posttoday

ใครๆ ก็หลงรัก หมีซุป’ตาร์

17 มีนาคม 2559

ถ้าให้ถอดรหัสคำถามว่า... ทำไมใครๆ ก็หลงรักตุ๊กตาหมี ใครๆ ในที่นี้ก็ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ผู้หญิง ผู้ชาย เด็ก หรือผู้ใหญ่

โดย...ปอย ภาพ... วิศิษฐ์ แถมเงิน

ถ้าให้ถอดรหัสคำถามว่า... ทำไมใครๆ ก็หลงรักตุ๊กตาหมี ใครๆ ในที่นี้ก็ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ผู้หญิง ผู้ชาย เด็ก หรือผู้ใหญ่ เพราะทุกเพศทุกวัยล้วนเทหัวใจให้ตุ๊กตาตัวนี้กันทั้งนั้น เพราะมันให้ความรู้สึกสบายอกสบายใจเวลาได้กอดรัดฟัดตุ๊กตาหมีตัวอ้วนๆ พุงกลมนุ่มๆ รอยยิ้มน่ารักๆ มองแล้วก็อารมณ์ดีทุกทีไป พี่หมีกลายเป็นสัญลักษณ์ความอบอุ่น ความใจดี ของขวัญในทุกเทศกาล ใครคิดอะไรไม่ออกก็เป็นตุ๊กตาหมีดีที่สุด จึงทำให้ตุ๊กตาตัวนี้กลายเป็นขวัญใจคนทั่วโลกไปโดยปริยาย

ช่วงนี้หมีกำลังบุกกรุง หมีน้อยในกระแสที่ต้องไปเซลฟี่ด้วย ก็ต้องเป็นกองทัพแพนด้าเปเปอร์มาเช่ 1,600 ตัว ในโครงการ Pandas+World Tour in Thailand และอีกงานของคนรักหมีต้องไป Celebrity Bears Show จัดขึ้นที่ห้างซีคอนสแควร์ เนรมิตลานน้ำพุให้เป็นโลกแห่งดินแดนของเหล่าหมีซุป’ตาร์ มารวมพลเฉพาะกิจ หมีในดวงใจของใครมีคิวไปปรากฏโชว์ตัวที่ไหนกันบ้าง? แฟนหมีต้องตามไปกระทบไหล่กัน!!!

‘แฟลชม็อบแพนด้า’ ตัวแทนความตระหนักรู้

เพื่อให้ทุกๆ คนได้เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจส่งท้ายของกองทัพน้องๆ แพนด้า จึงมีการเชิญชวนให้โหวตสถานที่แฟลชม็อบแห่งสุดท้ายในไทย ผ่านทางเฟซบุ๊ก 1600pandasplusth ในที่สุดผลโหวตก็ออกมาแล้ว และผลอย่างเป็นเอกฉันท์ก็คือ ประตูท่าแพ จ.เชียงใหม่ วันศุกร์ที่ 19 มี.ค.นี้ เริ่มตั้งแต่เวลา 15.00-18.00 น. ใครอยู่เชียงใหม่ เตรียมหยิบกล้องและไม้เซลฟี่ แล้วมาเช็กอินได้เลย

โครงการ 1600 แพนด้าพลัส เวิลด์ ทัวร์ อิน ไทยแลนด์ ยกขบวนมาทักทายสวัสดีชาวไทยตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยมีเจ้าภาพหลัก คือ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี เป็นผู้นำเสนอปรากฏการณ์งานศิลปะเชิงอนุรักษ์ระดับโลก น่ารักน่าตื่นตาตื่นใจครั้งแรกในเมืองไทย

พันธมิตรที่ร่วมผนึกกำลังครั้งนี้ คือ กองทุนสัตว์ป่าโลก สำนักงานประเทศไทย (WWF-Thailand) ในการเป็นตัวแทนประชาสัมพันธ์ถึงความสำคัญของการอนุรักษ์สัตว์ป่าและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน และด้วยความสนับสนุนอีกแรงจากภาครัฐ คือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กรุงเทพมหานคร จัดว่าเป็นอีเวนต์ยิ่งใหญ่รับช่วงต้นปี เรียกกระแสสนใจให้ประชาชนทั่วไปตลอดจนนักท่องเที่ยวได้ร่วมบันทึกภาพแห่งความประทับใจกันอย่างคึกคัก

ใครๆ ก็หลงรัก หมีซุป’ตาร์

 

เริ่มต้นภารกิจในการเยือนเมืองไทยประเดิมที่แรก ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง โดยมีพระบรมมหาราชวังหรือวัดพระแก้วเป็นฉากหลังอันงดงามและบ่งบอกถึงการมาเยือนเมืองไทยได้อย่างเป็นทางการ โดยสถานที่แต่ละแห่งที่น้องๆ หมีปรากฏตัวในไทยมีทั้งหมด 10 แห่ง แต่ละแห่งจัดแสดงช่วงระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งเป็นรูปแบบที่เรียกว่า แฟลชม็อบ (flash mob) จากนั้นจึงสลายตัวเมื่อครบ 3 ชั่วโมง และจัดเก็บเตรียมเคลื่อนย้ายไปยังสถานที่ อื่นๆ ต่อไป โดยการเรียงตุ๊กตาใช้อาสาสมัครนับร้อยคนมาช่วยกันจัดเรียงเจ้าหมีแพนด้าในหลากหลายอิริยาบถ วางกระจายบนสนามหญ้าเป็นบริเวณกว้าง น้องๆ หมีแพนด้าเหล่านี้สวมบทบาททูตแห่งการอนุรักษ์สัตว์ป่าและสิ่งแวดล้อม

การทัวร์รอบโลกของแพนด้า 1,600 ตัว เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2551 โดยความร่วมมือระหว่างกองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF) และศิลปินชาวฝรั่งเศส เปาโล กรองจีอง สร้างสรรค์ผลงานศิลปะแพนด้าน้อยที่ประดิษฐ์ขึ้นจากศิลปะเปเปอร์มาเช่ด้วยกระดาษรีไซเคิล โดยเริ่มแรกเขาได้สร้างสรรค์แพนด้าขึ้นมาทั้งหมด 1,600 ตัว ซึ่งเท่ากับจำนวนแพนด้าที่ยังหลงเหลืออยู่ทั่วโลกในขณะนั้น และตั้งแต่นั้นก็ได้มีการพาแพนด้าน้อยเหล่านี้เดินทางจัดแสดงและสร้างสีสันตามเมืองท่องเที่ยวยอดฮิตและสถานที่สำคัญต่างๆ กว่า 100 แห่ง ในหลายประเทศทั่วโลก ได้แก่ ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี ไต้หวัน ฮ่องกง เกาหลี มาเลเซีย และไทย เพื่อตอกย้ำความสำคัญของการอนุรักษ์สัตว์ป่าและสิ่งแวดล้อม สู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน

นี่ไม่ใช่เพียงการประกาศให้ทั่วโลกรับรู้ถึงการ “ใกล้สูญพันธุ์” (Endangered) ของจำนวนแพนด้าทที่เหลือทั้งโลกเพียง 1,600 ตัว แต่แพนด้าอันเป็นโลโก้ของ WWF เป็นกระบอกเสียงให้เพื่อนร่วมสถานะอีกหลายชนิดที่ใกล้สูญพันธุ์ เช่นแฟลชม็อบในวันที่ 13 มี.ค. ตรงกับวันช้างไทย ที่ปัจจุบันมีเหลือในผืนป่าเพียง 2,500-3,200 ตัว เช่นเดียวกับเสือโคร่งอินโดจีน มีเหลืออยู่น้อยกว่า 200 ตัว ซึ่งไทยเป็น 1 ใน 13 ประเทศในโลกที่ยังมีเสือโคร่งหลงเหลืออยู่

โครงการนี้ไม่เพียงให้มาเซลฟี่คู่แพนด้าน้อยน่ารัก หากมุ่งหวังให้คนในประเทศที่ไปจัดแสดง ได้ตระหนักรู้ถึงการอนุรักษ์สัตว์ป่าทุกชนิด ที่กำลังเผชิญสภาพเดียวกันอยู่

ใครๆ ก็หลงรัก หมีซุป’ตาร์

 

โครงการ 1600 แพนด้าพลัส เวิลด์ ทัวร์ อิน ไทยแลนด์ จะปิดท้ายความประทับใจ กับเฟสที่ 2 ชวนชมนิทรรศการแพนด้า 1,600 ตัว ทิ้งท้ายอลังการก่อนลาเมืองไทย ระหว่างวันที่ 24 มี.ค.-10 เม.ย.นี้ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ซึ่งก่อนหน้านั้นได้เปิดให้คนรักแพนด้าลงทะเบียนจองผ่านทาง www.1600pandasplusth.com เพื่อขอรับเลี้ยง (Adoption) แพนด้ามาเช่ตัวใหญ่ไซส์แอล 1,600 บาท เอ็ม 1,200 บาท และเอส 800 บาท โดยวันเปิดนิทรรศการ 24 มี.ค.นี้ ผู้จองสิทธิไว้ก็สามารถมาเลือกน้องหมีตัวที่ชอบได้เลย และรับในวันจบนิทรรศการ 10 เม.ย. รายได้จากการอุปการะน้องหมีจะมอบให้กับ WWF-ประเทศไทย เพื่อนำไปใช้พัฒนาโครงการอนุรักษ์สัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ในประเทศ โดยเฉพาะช้างป่าไทยและเสือโคร่งต่อไป

ใครที่อยากได้แพนด้ากลับไปอยู่ด้วยที่บ้านต้องรีบแล้ว!

ทำความรู้จักเซเลบริตี้หมีๆ

ถ้าใครอยากเซลฟี่กับ “คุมะมง” แมสคอตต้นฉบับจากประเทศญี่ปุ่น ก็ไม่ควรพลาดงานนี้กันเลย Celebrity Bears Show วันนี้-20 มี.ค.นี้ ห้างซีคอนสแควร์เนรมิตลานน้ำพุให้เป็นโลกแห่งดินแดนของเหล่าหมีซุป’ตาร์มารวมพลเฉพาะกิจ เซเลบหมีชื่อดังหลายๆ ตัวมาโชว์ตัวในงานนี้ สำหรับช่วงสุดสัปดาห์ 19-20 มี.ค. เป็นคิวโชว์ตัวของตุ๊กตาหมีแพดดิงตัน หมีฟองดูว์ หมีครัวซองต์ และพระเอกของงาน “คุมะมง”

ใครยังไม่รู้จัก ลองคลิกยูทูบดูท่าเต้นกายบริหารสุดกวนแก่นเซี้ยวของหมีตัวสีดำแก้มสีแดงตัวนี้ เป็นต้องอุทานกันว่า “น่ารักสุดอ่ะ!” ฝึกเต้นตามก็ไม่ยากด้วยนะ ยังไม่รวมความฮาๆ เปิ่นๆ น่าเอ็นดูที่เขาพาหุ่นอวบอ้วนของตัวเองตกบันไดรถไฟ คุมะมงน้ำหนักประมาณ 100 กก. ในตอนแรกมีร่างกายผ่ายผอม แต่หลังจากได้พบกับของอร่อยมากมายของจังหวัดคุมาโมโตะก็เลย ... เป็นการหัวคะมำในหน้าที่ก็ว่าได้ คุมะมงเป็นหมีเปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมกับแคมเปญประชาสัมพันธ์รถไฟชิงคันเซ็น สายคิวชู ถือกำเนิดเมื่อปี 2553 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของเทศบาลจังหวัดคุมาโมโตะ

ถ้าคำนวณอายุหมีซุป’ตาร์ตัวนี้ยังเป็นเด็กน้อยวัยแค่ 6 ขวบ (เพิ่งฉลองวันเกิดไปเมื่อวันที่ 12 มี.ค.) แต่ตามประวัติเขากลับไม่เปิดเผยอายุจริงของตัวเอง! และไลฟ์สไตล์ก็ไม่ใช่เด็กชายวัย 6 ขวบ คุมะมง
ชื่นชอบการแต๊ะอั๋งสาวๆ เป็นที่สุด ยิ่งถ้าเป็นไอดอลสาวก็ยิ่งให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ!!!

ใครๆ ก็หลงรัก หมีซุป’ตาร์

 

ด้านหน้าที่การงานก็ถือเป็นชายหนุ่มอนาคตไกล กับตำแหน่งผู้อำนวยการด้านความสุขแห่งจังหวัดคุมาโมโตะ ที่ไต่เต้ามาจากการเป็นพนักงานชั่วคราว ล่าสุดเลื่อนขั้นเป็นผู้อำนวยการฝ่ายขายของจังหวัดคุมาโมโตะ

พระเอกของจังหวัดคุมาโมโตะที่เคยเป็นเพียงจังหวัดทางผ่านเล็กๆ ทางตอนกลางของเกาะคิวชู และเพิ่งมีรถไฟชิงคันเซ็นวิ่งเข้าเมืองเมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง ชาวเมืองได้ร่วมใจกันสร้างแมสคอตตัวนี้ขึ้น เพื่อเป็นทูตต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาพร้อมรถไฟความเร็วสูง โดยการสร้างตัวตนด้วย 3 บุคลิก คือ แอ็กชั่นทะเล้นน่ารัก กระตือรือร้นมุ่งมั่นในงานประชาสัมพันธ์เมือง และเป็นหมีสร้างไออุ่นเพื่อให้ได้ความรักตอบกลับจากคนรอบข้าง

นอกจากการสร้างเรื่องราวให้หมีตัวนี้แล้ว ความร่วมแรงร่วมใจของทีมงานเทศบาลจังหวัดที่ขยันพาหมีคุมะมงไปออกงานสังคมทั่วประเทศ (หมีเซเลบตัวจริงอะไรจริง) ก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้หมีสีดำแก้มสีแดงมีชื่อเสียงขึ้นได้ทันใด

ถ้าถามคนในวงการหมีๆ ด้วยกัน เจ้าของตุ๊กตาหมี “โอ้ แบร์” (Oh Bear) แบรนด์สัญชาติไทยแท้ นพัฐห์ ปูคะวนัช ไขกุญแจแห่งความสำเร็จหมีตัวญี่ปุ่นตัวนี้ กล่าวว่า หลักการสร้างแมสคอตให้โด่งดัง นอกจากต้องมีการวางแผนการตลาดที่ดีเยี่ยมแบบนี้แล้ว การสร้างตุ๊กตาให้มากกว่าธุรกิจโดยเข้าไปถึงชุมชน ให้ทุกคนมีความรู้สึกถึงความร่วมแรงร่วมใจกันเพื่อส่วนรวม อย่างเช่นชาวเมืองคุมาโมโตะ นี่คือโมเดลทางธุรกิจที่ประสบความสำเร็จสูง แล้วถ้าถามว่าแบรนด์ไทยก้าวตามได้ไหม ตอบเลยว่า...ยากมาก!!!

“ไม่ใช่ว่าตุ๊กตาเราไม่น่ารักเท่าเขานะคะ ตุ๊กตาหมีตัวไหนก็น่ารักทั้งนั้น คือ ถ้าให้เลือกระหว่างตุ๊กตาหมีกับตุ๊กตากระต่าย ดิฉันเชื่อว่ากว่าครึ่งก็ต้องเลือกน้องหมี ดิฉันก็อยากตั้งเป้าให้หมีไทยโด่งดังแบบนั้นค่ะ” นพัฐห์ กล่าวด้วยมุมมองคนทำตุ๊กตาหมีติดยี่ห้อดัง

ใครๆ ก็หลงรัก หมีซุป’ตาร์

 

โอ้ แบร์ โกอินเตอร์ตอนไปออกบูธในงานทศกาลของขวัญ BIG & BIH แล้วมีนักธุรกิจญี่ปุ่นมาขอเป็นตัวแทนจำหน่ายเพียงผู้เดียว ในการสร้างโอ้ แบร์ นพัฐห์วางกลยุทธ์สร้างแบรนด์หวังปั้นให้ตุ๊กตาหมีเลือดไทยตัวนี้ เจริญรอยตามตุ๊กตานอกอย่างมิกกี้เมาส์ ที่ใครไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์ก็ต้องซื้อกลับมาเป็นของที่ระลึก

“ดิฉันทำการตลาดให้เป็นสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟ มีวางจำหน่ายเฉพาะที่คิง เพาเวอร์ เท่านั้น หมีโอ้ แบร์ มีแฟนคลับทั่วโลกเลยค่ะ เพราะความแปลกของมันแตกต่างจากตุ๊กตาหมีทั่วๆ ไป ที่มีทั้งขนตรง ขนหยิก ขนนิ่ม หรือขนโมแฮร์ แต่โอ้ แบร์ เป็นหมีไม่มีขนค่ะ ให้ความรู้สึกช็อกดี (บอกพร้อมเสียงหัวเราะ) ทำจากผ้าสีสันลวดลายจี๊ดจ๊าดสดใส บางตัวทำจากหนังสีน้ำตาลดูบุคลิกโหดๆ นิดๆ สร้างความแปลกตา มันจึงไม่ใช่แค่ของเล่นค่ะ เป็นของขวัญของที่ระลึกก็ได้ ของใช้ห้อยพวงกุญแจห้อยกระเป๋าก็ได้ โดยมีกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และมียอดส่งขายไปออสเตรเลีย ไต้หวัน และแถบยุโรป” นพัฐห์ กล่าว

ตุ๊กตาหมีดังๆ ฝีมือคนไทยอีกตัว Bearbrick สีโมโนโทนขาวดำเพนต์ลวดลายบนลำตัวในสไตล์ศิลปะกราฟฟิตี้ ตัวนี้ชื่อว่า MMFK ผลิตลิมิเต็ด เอดิชั่น เพียง 500 ตัว สำหรับขายในเมืองไทย และอีก 100 ตัว สำหรับโกอินเตอร์ไปขายในญี่ปุ่น ทันทีที่เปิดขายทางออนไลน์ใช้เวลาเพียง 40 วินาที ขายได้หมดเกลี้ยง 200 ตัว อย่างรวดเร็ว ซึ่งก็แน่นอนว่าตอนนี้ถ้าใครอยากครอบครองเจ้าหมีตุ๊กตาแบร์บริกรุ่นนี้ ก็ต้องตามหาในวงแคบเฉพาะกลุ่มคนเล่นเท่านั้น เพราะมันกลายเป็นของสะสมสมบัติผลัดกันชมราคาสูงไปแล้ว ปรชน สาธานนท์ เจ้าของตุ๊กตาหมีแบร์บริค MMFK บอกว่า ตุ๊กตาฝีมือเพนต์โดยศิลปินไทย ตั้ม-พฤษ์พล มุกดาสนิท ผู้ล่วงลับ ความเป็นที่ยอมรับในวงการสตรีทอาร์ตชั้นแนวหน้าทำให้ตุ๊กตาตัวนี้มีชื่อเสียงไปด้วย

ปรชนนำตุ๊กตาหมีตัวนี้มาโชว์ในงานรวมพลหมีเซเลบที่ซีคอนสแควร์ เล่าว่า วันเปิดตัวขายตุ๊กตาหมีรุ่นลิมิเต็ด 500 ตัวในไทย ในงาน แบร์บริค เวิลด์ ไวด์ ทัวร์ เมื่อปีที่แล้วในห้างสยามเซ็นเตอร์ เป็นวันที่คนเยอะคึกคัก บรรยากาศวุ่นวายยิ่งกว่าวันเปิดขายรองเท้าอาดิดาสเสียอีก!

แล้วถ้าเข้าใจกันว่าตุ๊กตาหมีเป็นของเล่นเด็กๆ ผู้หญิงบุคลิกน่ารักอ่อนหวาน ก็คงไม่ใช่เจ้าตุ๊กตาตัวนี้แน่ๆ มันดีไซน์มาจากโมเดลเลโก้ คนชื่นชอบตุ๊กตาหมีรูปร่างหน้าตาคล้ายๆ หุ่นยนต์ ก็จะเป็นผู้ชายเสียส่วนใหญ่ แล้วยิ่งมีการ Collaborate กับศิลปินโด่งดัง แบร์บริก MMFK ชื่อเสียงก็ยิ่งกระฉ่อน

“ลายตุ๊กตาหมีมาจากตัวคาแรกเตอร์ ชื่อ Mr. Hell Yeah จุดเด่นอยู่ที่มีหนวดเฟิ้มขนสีดำทั้งตัว มีตาดวงเดียว ถ้าใครเป็นแฟนของ ตั้ม พฤษ์พล ก็จะคุ้นเคยกับลายนี้ วันเปิดขายใช้วิธีรับบัตรคิวแล้วจับสลากครับ ผมจำได้ว่าเป็นวันที่คนมารอซื้อแล้วกลับไปมือเปล่าไม่ได้ตุ๊กตาไปด้วย เยอะมากๆ เปิดตัวในราคา 3,000 กว่าบาท แต่ในเวลานี้ราคาวิ่งไปเรื่อยในราคา 5 หลักแล้ว

แบร์บริกเป็นของเล่นผลิตโดยบริษัท Medicom ประเทศญี่ปุ่น แต่มาบูมในเมืองไทยเมื่อ 2-3 ปีที่แล้วนี้เอง ผมจำได้เลยครับว่าเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วเคยเห็นวางขายที่ตลาดคลองถม ตัวเล็กสุด 20 บาท ไม่มีใครสนใจซื้อมันเลย แต่ตอนนี้บางตัวมันวิ่งไปที่ 500 บาท แฟนๆ ผู้ที่ชื่นชอบมันก็คือ กลุ่มคนที่รักในวงการศิลปะกราฟฟิตี้ ชื่นชอบการแต่งกายในแฟชั่นสตรีทแวร์และเป็นแฟนคลับของตั้ม ทุกคนก็อยากได้กันทั้งนั้น MMFK 100 ตัวในญี่ปุ่นฝีมือดีไซน์ของศิลปินไทยคนนี้ ก็เป็นที่ต้องการและหายากเช่นกันครับ” ปรชน บอก

สำหรับแบร์เลิฟเวอร์ในงานนี้ยังมีตุ๊กตาหมีในดวงใจอีกหลายๆ ตัว ยกขบวนมาทั้ง โป กังฟูแพนด้า หมีจอมขี้เกียจริลัคคุมะ ชอบนอน ชอบการพักผ่อน หรือหมีฝั่งยุโรป พูห์ เท็ดดี้ แต่ละตัวล้วนมีประวัติที่น่ารักไม่แพ้กัน

ใครที่รักหมี เดือนนี้เป็นเดือนแห่งความสุขแท้จริง

ข่าวล่าสุด

จับตาประชุมอาเซียน ชี้ชะตาสงครามไทย–กัมพูชา จบหรือยืดเยื้อ