คันหูทำอย่างไรไม่ให้เสียลุค
โดย...กรกฎ
โดย...กรกฎ
อาการคันหูเป็นอาการที่พบได้บ่อยและเป็นที่น่ารำคาญแก่ผู้ที่เป็นมาก แล้วอาการคันไม่ได้เลือกเวลาเกิดด้วย ถ้าคันขณะอยู่บ้านก็พอหาอะไรมาแคะหู เช่น ไม้พันสำลี หรือ คัตตอนบัตแก้ขัดไปได้ แต่ถ้าคันนอกบ้านในที่มีคนเยอะคงจะหาอุปกรณ์อะไรช่วยไม่ได้ยกเสียแต่ใช้นิ้วแคะขยี้รูหูให้หายคันไปก่อน ซึ่งก็คงเป็นภาพที่ทำให้เสียบุคลิกได้
รศ.นพ.ปารยะ อาศนะเสน ภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า อาการคันหูมาจากหลายสาเหตุ เช่น การอักเสบเรื้อรังของหูชั้นนอกซึ่งพบได้บ่อยที่สุด มักเกิดจากผู้ป่วยใช้ไม้พันสำลีปั่นช่องหูชั้นนอกเป็นประจำ โดยเฉพาะหลังอาบน้ำแล้วน้ำเข้าหู ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังของผิวหนังของหูชั้นนอก ทำให้เกิดอาการคันหูเรื้อรัง หรือเป็นๆ หายๆ การติดเชื้อราของช่องหูชั้นนอก ทำให้มีอาการคันหูได้ หรือหูชั้นกลางอักเสบแล้วเยื่อบุแก้วหูทะลุ มีหนองไหลออกมา ทำให้เกิดการอักเสบของหูชั้นนอกตามมาซึ่งทำให้เกิดอาการคันหูได้
"นอกจากนี้โรคทางกายบางชนิดที่ทำให้มีอาการคันของหูชั้นนอกได้ เช่น โรคตับ (โรคตับอักเสบ) เบาหวาน โรคเลือด มะเร็ง มะเร็งต่อมน้ำเหลือง โรคไตวายเรื้อรัง รวมถึงโรคของผิวหนังเองที่มีการอักเสบของช่องหูชั้นนอก หรือใบหูร่วมด้วย ได้แก่ โรคสะเก็ดเงิน โรคต่อมไขมันอักเสบ โรคผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้"
วิธีการรักษามีหลายวิธี ได้แก่ 1.รับประทานยาแก้แพ้ (Antihistamine) ให้หายคัน 2.อาจใช้ยาสเตียรอยด์ ทาหรือหยอดหูเพื่อลดอาการอักเสบและอาการคัน 3.รักษาตามสาเหตุของอาการคัน 4.แนะนำให้ผู้ป่วยเลิกใช้ไม้พันสำลี หรือนิ้วในการปั่นช่องหู ถ้าคันมากแนะนำให้การรักษาโดยข้อ 1 และ ข้อ 2 อาจขยี้ตรงช่องหูเบาๆ ได้
"แนะนำให้ผู้ป่วยระวังไม่ให้น้ำเข้าหู เนื่องจากผู้ป่วยมักใช้ไม้พันสำลีซับน้ำในช่องหูหลังอาบน้ำ อาจทำให้เกิดการระคายเคืองของผิวหนังช่องหูเรื้อรัง ทำให้เกิดการอักเสบและอาการคันขึ้นอีก อาจใส่หมวกเวลาอาบน้ำ หรือใช้สำลี หรือที่อุดหูสำหรับนักดำน้ำซึ่งหาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์กีฬาอุดหูระหว่างอาบน้ำเพื่อไม่ให้น้ำเข้าหู"


