อุบลฯ มิสชั่น ตามล่า 6 ด่านสุดหิน
ความมันส์ในอุบลฯ เริ่มขึ้นแล้วกับ 6 ด่านสุดท้าทายที่ว่าด้วยเรื่อง ‘หิน’ ล้วนๆ
โดย...กาญจน์ อายุ
ความมันส์ในอุบลฯ เริ่มขึ้นแล้วกับ 6 ด่านสุดท้าทายที่ว่าด้วยเรื่อง ‘หิน’ ล้วนๆ
ภาคอีสานกือบทั้งหมดถูกปกคลุมด้วยกลุ่มหินโคราช อายุอายุ 65-250 ล้านปี ลักษณะเป็นหินทราย หินทรายแป้ง และหินดินดาน โดยกลุ่มหินโคราชแบ่งออกเป็น 7 หมวดหินจากแก่ไปอ่อน ได้แก่ หมวดหินภูกระดึง วางตัวอยู่ล่างสุดอยู่ที่ ภูกระดึง จ. เลย หมวดหินพระวิหาร อยู่ที่เขาวิหาร อ. กัณทราลักษณ์ จ. ศรีสะเกษ หมวดหินเสาขัว อยู่ในลำห้วยเสาหัว จ. หนองบัวลำภู หมวดหินภูพาน อยู่ที่ภูผาผึ้ง อ. กุฉินารายณ์ จ. กาฬสินธุ์ หมวดหินโคกกรวด อยู่ที่บ้านโคกกรวด จ. นครรราชสีมา หมวดหินมหาสารคาม (มักพบคราบเกลือ) อยู่ที่บ้านเชียงเหียน จ. มหาสารคาม และหมวดหินภูทอก อยู่ที่ภูทอกน้อย จ. บึงกาฬ ส่วน 6 ด่านที่จะกล่าวต่อไปนี้เป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งในหมวดหินภูพานเท่านั้น
ระเบียงเฉลียง ภูจันทร์แดง
จุดเริ่มต้นความลับธรณีซ่อนตัวอยู่ที่ วัดภูจันทร์แดง ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติภูหล่น อ. ศรีเชียงใหม่ นักธรณีวิทยาอธิบายว่า ลักษณะแผ่นดินภาคอีสานเป็นหินทรายสีเทาอมน้ำตาลแดง มีเม็ดกรวดปะปนอยู่ประปราย อยู่ในหมวดหินภูพานอายุประมาณ 110 ล้านปี โดยหินทรายจะถูกกัดกร่อนจากน้ำและลมได้ง่าย ทำให้เกิดเป็นเสาเฉลียง กุมภลักษณ์ และหินรูปร่างแปลกตา
มิสชั่นที่หนึ่ง ตามหาเสาเฉลียงรูปแก้วไวน์
เริ่มต้นเดินเท้าจากจุดที่ตั้งพระอุโบสถ ใช้เวลาเดินไปถึงแก้วไวน์ประมาณ 30 นาที โดยระหว่างทางจะเจอธรณีสัณฐานที่เรียกว่า ระเบียงเฉลียง อธิบายง่ายๆ ว่า ระเบียงเฉลียง คือ เสาเฉลียงหลายต้นที่เชื่อมต่อกัน รูปร่างคล้ายเห็ด คือ มีส่วนหัวเป็นก้อนหินขนาดใหญ่ และมีลำตัวเป็นแท่ง เกิดจากการกัดเซาะของน้ำ จะเห็นรอยริ้วน้ำโบราณบนเนื้อหิน แต่เพราะหินชั้นบนมีความแข็งอ่อนต่างกัน ด้านบนที่แข็งกว่าจึงไม่ถูกกัดกร่อนเท่าชั้นล่าง มีขนาดสูง 8 ม. ยาว 20 ม. ยาวต่อเนื่องสวยงาม ส่วนพื้นบริเวณนั้นเป็นลักษณะหินสมอง เกิดจากการคายความร้อนของหินทำให้หินแตก และลานหินปุ่ม เกิดจากการกัดเซาะของทางน้ำ
ระเบียงเฉลียง ภูจันทร์แดง อยู่ในหมวดหินภูพาน เกิดจากการสะสมตะกอนจากแม่น้ำหลายสายเมื่อ 100-140 ล้านปีก่อน โดยจะเห็นชัดเจนบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูจอง-นายอย จนถึงน้ำตกห้วยหลวง
รอยเกวียนโบราณ ภูอานม้า
ประติมากรรมธรรมชาติภูอานม้า อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติภูหล่น บ้านใหม่ ต. ดงสำโรง อ. ศรีเชียงใหม่ เกิดจากกระบวนการกร่อนโดยกระแสน้ำ พบลานหินปุ่ม และกุมภลักษณ์จำนวนมาก
มิสชั่นที่สอง เดินตามทางเกวียน
ทางขึ้นภูอานม้ามีทางเกวียนโบราณยาวไปถึงแม่น้ำโขง เป็นรอยลึกเข้าไปในเนื้อหิน ซึ่งนักธรณีวิทยาเห็นชอบว่าน่าจะเป็นจริงเพราะมีความเป็นไปได้ที่ล้อเกวียนสมัยก่อนจะครอบล้อด้วยเหล็กเพื่อความทนทาน และเมื่อลากเกวียนไปทางเดิมนานๆ ทำให้หินทรายซึกกร่อนไปทางสภาพ จึงเชื่อได้ว่า ร่องรอยดังกล่าวเป็นเส้นทางค้าขายโบราณอย่างที่ชาวบ้านกล่าวขานกันจริง
ส่วนชื่อของภูอานม้า มาจากก้อนหินที่มีลักษณะคล้ายอานม้าตั้งเด่นอยู่บนยอดภู ซึ่งเส้นทางนี้ถูกพัฒนาให้เป็นเส้นทางปั่นจักรยานเสือภูเขาที่จะมีการแข่งขันทุกปี
โขดหินกลางแม่น้ำมูล แก่งตะนะ
แก่งตะนะ สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของคนโขงเจียม โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อน ชาวบ้านมักมาเล่นน้ำและเป็นที่เล่นสงกรานต์ประจำตำบลบ้านด่าน ส่วนหน้าน้ำมาก คนละแวกนั้นจะถ่อเรือหาปลาหาไว้กินในครัวเรือน
มิสชั่นที่สาม ตามหารอยเสือโดด
แก่งตะนะอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ อ. โขงเจียม ทางธรณีวิทยาจะเรียกว่าแหล่งธรณีสัณฐานที่มีลักษณะพิเศษ คือ เป็นโขดหินทรายที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำ เกิดขึ้นกลางแม่น้ำมูล และพบกุมภลักษณ์ ที่เกิดจากกระแสน้ำวนพัดพาก้อนกรวดมาเป็นตัวกร่อนหินจนทำให้เป็นหลุม ที่มีชื่อคือ รอยเสือโดด เป็นกุมภลักษณ์ขนาดเล็กเรียงตัวกันคล้ายรอยตีนเสือ นอกจากนี้ยังพบทั่วบริเวณขนาดตั้งแต่ 5-60 ซม.
มหัศจรรย์ผาหินทราย ผาแต้ม
อุทยานแห่งชาติผาแต้มมีจุดท่องเที่ยวหลากหลายเช่นเดียวกับธรณีสัณฐานที่มีให้ค้นหาหลายจุด เริ่มต้นที่ เสาเฉลียงยักษ์ ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 50 กม.
มิสชั่นที่สี่ ตามหารอยน้ำโบราณ
เสาเฉลียงผาแต้ม เป็นเสาเฉลียงที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ขนาดสูง 20 ม. กว้าง 10 ม. เกิดจากกระบวนการกร่อนและการผุพังอยู่กับที่ พบทางน้ำโบราณบนพื้นหินเป็นริ้วพาดผ่านชัดเจน และลักษณะหินเฉลียงออกสีน้ำตาลอมส้มคล้ายสีสนิม ซึ่งอธิบายได้ว่า ทางน้ำได้ไหลผ่านหินและกัดกร่อนเป็นระยะเวลาร้อยๆ ปี ทว่าชั้นหินด้านบนมีส่วนผสมของเหล็ก ทำให้แข็งแกร่งกว่าหินด้านล่าง และใกล้เคียงกันยังมีลานหินแตก จุดชมวิวเมืองโขงเจียมได้ทั้งเมือง
จากนั้นขับรถต่อไปที่ น้ำตกสร้อยสวรรค์ สู่ มิสชั่นที่ห้า น้ำตกในกุมภลักษณ์
น้ำตกสร้อยสวรรค์ถือว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดในอุบลราชธานี ด้วยความสวยงามของสายน้ำที่ตกลงมาจากหน้าผาสูง 30 ม. และความแปลกตาของกุมภลักษณ์ขนาด 10-120 ซม. ที่ดูเหมือนกับมีบ่อน้ำขนาดจิ๋วละลานตาเต็มลานหิน ทางธรณีวิทยาเรียกพื้นที่บริเวณนี้ว่า ลานหินทรายสีเทาและสีเทาอมแดงปนกรวดควอตซ์ มีหน้าผาหินทรายที่แสดงการวางตัวของชั้นหินชัดเจน ซึ่งอยู่ในหมวดหินภูพาน อายุประมาณ 110 ล้านปี
และจุดสุดท้าย ผาแต้ม หน้าผาสูงชันริมแม่น้ำโขงที่พบภาพเขียนสีโบราณ 3,000 ปี มากกว่า 300 ภาพ โดยหน้าผาเกิดจากการยกตัวของที่ราบสูงโคราชหลังจากการสะสมตัวเกิดเป็นหินแล้ว
มิสชั่นที่หก ฝ่ามือมนุษย์โบราณ
เมื่อเกิดการยกตัวจึงทำให้เกิดรอยแตกเป็นทางให้แม่น้ำไหลผ่าน โดยในช่วงแรกมีการกัดเซาะในแนวดิ่งมากกว่าแนวราบ และเมื่อเวลาผ่านไปหลายล้านปี รอยแตกนั้นกว้างขึ้นและกลายเป็นแม่น้ำโขงในปัจจุบัน จากนั้นเกิดเป็นการกัดเซาะในแนวราบมากกว่าแนวดิ่ง จึงทำให้เกิดการพังทลายกลายเป็นหน้าผา ส่วนทางโบราณคดีได้ค้นพบภาพเขียนสีโบราณมากกว่า 300 ภาพตามหน้าผา อันเป็นที่มาของชื่อ ผาแต้ม เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตริมแม่น้ำโขงโดยอธิบายได้จากภาพปลาบึก เต่าน้ำจืด ลายคลื่นน้ำ และฝ่ามือมนุษย์โบราณ ซึ่งไฮไลท์อยู่ที่ภาพเขียนสีชุดที่สอง ที่มีมากที่สุด ยาวที่สุด ชัดที่สุด
รวมแล้วในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติผาแต้ม อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ และอำเภอศรีเชียงใหม่ พบแหล่งธรณีวิทยาทั้งหมด 38 แห่ง โดยกรมทรัพยากรธรณีกำลังทำเอกสารยื่นต่อ ครม. เพื่อเข้าการพิจารณาให้เป็นอุทยานธรณี หรือ Geo Park หากสำเร็จ อุบลราชธานีเกือบทั้งจังหวัดจะกลายเป็นพื้นที่ที่มีคุณค่าทางธรณีวิทยาอย่างเป็นทางการ ซึ่งสามารถพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวิชาการดึงดูดนักท่องเที่ยวภายใต้การดูแลอนุรักษ์ และจุดประกายพื้นที่อื่นทั่วไทยให้เห็นคุณค่าให้มากกว่าเป็นแค่แหล่งท่องเที่ยว


