ฟื้นฟูประชากรม้าน้ำ คืนสมดุลให้ทะเล
ปัจจุบันม้าน้ำเป็นสัตว์ที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจชนิดหนึ่ง มีการนำมาใช้ประโยชน์มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแถบเอเชีย ซึ่งมีความเชื่อว่าม้าน้ำมีคุณสมบัติเป็นยา จึงมักถูกนำมาใช้เป็นองค์ประกอบของยาในการรักษาโรคต่างๆ และเพิ่มสมรรถภาพทางเพศนำมาเป็นเครื่องประดับ พวงกุญแจ และยังมีการนำมาเลี้ยงอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นม้าน้ำที่เติบโตในธรรมชาติ
ปัจจุบันม้าน้ำเป็นสัตว์ที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจชนิดหนึ่ง มีการนำมาใช้ประโยชน์มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแถบเอเชีย ซึ่งมีความเชื่อว่าม้าน้ำมีคุณสมบัติเป็นยา จึงมักถูกนำมาใช้เป็นองค์ประกอบของยาในการรักษาโรคต่างๆ และเพิ่มสมรรถภาพทางเพศนำมาเป็นเครื่องประดับ พวงกุญแจ และยังมีการนำมาเลี้ยงอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นม้าน้ำที่เติบโตในธรรมชาติ
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมกับกรมประมง เปิดเผยข้อมูลว่า ความต้องการม้าน้ำที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดความกังวลใจจากหลายประเทศว่าม้าน้ำอาจสูญพันธุ์ได้ ม้าน้ำจึงถูกนำเข้าสู่อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ หรือไซเตส บัญชี 2 ซึ่งต้องควบคุมหรือจำกัดปริมาณในการค้า เพื่อไม่ให้เกิดผลเสียหายต่อการลดจำนวนประชากรม้าน้ำอย่างรวดเร็ว
ข้อมูลจากกรมประมงพบว่ามีการส่งออกม้าน้ำตั้งแต่ปี 2556 จำนวน 1.2 ตัน ปี 2557 จำนวน 1 ตัน ปี 2558 จำนวน 0.95 ตัน กรมประมงจึงได้มีประกาศ ณ วันที่ 25 ธ.ค. 2558 การงดออกใบอนุญาตส่งออกม้าน้ำเป็นการชั่วคราว เพื่อแก้ไขปัญหาการส่งออกม้าน้ำของประเทศไทย ซึ่งถูกคณะกรรมการบริหารอนุสัญญาไซเตส (CITES) จัดให้การส่งออกม้าน้ำของประเทศไทยอยู่ในระดับห่วงใยเร่งด่วน
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จึงได้ร่วมกับกรมประมงจัดโครงการฟื้นฟูประชากรม้าน้ำในแหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติ เพื่อแสดงเจตนารมณ์ที่จะอนุรักษ์ม้าน้ำตามคำร้องขอของไซเตส ซึ่งจะมีการปล่อยม้าน้ำที่กรมประมงได้เพาะพันธุ์จำนวน 100 ตัว ได้แก่ ม้าน้ำดำ (Hippocampus kuda)
นอกจากนี้ ยังได้แต่งตั้งคณะกรรมการฯ และคณะทำงาน ซึ่งประกอบไปด้วย ผู้เชี่ยวชาญจากสถานศึกษา นักวิทยาศาสตร์ทางทะเล นักวิชาการ และผู้มีความรู้ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรใต้ทะเล จากหน่วยงานจากมหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ นครศรีธรรมราช กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมประมง และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยมีพื้นที่ 2 ประเภท คือ (1) พื้นที่ที่จะเข้าไปดำเนินการในเรื่องของการปล่อยม้าน้ำเพื่อฟื้นฟูประชากร (2) กั้นพื้นที่หรือแนวเขตอย่างเข้มข้น เพื่อดำเนินการตามมาตรการอนุรักษ์ในระบบธรรมชาติ
จากนั้นสำรวจหาแหล่งที่อยู่อาศัยของม้าน้ำในธรรมชาติให้ชัดเจน ดำเนินการเพาะพันธุ์ม้าน้ำ ให้ความรู้แก่ชาวบ้าน ชุมชนชายฝั่งในการอนุรักษ์ม้าน้ำ การป้องกัน และปราบปรามการลักลอบค้าม้าน้ำ โดยคาดหวังให้ประชากรม้าน้ำเพิ่มจำนวนมากขึ้น พร้อมกับเป็นการสร้างจิตสำนึกและการมีส่วนร่วมของชาวบ้าน ชุมชนชายฝั่งในการอนุรักษ์ม้าน้ำ เพื่อให้ทรัพยากรใต้ทะเลอุดมสมบูรณ์ ด้วยสัตว์นานาชนิด หลากหลายชนิดพันธุ์


