100 ปี เกรกอรี เป็ก
ถ้าเขา ยังมีชีวิตอยู่ “เกรกอรี เป็ก” จะได้เฉลิมฉลองอายุ 100 ปีไปเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา
โดย...เพ็ญแข สร้อยทอง
ถ้าเขา ยังมีชีวิตอยู่ “เกรกอรี เป็ก” จะได้เฉลิมฉลองอายุ 100 ปีไปเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา แต่ในความจริงนักแสดงชายผู้ยิ่งใหญ่นี้จากโลกไปเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2003 หรือเมื่อ 13 ปีที่แล้วขณะอายุได้ 87 ปี
วันนี้หลานชายของเขาคือ อีธาน เป็ก ก็มาโลดแล่นโดดเด่นในเส้นทางสายเดียวกันกับผู้เป็นปู่ โดยมีหนังเรื่องใหม่ The Curse of Sleeping Beauty เพิ่งออกฉาย และคาดหวังจะได้บท แบตแมน ในอนาคต ก่อนหน้านี้ อีธาน เคยรู้สึกว่า การเกิดมาใต้ร่มเงาของ เกรเกอรี เป็ก นั้นเป็นภาระอันยิ่งใหญ่ แต่เมื่อต่อสู้ทำงานจนสร้างเส้นทางของตัวเองได้ ความคิดของเขาก็เปลี่ยน
“ผมรู้สึกเป็นเกียรติ โชคดีที่ผมได้เกิดในร่างนี้ ในเมืองนี้ และในชีวิตนี้”
นอกจากเป็นเกียรติของครอบครัว นักแสดงผู้นี้ยังได้รับเกียรติ ได้รับการยอมรับ และเป็นที่รักของผู้คนทั่วโลก เพราะ เกรกอรี เป็ก คือ หนึ่งในนักแสดงที่มีชื่อเสียงและเป็น “ไอคอน” ระดับโลก
ชื่อเต็มๆ ของเขาคือ เอลเดรด เกรกอรี เป็ก เกิดเมื่อปี 1916 และเริ่มต้นเข้าสู่วงการละครเวทีในช่วงทศวรรษ 1940 เพราะอาการเจ็บหลังทำให้เขาหันเหมาสู่โลกของแผ่นฟิล์ม ก่อนจะประสบความสำเร็จจากหนังเรื่องแรก Days of Glory (1944) นักแสดงหนุ่มมีชีวิตอย่างยากลำบาก ไม่มีเงิน และบางครั้งต้องนอนข้างถนนด้วยซ้ำ ไม่กี่ปีต่อมาเขาถูกเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์หลายครั้ง ก่อนจะคว้ารางวัลเกียรติยศนั้นไปครองได้สำเร็จด้วยบท แอตติคัส ฟินช์ ใน To Kill a Mockingbird (1962)
ความเป็น แอตติคัส ฟินช์ ทนายความที่มีศีลธรรมแก่กล้านั้นยังแจ่มชัดในความทรงจำของคนดูหนัง ผู้สันทัดกรณีและคนใกล้ชิดเขาบอกว่า บทบาทนี้สะท้อนแสดงความเป็น เกรเกอรี เป็ก ในชีวิตจริง นอกจากเป็นไอคอนในเรื่องของ “สไตล์” แล้ว ด้วยบทบาทที่เขาเลือกรับทำให้ตัวเขาเป็นสัญลักษณ์ของ “ฮีโร่ผู้เปี่ยมคุณธรรมและศีลธรรม” ทั้งยังได้รับสมญาว่าเป็น ลินคอล์น แห่งเบเวอร์ลี ฮิลล์
เกรกอรี เป็ก ยังโดดเด่นในหนังอีกหลายเรื่องที่เขาเลือกรับอย่างเช่น Days of Glory (1943) หนังเรื่องแรกที่เขาแสดงตอนอายุ 27 ปี นักแสดงหนุ่มหล่อได้เปล่งประกายในบทของผู้นำกองโจรโซเวียตซึ่งต่อต้านนาซีที่บุกเข้ามาในรัสเซียช่วงปี 1941
ในผลงานของตำนานผู้กำกับ อัลเฟรด ฮิตช์ค็อก Spellbound (1945) หนังเรื่องที่ 4 ของเขาทำให้ เกรกอรี กลายของดาราฮอลลีวู้ดระดับ “เอ-ลิสต์” โดยมี อิงกริด เบิร์กแมน มาแสดงคู่ ในบทผู้อำนวยการโรงพยาบาลจิตเวชที่มีปัญหาทางจิตของตัวเองทำให้คนดูลืมไม่ลง และ 2 ปีต่อมาเขาได้กลับมาทำงานร่วมกับ อัลเฟรด ฮิตช์ค็อก อีกครั้งในฟิล์มนัวร์ เรื่อง The Paradine Case เล่าเรื่องราวของทนายความซึ่งหลงใหลลูกค้าลึกลับ เป็นบทที่เขาได้แสดงออกทั้งความสง่างาม และมุมมืดดำออกมาพร้อมกัน
คนดูจำนวนมากติดอกติดใจบทบาทของ เกรกอรี เป็ก ในหนังเวสต์เทิร์น ซึ่งรวมถึง Yellow Sky (1948) ที่ทำให้เสน่ห์แบบ “ฮีโร่” ของเขาเปล่งประกายแสง เมื่อสวมใส่เครื่องแบบ ผู้คนก็ตะลึงในความงามสง่า เช่น ในบทนายทหารอังกฤษจาก Captain Horatio Hornblower (1951) หรือชุดนักบินใน Twelve O’Clock High (1949) เป็นต้น
ส่วนสาวใหญ่สาวน้อยทั่วโลกย่อมหลุดไม่พ้นบ่วงเสน่ห์ของเขาในหนังโรแมนติกคอมเมดี้อย่าง Roman Holiday (1953) ซึ่งทำให้ เกรกอรี เป็ก กับ ออเดรย์ เฮปเบิร์น กลายเป็นคู่ในฝันอย่างอยากที่จะเทียบได้ เกรกอรี เป็ก ยังเป็นพ่อผู้แสนรักและอบอุ่นใน The Yearling (1946)
กว่าครึ่งค่อนชีวิต เกรกอรี เป็ก อุทิศให้กับงานการแสดงที่รัก เขามีงานหนังราว 60 เรื่อง (งานแสดงชิ้นสุดท้ายของเขาคือ การปรากฏตัวในทีวีมินิซีรี่ส์ เรื่อง Moby Dick ขณะเขาอายุ 82 ปี) นอกจากรางวัลออสการ์ เขายังได้รับรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย นอกจอ เกรกอรี เป็ก ได้รับเกียรติให้ทำหน้าที่ประธานของสถาบันศิลปะและวิชาการทางภาพยนตร์หรืออะคาเดมีซึ่งเป็นผู้จัดและมอบรางวัลออสการ์ เขายังเป็นผู้สนับสนุนแนวความคิดเสรีนิยม
ในความคิดส่วนตัว เกรเกอรี เป็ก เห็นว่า งานของเขาเป็นมากกว่าการแสดง เพราะมันคือการได้สื่อสารกับผู้คน “ได้สัมผัสอารมณ์ของพวกเขาและมอบบางอย่างให้พวกเขาเมื่อเดินออกจากโรงไป เป็นบางสิ่งบางอย่างที่จะถูกจดจำในรูปของประสบการณ์ของมนุษย์ นี่คือส่วนที่ดีที่สุด ซึ่งทำให้การแสดงกลายเป็นรอง หรือไม่มีแม้กระทั่งความสำคัญ”
แม้ว่าจะเขาจะจากโลกนี้ไปนานแล้ว งานของ เกรกอรี เป็ก ยังคงอยู่ ยังคงได้สื่อสารกับผู้คน ได้สัมผัสอารมณ์ของผู้คน และทิ้งบางอย่างไว้ให้คนดู เป็นบางสิ่งบางอย่างซึ่งจะถูกจดจำในรูปของประสบการณ์... ตราบจนถึงวันนี้


