื่อเสียงในวงการบันเทิงบ้านเราไปแล้ว

“มีหลายคนที่เราเคยฝึกให้เขาทำงานจากการเป็นสมาร์ทบอยหรือเป็นนายแบบประจำอีเวนต์มาก่อน โดยสอนและแนะนำว่าควรจะต้องทำอย่างไรบ้าง ซึ่งตอนนั้นบางคนยังไม่มีชื่อเสียงเลยนะ แต่ปัจจุบันก็โด่งดังเป็นพระเอกประจำช่อง 3 หรือช่อง 7 กันไป โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าการมีโอกาสได้มาเป็นสมาร์ทบอยในอีเวนต์ก็เหมือนกับเป็นบันไดขั้นแรกที่จะก้าวไปสู่การเป็นดาราได้

หน้าหล่อ หุ่นล่ำ ‘นางกวัก’ เรียกสาวๆ

 

สำหรับการเลือกสมาร์ทบอย ก็ต้องเลือกผู้ที่มีบุคลิกตรงกับสินค้านั้นๆ ถ้าเป็นเครื่องสำอางในกลุ่มวัยรุ่น ก็ต้องเลือกหนุ่มๆ รูปร่างหน้าตาเข้ากับสินค้านั้น ถ้าเป็นเครื่องสำอางราคาสูงสำหรับผู้มีกำลังซื้อสูง ก็จะเลือกหนุ่มๆ อีกบุคลิกหนึ่งที่ไม่ดูวัยรุ่นมากนัก ซึ่งเจ้าของสินค้าเชื่อมั่นว่าจะนำเสนอสินค้าได้ดีด้วย พูดง่ายๆ ว่าจะดูตามความเหมาะสมของงานและตัวสินค้าเป็นหลัก”

สมบัษร บอกว่า ทุกวันนี้หลายๆ อีเวนต์ก็ยังนำสมาร์ทบอยมาใช้ในงานได้ติดลมบน แต่ในเรื่องของการตลาดก็อาจจะเปลี่ยนวิธีการไปตามยุคสมัย

“ถ้าเป็นสินค้ากลุ่มบิวตี้ ก็อย่างที่ทราบกันอยู่แล้วว่าตามเคาน์เตอร์เครื่องสำอางก็ต้องมีพนักงานขายหรือ ‘บีเอ’ อยู่แล้ว แต่สำหรับการจัดอีเวนต์มันก็ยังต้องมีแรงดึงดูดพิเศษ เจ้าของสินค้าเลือกใช้สมาร์ทบอย ซึ่งในอนาคตใครจะนำน้องๆ เหล่านี้ไปพรีเซนต์ในอีเวนต์รูปแบบไหน ก็สามารถครีเอทออกมาได้หมด ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของงาน พูดตรงๆ ว่าอีเวนต์ไหนที่มีสมาร์ทบอยเข้ามาก็สามารถทำให้คนทั่วไปเข้าถึงตัวสินค้าได้ง่ายขึ้น เพราะถ้าคนเดินมาแล้วเห็นโปรดักต์วางอยู่เฉยๆ มันก็ไม่มีผลอะไรหรอก แต่ถ้ามีผู้ชายหล่อล่ำมาทาครีมให้ เทกแคร์ แนะนำรายละเอียดผลิตภัณฑ์ ก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้คนเข้ามาสัมผัสสินค้าได้มากขึ้น”

สมบัษรทิ้งท้ายว่า ทุกอาชีพยังสามารถไปได้ด้วยดีเสมอ ถ้าทำอย่างทุ่มเทก็จะสามารถต่อยอดอาชีพเหล่านั้นไปสู่สิ่งที่ดียิ่งขึ้นได้ เพียงแต่ต้องเคารพและมีความจริงใจกับอาชีพของคุณเท่านั้นเอง

มีกล้ามเป็นทรัพย์

หนุ่มสมาร์ทบอยสไตล์ไทยแท้ บิล-บัณฑิต พรมแบน วัย 27 ปี ผู้จัดการหลักสูตรพยาบาลเวชปฏิบัติทางตา โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ (รังสิต) ซึ่งเคยยึดอาชีพสมาร์ทบอยจนสร้างฐานะได้มั่นคง มาถ่ายทอดประสบการณ์ให้ฟัง ถ้านารีมีรูปเป็นทรัพย์ ก็ต้องบอกว่าหนุ่มๆ วงการนี้ นอกจากหน้าตาดีแล้ว พวกเขาก็มีกล้ามเป็นทรัพย์เช่นกัน

“ผมเริ่มต้นอาชีพสมาร์ทบอย หรือพริตตี้บอย ตั้งแต่อายุ 18 ปี โดยไปแคสติ้งตามบริษัทออร์แกไนเซอร์ ซึ่งเขาก็จะดูหน้าตา น้ำหนัก ส่วนสูง ให้เป็นไปตามเกณฑ์ และยังต้องมีความรู้ทั่วไป ซึ่งงานแรกที่ผมได้คืองานเปิดตัวคอนโด เจ้าของสินค้ามีโจทย์ให้เราไปยืนเชื้อเชิญให้ผู้คนเข้ามาดูโครงการ จากนั้นก็รับอีเวนต์ เช่น มันนี่เอ็กซ์โป เครื่องสำอาง มอเตอร์โชว์ ธนาคาร บ้านและคอนโด ฯลฯ โดยหาเงินส่งตัวเองเรียนจนจบ และตอนนี้ก็ทำงานประจำเป็นหลักแล้ว แต่ก็มีเวลารับงานวันเสาร์-อาทิตย์ หรือช่วงที่ว่างๆ หลังเวลางานได้ด้วยครับ”

หน้าหล่อ หุ่นล่ำ ‘นางกวัก’ เรียกสาวๆ

 

บิลบอกว่า อีเวนต์เยอะที่สุดและทำรายได้ให้เขามากที่สุดก็คือ งานเครื่องสำอางแบรนด์ดังต่างๆ ซึ่งเขาทำมาหมดทุกแบรนด์ พอทำงานมาได้ 4 ปี เมื่อลูกค้ารู้จักและเคยเห็นผลงานแล้ว เขาก็ไม่จำเป็นต้องไปแคสติ้งให้เสียเวลาอีก

“การเป็นสมาร์ทบอยในงานเครื่องสำอางจะแตกต่างจากงานอีเวนต์อื่น ตรงที่เราต้องทำยอดขายให้เครื่องสำอางแบรนด์นั้นด้วย สมมติงานจัด 7 วัน แล้วต้องทำยอดขายให้ได้ 2 ล้านบาท เราก็ต้องพยายามเชียร์ลูกค้าให้ซื้อตามยอดให้ได้ สมาร์ทบอยต้องไม่หล่ออย่างเดียว ต้องขายของเป็นด้วย (ยิ้ม) ซึ่งตรงนี้ก็จะได้ค่าคอมมิชชั่นด้วยนะครับ

นอกจากงานสมาร์ทบอยแล้ว ผมยังต่อยอดไปสู่งานถ่ายโฆษณาภาพนิ่ง งานพิธีกร หรือเอ็มซี ซึ่งเป็นงานที่ใช้ทักษะเฉพาะตัวที่สามารถทำได้ ซึ่งจะนำไปสู่การอัพค่าตัวเพิ่มขึ้น ค่าตัวสูงสุดที่ผมเคยได้คืองานละ 5,000 บาท ถ้าวันหนึ่งวิ่งสัก 2 งาน (งานละ 3-4 ชม.) ก็โอเคแล้วครับ แต่หลังจากทำมาหลายปีก็เริ่มอิ่มตัว ผมจึงหันมาทำงานประจำ แต่ถ้ามีวันว่างก็ยังรับงานอยู่ครับ”

บิลบอกว่า เมื่อก่อนตอนที่วิ่งวันละหลายงาน เขามีรายได้ตกเดือนละ 1.2 แสนบาท ปีหนึ่งเคยทำรายได้ถึง 1 ล้านบาทต้นๆ มาแล้ว

“ปัจจุบันที่ผมมีบ้าน มีรถ และส่งตัวเองเรียนจบมาได้ก็เพราะอาชีพนี้ พูดง่ายๆ ว่าเรามีสิ่งที่คนอายุเท่าเราหลายคนอยากมี แต่อาจจะยังทำไม่ได้ ที่ผมหันมาทำงานประจำ เพราะไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะเข้าวงการบันเทิงเป็นหลัก อยากทำงานประจำมากกว่า แต่ถ้าเจียดเวลาได้ก็จะรับงานครับ เท่าที่ผ่านมาก็เคยถ่ายแบบ เล่นละคร และเป็นพิธีกรบ้าง แต่งานบันเทิงมันกินเวลาเยอะ ถ้าแคสติ้งหรือไปเข้าประกวดนายแบบแล้วไม่เข้ารอบ เราก็จะไม่ได้อะไร สู้ทำงานประจำและรับงานสมาร์ทบอยเสริมไปเรื่อยๆ เพราะมีออร์แกไนเซอร์ป้อนงานให้ตลอด เรียกว่ามีรายได้ตลอดปี ซึ่งผมว่ามันดีกว่า ที่สำคัญเราต้องดูแลรูปร่างหน้าตาของเราให้ดูดีอยู่เสมอ เพราะงานสมาร์ทบอยมันไม่จำกัดอายุ ผมก็คงจะรับงานไปจนออร์แกไนเซอร์ไม่จ้างนั่นแหละครับ” ติดตามได้ที่ IG : billythekidindy

ด้าน ปั๊บ-ปาฏิหาริย์ เพ็งสุข วัย 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยศรีปทุม เวลานี้ทั้งเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย เล่าว่า เริ่มต้นงานสมาร์ทบอยตอนอายุ 18 ปี ตอนเรียนอยู่ที่ต่างจังหวัด พอมีอีเวนต์เปิดตัวสินค้า เช่น มอเตอร์ไซค์ รถยนต์ เขาก็รับงานเรื่อยๆ

หน้าหล่อ หุ่นล่ำ ‘นางกวัก’ เรียกสาวๆ

“ตอนอยู่ต่างจังหวัดผมก็รับงานหลากหลายแนว และพอมาเรียนอยู่กรุงเทพฯ ก็ยิ่งมีงานมากขึ้น สมาร์ทบอยมีหน้าที่เชิญชวนให้ลูกค้าเข้ามาสนใจสินค้าหรืออีเวนต์ในงานนั้นๆ ผมเคยทำมาแล้วทั้งแจกของชำร่วย แจกโบรชัวร์ ฯลฯ ระหว่างนั้นผมก็เข้าประกวดเวทีดัชชี่บอยแอนด์เกิร์ล จนมีงานละครบ้าง แต่ส่วนมากจะเน้นงานด้านพิธีกรมากกว่า ที่เคยทำมาก็คือรายการ Mad It ซึ่งเกี่ยวกับไอทีของช่องอมรินทร์ทีวี”

ปั๊บเล่าย้อนว่า ตอนที่ไปแคสติ้งงานสมาร์ทบอย ก็ถือว่ามีคู่แข่งเยอะ เพราะแต่ละครั้งจะมีหนุ่มๆ กว่า 50 คนที่ไปแคสติ้งเพราะต้องการได้งาน เรียกว่ามีการแข่งขันกันสูงพอสมควร นอกจากการไปแคสติ้งแล้ว เขายังต้องฝึกการพูดด้วย เพราะอีเวนต์บางงานต้องใช้เอ็มซี นี่เองจึงทำให้เขาสามารถต่อยอดพัฒนาตัวเองจนไปสู่งานพิธีกรทีวีได้

“ปัจจุบันผมได้เป็นพิธีกรในรายการ Smart Junior ทางช่องเอ็มคอต แฟมิลี่ด้วย ส่วนงานสมาร์ทบอยที่เคยรับ ตอนนี้ผมก็ผันมารับงานนายแบบแทน ซึ่งอาจจะเป็นงานใหญ่กว่าเดิมและเพิ่มระดับทางอาชีพของเรามากขึ้น อีกอย่างยังเป็นการเปิดโอกาสให้น้องๆ สมาร์ทบอยรุ่นใหม่ได้ก้าวขึ้นมาบ้าง ส่วนผมก็ทำหน้าที่ในตอนนี้ของตัวเองให้ดีที่สุด”

ปั๊บบอกว่า ตอนที่เข้ากรุงเทพฯ และรับงานใหม่ๆ ช่วงนั้นอีเวนต์เยอะจนทำรายได้ให้เดือนละ 1 แสนบาทได้ หากรับวันละ 2-3 งานเดือนนั้นก็เอาอยู่ แต่ถ้าเดือนไหนต้องใช้เวลาไปเรียนแอ็กติ้งด้วย รายได้ก็จะลดลงนิดนึง เนื่องจากเป็นงานฟรีแลนซ์ ซึ่งถ้าหางานได้เยอะเท่าไหร่ก็ยิ่งดีต่อรายได้เท่านั้น

“ตอนนี้แม้ผมจะโฟกัสงานพิธีกรเป็นหลัก แต่ถ้าว่างก็จะรับงานเดินแบบ งานละคร รวมทั้งงานสมาร์ทบอยบ้างประปราย ในอนาคตถ้าได้พัฒนาทักษะอาชีพในวงการบันเทิงเพิ่มขึ้น และสามารถต่อยอดไปสู่สิ่งอื่นๆ เช่น พิธีกรอีเวนต์ ดีเจเปิดแผ่นในงานได้ ผมก็จะทำอย่างเต็มที่เลยครับ” ติดตามได้ที่ IG : baxpub

หน้าหล่อ หุ่นล่ำ ‘นางกวัก’ เรียกสาวๆ

เลือกหนุ่มหล่อที่ยอดฟอลโลว์

ยุคนี้พริตตี้เกิร์ลสาวสวยซึ่งทำหน้าที่นำเสนอสินค้าสวยๆ งามๆ ทำให้งานน่าสนใจ งานกำลังหดและเกือบหมดหน้าที่กันไปโดยถ้วนหน้าแล้ว คุณาคม กลิ่นขจร นักประชาสัมพันธ์ผู้คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงสินค้าสตรีและเครื่องสำอางมานานบอกว่า ถ้าเป็นงานอีเวนต์ในห้างสรรพสินค้าเมื่อยุค 10 กว่าปีก่อน ก็ยังได้เห็นสาวๆ วัยใสๆ ทำหน้าที่พรีเซนต์เครื่องสำอางกันคึกคัก แต่วันนี้งานเชื้อเชิญแขกวีไอพีเข้ามาในงาน หรือการทำหน้าที่แนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ กลายเป็นว่าเจ้าของสินค้าเลือกหนุ่มๆ ล่ำๆ เกือบร้อยทั้งร้อยเป็นไฮไลต์เรียกความคึกคัก

“ลองนึกภาพ ณเดชน์ คูกิมิยะ เป็นดาราเรียกแขกตัวหลัก แล้วถ้ามีพริตตี้สาวสวยเดินตามหลังมา ถ้าตามหลักจิตวิทยาก็ดูน่าหมั่นไส้ (หัวเราะ) แต่ถ้าเลือกสมาร์ทบอยเป็นไม้ประดับก็ยิ่งเพิ่มเสียงกรี๊ดกร๊าดเรียกความคึกคักได้ดังยิ่งขึ้น ซึ่งก็ไม่ใช่แค่เครื่องสำอางนะครับ ตอนนี้หนุ่มๆ เข้ามาแย่งงานเชียร์เบียร์ที่เคยมีแต่สาวๆ สวยๆ ทำ แต่ยุคนี้จะมีงานที่ใช้หนุ่มล่ำสกรีนหน้าอกโชว์ซิกซ์แพ็กเพิ่มความคึกคักให้อีเวนต์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลายๆ งานแล้ว

การเลือกน้องๆ เข้ามาทำงานวงการนี้ นอกจากหน้าตาดี ผิวพรรณต้องดูสะอาดสะอ้านจนน่าเข้ามาพูดคุยด้วย สมาร์ทบอยยุคนี้ไม่ได้แค่หน้าตาหล่อ หลายคนพรีเซนต์สินค้าเป็น แถมเก่งอีกต่างหาก นำเสนอข้อมูลสินค้าช่วยงานพีอาร์ได้ดีมาก เพราะนอกจากค่าจ้างงานละ 2,000-5,000 บาท เจ้าของสินค้ายังมีค่าคอมมิชชั่นให้ ถ้าขายสินค้าในอีเวนต์ได้ตามเป้า นอกจากหน้าตา เรื่องยอดฟอลโลว์ในอินสตาแกรมก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เจ้าของสินค้าเรียกใช้ เด็กคนไหนมียอดฟอลโลว์ในไอจีเกินหมื่น งานจะเยอะมาก เพราะเจ้าของอีเวนต์ได้ประโยชน์จากการโพสต์บนออนไลน์ตรงนี้เยอะ ยิ่งโพสต์กันไปมาก็ยิ่งทำให้คนเห็นสินค้าของเขาเยอะขึ้นด้วย เรียกว่างานตรงนี้กำลังคึกคัก ทั้งสร้างงาน สร้างอาชีพให้กับบรรดาหนุ่มหล่อหน้าตาดี และยังสร้างภาพลักษณ์สินค้าที่ได้ผลดีอีกทางหนึ่งด้วย” คุณาคม กล่าวทิ้งท้าย

ข่าวล่าสุด

ศาลชั้นต้น พิพากษาประหารชีวิต “เชษฐ์ปาดัง” เลขานายกปาดังเบซาร์