ตราตำรวจกระจังหน้ารถ อวดเบ่งมั่วนิ่มผิดกฏหมาย
โดย... นิติพันธุ์ สุขอรุณ
โดย... นิติพันธุ์ สุขอรุณ
ทุกวันนี้ตามท้องถนนมักได้พบเห็นรถยนต์ติดตราสัญลักษณ์หน่วยงานราชการไว้บริเวณกระจังหน้ารถ อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติสำนักงานอัยการสูงสุด ไปจนถึงตราทหารบกและทหารอากาศ เสมือนว่ากำลังบ่งบอกถึงอาชีพการงานที่มีอำนาจ แฝงนัยแสดงความน่าเกรงขามต่อผู้พบเห็น
การจะหาซื้อตราสัญลักษณ์เหล่านี้ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะมีให้เลือกครบทุกหน่วยงาน สามารถหาซื้อได้ตามเว็บไซต์ออนไลน์ทั่วไป ทำมาจากโลหะลงสี ราคาขึ้นอยู่กับขนาดตั้งแต่ 400-900 บาท
ทว่า เมื่อซื้อหาได้ง่ายจึงทำให้มีผู้ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตัวจริงในสังกัดนั้นๆ ซื้อไปติดหน้ารถ เพราะความเชื่อว่าถ้าติดแล้วเวลาขับรถเข้าด่านตรวจ จะรอดพ้นการตรวจค้นไปได้อย่างสบายๆ หรือแม้กระทั่งติดไว้เพื่ออวดเบ่งประกาศศักดา ทั้งที่ความจริงแล้วไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับหน่วยงานราชการทั้งสิ้น
จ.ส.ต.ยุทธพล ศรีสมพงษ์ หรือ “จอนนี่ มือปราบอินดี้” เปิดเผยว่า ผู้ที่แอบอ้างติดตราสัญลักษณ์เครื่องหมายหน่วยงานราชการโดยไม่ได้รับอนุญาตไว้บริเวณกระจังหน้ารถยนต์นั้น ถือว่ามีโทษความผิดเช่นเดียวกับการใส่เครื่องแบบตำรวจ-ทหาร เท่ากับปลอมแปลงหลอกลวงประชาชนต้องโทษจำคุกทันที
แม้ว่าหน่วยงานรัฐจะออกตราสัญลักษณ์จริง โดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้ในการแสดงตัวระหว่างปฏิบัติหน้าที่ราชการเท่านั้น แต่มีประชาชนบางส่วนไปซื้อหาของปลอมมาติดเอง จึงเกิดคำถามว่าติดเพื่อหวังผลอะไร ทั้งที่เจ้าหน้าที่ตัวจริงจะไม่ติดสัญลักษณ์แสดงตัวอย่างเปิดเผยเช่นนี้
เกิดผล แก้วเกิด ทนายความ กล่าวว่า ตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายราชการ พ.ศ. 2482 มาตรา 6 ระบุว่า ห้ามมิให้บุคคลใดใช้เครื่องหมายราชการ เว้นแต่หน่วยงานราชการที่กำหนดเครื่องหมายนั้นจะได้รับการอนุญาต ผู้ใดฝ่าฝืนมีความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี และปรับไม่เกิน 2,000 บาท
ทนายความ กล่าวอีกว่า ควรมีการปรับปรุงแก้กฎหมายให้สอดคล้องกับปัจจุบันที่มีหน่วยงานราชการแยกย่อยออกมาเป็นจำนวนมาก ทั้งที่ในปี 2482 ยังมีกระทรวง ทบวง กรม ไม่กี่หน่วยงานเท่านั้น แต่ทุกวันนี้จะพบเห็นตราสัญลักษณ์รูปแบบต่างๆ เช่น กระทรวงดิจิทัล กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงศึกษาธิการ เหล่านี้ยังไม่ชัดเจนว่าต้องออกตราติดหน้ารถไว้เพื่ออะไร หรือผู้ไม่เกี่ยวข้องแอบอ้างนำไปติดแล้วมีความผิดใดมากน้อยเพียงใดหรือไม่
ทั้งนี้ อยากรณรงค์ให้ความรู้กับประชาชน ว่า หากไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐจริงไม่ควรนำตราสัญลักษณ์ไปแอบอ้าง พฤติกรรมเสียนิสัยหวังผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอะลุ่มอล่วยหลังกระทำความผิดได้ แต่หากถูกตรวจพบจะได้มีโทษหนัก ดังนั้นหน่วยงานรัฐต้องร่วมกันรณรงค์ให้ความรู้ทางกฎหมายเพราะยังมีชาวบ้านอีกเป็นจำนวนมากมีความเชื่อแบบผิดๆ อยู่
“ส่วนตัวพบเห็นผู้แอบอ้างติดตราตำรวจเยอะมาก คนเหล่านั้นคิดว่าติดได้ ส่วนหนึ่งเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ขาดความรู้ทางกฎหมายการรณรงค์ให้ความรู้ด้านกฎหมายกับประชาชน หน่วยงานของรัฐจะเป็นกำลังสำคัญที่ทำให้อุดช่องโหว่คนที่จะฉวยโอกาสอวดเบ่งแอบอ้าง ประกาศศักดาหลอกลวงผู้อื่น” เกิดผล กล่าว
เรืองฤทธิ์ ฆ้องนอก พนักงานบริษัทเอกชนกล่าวว่า อยากให้เพิ่มโทษจับกุมและปรับเงินให้มากกว่านี้ เพราะพบเห็นผู้แอบอ้าง ตัวอย่างเช่น คนข้างบ้านใช้รถยนต์ส่วนบุคคลติดตรากระทรวงการคลัง แต่วันๆ อยู่แต่บ้าน ไม่ได้ไปทำงาน ขณะที่บ้านอีกหลังหนึ่งติดตรา 2 ชิ้น อันหนึ่งบ่งบอกว่าเป็นทหาร ส่วนอีกอันหนึ่งเป็นของกระทรวงมหาดไทย แต่เจ้าของรถมีอายุเพียง 28 ปี มีอาชีพเป็นเซลส์แมน ทางที่ดีควรเลิกผลิตตราเหล่านี้ได้แล้ว เพราะมีไว้เบ่งเพียงอย่างเดียว
ยุทธศักดิ์ ศิริสมบูรณ์ ลูกจ้างประจำหน่วยงานรัฐกล่าวว่า มีพี่ที่นับถือคนหนึ่งเป็นตำรวจยศใหญ่โตพอสมควร แต่พี่เขาไม่ได้ติดตราสัญลักษณ์อะไรที่หน้ารถเลย จึงแกล้งลองขอตราจากเขามาติดไว้เอง แต่ได้คำตอบกลับมาว่า “จะติดไว้ให้ชาวบ้านเขาเกลียดทำไม ถ้าใหญ่โตจริง โดนจับเล็กน้อยเดี๋ยวก็ปล่อยเองไม่ต้องติดเอาไว้ให้เป็นเป้าสายตาหรอก” เท่านี้ก็รู้ความหมายแล้วว่าคนที่เป็นตำรวจตัวจริงเขายังไม่ติดไว้อวดเบ่งแน่นอน


