posttoday

ดาวกึ่งบริวารของโลก

26 มิถุนายน 2559

ทุกคนรู้ว่าดวงจันทร์เป็นดาวบริวารตามธรรมชาติเพียงดวงเดียวของโลก

โดย...วรเชษฐ์ บุญปลอด

ทุกคนรู้ว่าดวงจันทร์เป็นดาวบริวารตามธรรมชาติเพียงดวงเดียวของโลก โคจรรอบโลกด้วยคาบประมาณหนึ่งเดือน นักดาราศาสตร์ค้นพบว่าดาวเคราะห์น้อยบางดวงมีวงโคจรรอบดวงอาทิตย์อยู่ในแนวใกล้เคียงกับวงโคจรของโลก พร้อมกับมีตำแหน่งอยู่ใกล้โลกจนสามารถกล่าวได้ว่าเป็นดาวกึ่งบริวารของโลก

ดาวเคราะห์น้อยเป็นวัตถุหินที่โคจรรอบดวงอาทิตย์ มีอยู่เป็นจำนวนมากในระบบสุริยะ นักดาราศาสตร์ค้นพบดาวเคราะห์น้อยหลายดวงในแต่ละปี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากมีโครงการสำรวจท้องฟ้าหลายโครงการที่มีเป้าหมายค้นหาวัตถุที่อาจเป็นอันตรายต่อโลก พูดง่ายๆ ว่าอาจชนโลกได้ในอนาคต ทำให้สามารถค้นพบดาวเคราะห์น้อยขนาดเล็กที่มีความสว่างน้อยเพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกปี

วันที่ 27 เม.ย. 2559 กล้องโทรทรรศน์แพน-สตารรส์ ซึ่งควบคุมโดยสถาบันดาราศาสตร์ของมหาวิทยาลัยฮาวาย ซึ่งใช้ถ่ายภาพท้องฟ้าเพื่อค้นหาวัตถุใกล้โลก นำไปสู่การค้นพบดาวเคราะห์น้อยและดาวหางจำนวนมากตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา แพน-สตารรส์ค้นพบดาวเคราะห์น้อยดวงใหม่ ได้ชื่อว่า 2016 HO3 ซึ่งชื่อนี้บ่งบอกปีคริสต์ศักราชและช่วงเวลาที่ค้นพบ ดาวเคราะห์น้อย 2016 HO3 มีความพิเศษตรงที่สามารถจัดเป็นดาวกึ่งบริวารของโลก เนื่องจากโคจรอยู่ใกล้โลกต่อเนื่องเป็นเวลานาน

ขณะที่ 2016 HO3 โคจรรอบดวงอาทิตย์ด้วยคาบใกล้เคียงกับโลก มันก็ดูเหมือนโคจรรอบโลกไปพร้อมๆ กัน แต่ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้อยู่ไกลเกินกว่าจะเรียกได้ว่าเป็นดาวบริวารของโลก ในรอบปีหนึ่งๆ ช่วงเวลาครึ่งหนึ่งมันจะอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากกว่าโลกเล็กน้อย และนำหน้าโลก ช่วงเวลาอีกครึ่งหนึ่งมันจะอยู่ไกลดวงอาทิตย์มากกว่าโลกเล็กน้อย และตามหลังโลก หากเราตรึงให้ดวงอาทิตย์กับโลกเป็นกรอบอ้างอิงที่อยู่นิ่ง มันจึงดูเหมือนว่าดาวเคราะห์น้อยดวงนี้โคจรรอบโลก

2016 HO3 ไม่ใช่ดาวเคราะห์น้อยดวงแรกที่พบว่ามีแนวการเคลื่อนที่ในอวกาศในลักษณะดังกล่าว ก่อนหน้านี้มีการค้นพบดาวเคราะห์น้อยอย่าง 2003 YN107 ที่มีรูปแบบการโคจรในทำนองเดียวกัน แต่ปัจจุบัน แรงโน้มถ่วงรบกวนจากวัตถุต่างๆ ซึ่งทำให้วงโคจรไม่เสถียร ได้ทำให้ 2003 YN107 ออกจากการเป็นดาวกึ่งบริวารไปแล้ว ส่วนกรณีของ 2016 HO3 นักดาราศาสตร์คำนวณพบว่าดาวเคราะห์น้อยดวงนี้เป็นดาวกึ่งบริวารของโลกมานานเกือบร้อยปีมาแล้ว และจะยังคงเป็นอยู่ต่อไปอีกหลายศตวรรษ นับได้ว่าเป็นดาวกึ่งบริวารของโลกที่มีเสถียรภาพสูงที่สุดเท่าที่เคยพบมา

ขณะนี้ยังไม่มีการศึกษาในรายละเอียดด้านขนาดของ 2016 HO3 แต่จากความสว่าง ระยะห่าง และอัตราการสะท้อนแสงบนพื้นผิวของวัตถุประเภทดาวเคราะห์น้อย นักดาราศาสตร์คาดไว้ในเบื้องต้นว่ามันน่าจะมีขนาดใหญ่กว่า 40 เมตร แต่ไม่เกิน 100 เมตร

ผลการศึกษาและคำนวณวงโคจรของ 2016 HO3 ย้อนไปในอดีตและล่วงหน้าไปในอนาคต โดยคิดแรงโน้มถ่วงรบกวนจากวัตถุมวลมากต่างๆ ในระบบสุริยะ แสดงว่าระหว่างที่ 2016 HO3 โคจรรอบดวงอาทิตย์ มันจะอยู่ห่างโลกไม่เกิน 100 เท่าของระยะทางจากโลกถึงดวงจันทร์ และจะไม่เข้าใกล้โลกน้อยกว่าระยะทาง 38 เท่าของระยะโลกถึงดวงจันทร์ (ระยะห่างเฉลี่ยของดวงจันทร์โดยประมาณคือ 384,400 กิโลเมตร) แสดงว่าไม่มีโอกาสที่ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้จะชนโลก

ไม่เพียงแค่โลก มีการค้นพบดาวกึ่งบริวารของดาวศุกร์เมื่อปี 2547 จากผลงานวิจัยของทีมนักดาราศาสตร์ในฟินแลนด์ พวกเขารายงานว่าดาวเคราะห์น้อย 2002 VE68 ขนาดประมาณ 210-470 เมตร ซึ่งค้นพบโดยหอดูดาวโลเวลล์ในสหรัฐอเมริกาเมื่อ 2 ปี ก่อนหน้านั้น มีวงโคจรรอบดวงอาทิตย์ด้วยคาบเท่ากับดาวศุกร์ และดูเหมือนโคจรรอบดาวศุกร์หากตรึงให้ดวงอาทิตย์และดาวศุกร์เป็นกรอบอ้างอิงที่อยู่นิ่ง งานวิจัยยังแสดงว่ามันอาจโคจรในลักษณะนี้มานานประมาณ 7,000 ปี มาแล้ว และจะออกจากการเป็นดาวกึ่งบริวารของดาวศุกร์ในอีกราว 500 ปี

ดาวเคราะห์น้อย 2007 RW10 ขนาดประมาณ 250 กิโลเมตร ก็จัดได้ว่าเป็นดาวกึ่งบริวารของดาวเนปจูน มีคาบการโคจรรอบดวงอาทิตย์เท่ากับดาวเนปจูน งานวิจัยของนักดาราศาสตร์ในสเปนเมื่อ ปี 2555 แสดงว่า 2007 RW10 เป็นดาวกึ่งบริวารของเนปจูนมานาน 12,500 ปี และคาดว่าจะเป็นต่อไปอีกราว 12,500 ปี

ดาวกึ่งบริวารของโลก (หรือของดาวเคราะห์ดวงอื่น) ไม่ถือว่าเป็นดาวบริวาร เพราะแรงโน้มถ่วงของดวงอาทิตย์ยังคงมีอิทธิพลเหนือแรงโน้มถ่วงของโลก (หรือของดาวเคราะห์ดวงอื่น) หากมีคนถามว่าโลกมีดาวบริวารกี่ดวง คำตอบก็ยังคงเป็นหนึ่งดวง

ปรากฏการณ์ท้องฟ้า (26 มิ.ย.-3 ก.ค.)

ดาวอังคาร ดาวพฤหัสบดี และดาวเสาร์ อยู่บนท้องฟ้าเวลาหัวค่ำ ดาวพฤหัสบดีอยู่ในกลุ่มดาวสิงโต เริ่มปรากฏให้เห็นเมื่อท้องฟ้าเริ่มมืดลงหลังดวงอาทิตย์ตก โดยอยู่สูงบนท้องฟ้าทิศตะวันตก หลังจากนั้นเคลื่อนต่ำลง ตกลับขอบฟ้าในเวลาประมาณ 5 ทุ่ม

ดาวอังคารอยู่ในกลุ่มดาวคันชั่ง เวลาหัวค่ำอยู่สูงทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ดาวเสาร์อยู่ในกลุ่มดาวคนแบกงู ซึ่งอยู่ติดกับกลุ่มดาวแมงป่อง มีตำแหน่งอยู่ห่างดาวอังคารเป็นมุมประมาณ 20 องศา ดาวอังคารจะขึ้นไปถึงจุดสูงสุดบนท้องฟ้าด้านทิศใต้ในเวลา 3 ทุ่ม แล้วไปตกลับขอบฟ้าในเวลาประมาณตี 2 ครึ่ง ดาวเสาร์ผ่านจุดสูงสุดบนท้องฟ้าในเวลา 4 ทุ่มครึ่ง ตกลับขอบฟ้าในเวลาตี 4

สัปดาห์นี้เป็นข้างแรม มองเห็นดวงจันทร์อยู่บนท้องฟ้าเวลาเช้ามืดของทุกวัน ดวงจันทร์สว่างครึ่งดวงในวันที่ 28 มิ.ย. หลังจากนั้นกลายเป็นเสี้ยว เช้ามืดวันที่ 2 ก.ค.หากไม่มีเมฆบัง เมื่อมองไปเหนือขอบฟ้าทิศตะวันออก จะเห็นดวงจันทร์เสี้ยวอยู่ใกล้ดาวอัลเดบารันหรือดาวตาวัวในกลุ่มดาววัว ห่างกันด้วยระยะห่างเชิงมุม 3 องศา

เช้ามืดวันเสาร์ที่ 2 ก.ค. 2559 ขณะท้องฟ้าสว่างขึ้นมาบ้างแล้ว สถานีอวกาศนานาชาติจะโคจรผ่านเหนือประเทศไทย มองเห็นเป็นดาวสว่างเคลื่อนที่บนท้องฟ้า กรุงเทพฯ และบริเวณใกล้เคียงเริ่มเห็นเมื่อสถานีอวกาศออกจากเงาโลกขณะอยู่ใกล้ขอบฟ้าทิศตะวันตกเฉียงใต้ในเวลา 05.13 น. จากนั้นเคลื่อนสูงขึ้นในแนวเกือบตั้งฉากกับขอบฟ้า ผ่านเหนือศีรษะในเวลา 05.16 น. แล้วเคลื่อนต่ำลง ไปสิ้นสุดใกล้ขอบฟ้าทิศตะวันออกเฉียงเหนือในเวลา 05.19 น. (เวลาอาจคลาดเคลื่อนได้เล็กน้อย)

ข่าวล่าสุด

คนละครึ่งพลัส หนุน “พาสต้า บ่? - มีลาภ อุบลฯ" ยอดขายพุ่ง แชมป์ร้านต่างจังหวัดขายดี