สิ้นสุดเสียที ทายาทอสูร
จากบทประพันธ์อมตะ (ตรี อภิรุม) สู่ละครโทรทัศน์แนวสยองขวัญ-แฟนตาซี รวมครั้งล่าสุดก็ 3 ครั้งพอดิบพอดี
โดย...แจนยูอารี
จากบทประพันธ์อมตะ (ตรี อภิรุม) สู่ละครโทรทัศน์แนวสยองขวัญ-แฟนตาซี รวมครั้งล่าสุดก็ 3 ครั้งพอดิบพอดี แต่ละครั้งก็ยังเค้าโครงเรื่องเดิมไม่ตกหล่น นั่นคือการสืบทอดทายาทปีศาจตะขาบ สำหรับเวอร์ชั่นที่เพิ่งจบไปนั้นดำเนินการสร้างโดยค่ายดีวันทีวีได้ปลุก “คุณยายวรนาฏ” ให้ฟื้นกลับคืนชีพอีกครา เพื่อเป็นความบันเทิงหลังข่าวที่มิตรรัก “ทายาทอสูร” เกิดอาการขวัญผวาและขยาดตะขาบอย่างไม่ลดละ
เวอร์ชั่นนี้ “พรชิตา ณ สงขลา” รับบทคุณยายวรนาฏ จัดเต็มจนหลายคนมองเห็นถึงความ (เล่น) ใหญ่ในการแสดง ทั้งน้ำเสียง อารมณ์ และท่าทางความโกรธขึ้งหลังเธอถูกวิญญาณ “เจ้าโขน” (รับบทโดย อรุชา โตสวัสดิ์) ช่างฝีมือสมัยเก่าเข้าสิงร่าง ก่อนจะออกอาละวาดตามล่าเครือญาติที่มีส่วนบ่อนทำลายชีวิตเจ้าโขนครั้งอดีตกาล
ขณะที่พิธีสืบทอดทายาทก็กลายเป็นเพียงองค์ประกอบหนึ่ง หรือเป็นแค่เครื่องมือที่นำพาไปหาการล้างแค้นเท่านั้น หาใช่หัวใจสำคัญของเรื่องที่ปูไว้ผ่านคำประกาศก้องโดยอสูร เพราะที่สุดแล้วเนื้อหาก็มุ่งนำเสนอการจองเวรและการเข่นฆ่าเป็นแกนหลัก แม้จะคลี่คลายในตอนท้ายว่า “ความรักและการอภัย” คือเกราะกำบังที่สามารถชนะอสูรร้ายได้ แต่การขยายบทและตัวละครแวดล้อมอื่นๆ เช่น “หนานจรวย” “เดช” (ลูกศิษย์หนานจรวย) รวมถึงวิญญาณเดนตาย “ผีวรรณา” “ผีพรรณทิพย์” “ผีนิลุบล” “ผีซินแสมังกร” “ผีเซียนเต้า” ฯลฯ กลับเป็นความยืดยาดและความเวิ่นเว้อของละครไม่มากก็น้อย
การพยายามขยายภาคอดีตนับว่าเป็นความตั้งใจดีของคนเขียนบท (ดาวฤกษ์) ที่จะทำให้ผู้ชมเห็นที่ไปที่มาว่าทำไม และเพราะเหตุใดอสูรร้ายอย่างเจ้าโขนจึงไม่หยุดทำลายเครือญาติพญาเชลียงที่ทำให้มันถึงแก่ความตาย และพร้อมสิงสถิตอยู่ในร่างคุณยายวรนาฏผู้ขอจองล้างจองผลาญทุกภพชาติ แต่เมื่อเข้าสู่โหมดนี้ทีไรก็กลายเป็นความยืดยาดและความเวิ่นเว้อ กระทั่งจวบจนตอนอวสานของละคร
ความกระชับอย่างเข้าใจง่ายเป็นปัญหาของละครไทย ซึ่งก็ไม่ใช่แค่ละครเรื่องนี้ ยิ่งละครแนวผี แนววลี้ลับ แนวข้ามภพข้ามชาติ หรือแนวสืบสวนสอบสวน หลายๆ เรื่องก็แทบไม่ต่างกัน และไม่มีความจำเป็นหรอกที่จะนำเสนอแบบหลอกๆ ด้วยสเปเชียลเอฟเฟกต์ หรือคอมพิวเตอร์กราฟฟิก (ตะขาบไต่ยั้วเยี้ย) จนน่าเวียนหัว แค่บรรยากาศหลอนๆ กับมุมกล้องเจ๋งๆ ก็ช่วยได้และเอาอยู่
ทำให้ผู้เขียนนึกถึงซีรี่ส์แนวไล่ผี Outcast ที่กำลังออนแอร์ ณ เวลานี้ บางฉากแทบไม่ต้องพึ่งสเปเชียลเอฟเฟกต์ หรือคอมพิวเตอร์กราฟฟิก แค่บรรยากาศหลอนๆ กับมุมกล้องเจ๋งๆ โทนสีหม่นๆ ก็ทำเอาชวนสยองติดตามแล้ว ที่สำคัญ แต่ละตัวละครก็ค่อยๆ เผยถึงปมหลังของตัวเองออกมาโดยผู้เขียนไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจในความยืดยาดและความเวิ่นเว้อสักนิด
ที่ยกตัวอย่างนี่ไม่ใช่ว่าเป็นซีรี่ส์ฝรั่ง แต่เพราะเป็นความบันเทิงที่สนุก (แม้จะโหดบ้างบางฉากก็เถอะ) และอยากเห็นละครไทยเจริญรอยตาม อาจไม่ได้เหมือนเป๊ะ (แบบคายตะขาบสืบทายาท) แค่บางเสี้ยวก็น่าจะช่วยยกระดับละครไทยไม่ให้ย่ำอยู่กับที่ โดยเฉพาะค่ายละครที่คิดนำบทประพันธ์อมตะมาบิด หรือนำละครเก่ามาทำซ้ำ


