posttoday

ยามานะชิ ที่ไม่ได้มีแค่ภูเขาไฟฟูจิ!

10 มกราคม 2559

ยามานะชิ (Yamanashi Prefecture) ที่มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน รู้ตัวอีกทีตอนยืนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่

โดย...วันพรรษา อภิรัฐนานนท์ภาพ โซระ/ออยลี่/ดาว

ยามานะชิ (Yamanashi Prefecture) ที่มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน รู้ตัวอีกทีตอนยืนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ แล้วก็รู้สึกได้ว่าตัวเรานั้นช่างเล็กเสียเหลือเกิน เรื่องราวต่อไปนี้เป็นประสบการณ์มุมมองใหม่ๆ ของแอดมินโซระ แอดมินออยลี่ และแอดมินดาว จากเพจ “ไม่ใช่กรูรูแต่กรูรู้ของถูกในโตเกียว” ยามานะชิสำหรับพวกเธอแล้วไม่ได้มีแค่ภูเขาไฟฟูจิ

ยามานะชิเป็นจังหวัดที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยขุนเขา ตั้งอยู่ในภูมิภาคจูบุ (Chubu) ตอนกลางของประเทศญี่ปุ่น และตั้งอยู่ตรงกลางของเกาะฮอนชู เมืองหลวงของจังหวัดคือเมืองโคฟุ (Kofu) อุตสาหกรรมที่ขึ้นชื่อของที่นี่คือการทำอัญมณี ผลไม้ที่เกษตรกรในจังหวัดนิยมปลูกมากที่สุดคือองุ่น มีประชากรน้อยเป็นอันดับที่ 41 ของประเทศ ปัจจุบันจำนวนประชากรที่อาศัยอยู่ในจังหวัดนี้ คือ 833,963 คน

ยามานะชิ ที่ไม่ได้มีแค่ภูเขาไฟฟูจิ!

 

จุดหมายอยู่ไม่ไกลจากโตเกียว นั่งรถไฟชมวิวข้างทางไปเพลินๆ แค่ชั่วโมงกว่าๆ ก็มาถึงสถานีรถไฟคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko Station) ประทับใจกรวยสามเหลี่ยมที่กำลังทำหน้าที่กั้นพื้นที่ ไม่ให้ใครเดินเข้าไปบริเวณรางรถไฟ กรวยธรรมดาแต่มีเรื่องราว มีความน่าเอ็นดู กรวยแต่ละอันถูกตกแต่งให้เป็นรูปฟูจิซังแสดงอารมณ์ต่างๆ น่ารักมาก

จุดหมายแรกคือหมู่บ้านโอชิโนะฮักไก หรือหมู่บ้านน้ำใส ที่นักท่องเที่ยวชาวไทยขนานนามให้ เถียงไม่ได้เลยเพราะน้ำใสจริงๆ สามารถมองเห็นก้นบ่อที่อยู่ลึกลงไปถึง 8 เมตร ตรงกลางหมู่บ้านมีบ่อน้ำผุด ซึ่งเป็นน้ำใต้ดินที่ไหลมาจากฟูจิซัง ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าเป็นน้ำที่สะอาด บริสุทธิ์ และมีความศักดิ์สิทธิ์ หากใครได้ดื่มจะมีอายุยืนยาว ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ อุณหภูมิเฉลี่ยของน้ำในบ่อ 10-12 องศาเซลเซียส น้ำสะอาดจริง เราสามารถดื่มได้ และถ้าใครต้องการนำน้ำกลับบ้านไปด้วยก็สามารถทำได้ ตรงร้านขายของที่ระลึกมีขวดพลาสติกขาย 150 เยน เท่านั้น

ยามานะชิ ที่ไม่ได้มีแค่ภูเขาไฟฟูจิ!

 

ความเชื่อมีมาจากสมัยโบราณ ฟูจิเปรียบดังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเทพเจ้า การเดินขึ้นภูเขาไฟฟูจิที่สูงเสียดฟ้าจึงเปรียบด้วยการแสวงบุญ น้อยคนนักที่จะเดินขึ้นไปจนถึงยอดเขา สมัยก่อนนักบวชและผู้ชายเท่านั้นที่มีสิทธิเดินขึ้นไป ส่วนผู้หญิงเพิ่งขึ้นภูเขาไฟฟูจิได้เมื่อ 147 ปีนี้เอง

ฟูจิซังแตกต่าง อันดับแรกคือความสูง นี่คือภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น 3,776 เมตร อันดับต่อมาคือ รูปทรง รูปทรงสวยงามแทบจะสมมาตรกันทั้งสองข้าง อันดับที่สาม คือขนาดของภูเขาที่ใหญ่โตน่าเกรงขาม ครอบคลุมพื้นที่ของสองจังหวัด คือ ชิซุโอกะ (Shizuoka) และยามานะชิ อันดับสี่เป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ตาย ทั้งหมดนี้ทำให้ฟูจิกลายเป็นตัวแทนธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ของญี่ปุ่น

ยามานะชิ ที่ไม่ได้มีแค่ภูเขาไฟฟูจิ!

 

สำหรับชาวญี่ปุ่นแล้ว ฟูจิไม่ได้เป็นแค่ภูเขาแต่เป็นแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ เป็นความภาคภูมิใจของคนในชาติ และเป็นส่วนสำคัญที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อทางศาสนาถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของชาวอาทิตย์อุทัย ในปี 2556 ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากยูเนสโก

ไดมอนท์ฟูจิ คือการมองฟูจิซังในระยะประชิดที่ทะเลสาบยามานากะ (Yamanaka Lake) สาวๆ ได้นั่งรถสะเทินน้ำสะเทินบกคาบะบัส (Kaba Bus) เป็นครั้งแรก คาบะบัสคือรถที่วิ่งบนถนนก็ได้และพอลงน้ำก็เปลี่ยนเป็นเรือ เจ้ารถฮิปโปคันนี้ขับชมรอบทะเลสาบ อยู่ดีๆ พนักงานขับรถก็ประกาศว่ากำลังจะพาเจ้าคาบะบัสลงไปในทะเลสาบแล้วนะ

ยามานะชิ ที่ไม่ได้มีแค่ภูเขาไฟฟูจิ!

 

“ตื่นเต้นเร้าใจจริงๆ ผู้โดยสารหลายคนถึงกับกรี๊ด ตอนที่รถขับลงไปในน้ำ (ฮ่าๆ) รถที่เรานั่งมากลายเป็นเรือไปเสียแล้ว อากาศดี ลมเย็นพัดมาวิวรอบทะเลสาบก็สวยซะ และไฮไลต์ของวันนี้คงไม่มีอะไรจะสวยไปกว่านี้...ไดมอนท์ฟูจิ ที่กำลังประจักษ์อยู่ตรงหน้าพวกเราทั้งสาม”

ไดมอนท์ฟูจิ คำที่ใช้เรียกเวลาที่พระอาทิตย์อยู่ตรงกับยอดของภูเขาไฟฟูจิพอดี ทำให้ดูเหมือนเพชรที่กำลังส่องแสงแวววาว ณ ยอดเขาช่างสวยงามประทับใจ จากนั้นได้เปลี่ยนจากนั่งเรือเป็นเดินเล่นเก็บบรรยากาศรอบทะเลสาบ อากาศสดชื่นหายใจได้เต็มปอด

ยามานะชิ ที่ไม่ได้มีแค่ภูเขาไฟฟูจิ!

 

“มีหงส์อยู่คู่หนึ่ง พอมันเห็นเราเดินอยู่ที่สะพาน ก็ว่ายน้ำมาขออาหาร แต่ดูดีๆ พบว่าไม่ได้มีแค่หงส์ แต่ปลาตัวใหญ่ๆ ว่ายมาเป็นฝูงๆ พร้อมใจกันมาขออาหารแบบนี้ จะใจแข็งอยู่ได้อย่างไร ก็ต้องควักเงินซื้ออาหารสิ แต่ที่กระบะขายอาหารปลาไม่มีคนขายนะ เราหยิบอาหารปลาไป แล้วเอาเงินวางไว้ในถาดรับเงิน ช่างเป็นสังคมในอุดมคติจริงๆ”

จุดหมายต่อไปคือจุดชมวิวที่ทะเสสาบโมโตสุ (Motosu Lake) ซึ่งเป็นจุดเดียวกันกับภาพเงาสะท้อนฟูจิซังบนผืนน้ำที่นิ่งสนิทบนธนบัตรใบละพันเยน สามสาวมาถึงเมื่อเวลาเย็น อากาศเริ่มหนาว แต่ภาพภูเขาไฟฟูจิที่เห็นตรงหน้าทำให้ลืมความหนาวเหน็บ ถ้าจะพูดว่าสวยจนแทบจะหยุดหายใจคงไม่เกินความจริง

ยามานะชิ ที่ไม่ได้มีแค่ภูเขาไฟฟูจิ!

 

แอดมินโซระ เล่าว่าเป็นช่วงเวลาที่พระอาทิตย์กำลังตกดิน แสงตกกระทบกับภูเขาแปลกตาแสงสีม่วงไล่ไปจนถึงสีชมพูอ่อนสะกดสายตาของทุกคน บรรยากาศเงียบสงบ มีนักท่องเที่ยวเพียงไม่กี่คนที่มายืนรอถ่ายรูปฟูจิซัง ต่อไปคือมุมถ่ายภาพขวัญใจมหาชน เจดีย์ห้าชั้นที่ทะเลสาบคาวากุจิ (Kawaguchi Lake) เจดีย์สีแดงมีฉากหลังเป็นภูเขาไฟช่างสวยงามนัก

เจดีย์ตั้งอยู่ในเขตศาลเจ้าอะระคุระ เซนเกน (ArakuraSengen Shrine) ศาลเจ้าเล็กๆ ประจำเมืองฟูจิโยชิดะ (Fujiyoshida) สร้างขึ้นปี 1963 เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งสันติภาพ เมื่อเดินขึ้นเขามาจะเจอศาลเจ้าก่อน ใครอยากเห็นเจดีย์ 5 ชั้นต้องเดินขึ้นบันไดไปอีก 400 ขั้น ระหว่างทางนอกจากจะเห็นวิวมุมสูงของเมืองทั้งเมือง ก็จะเห็นป้ายเตือนระวังสัตว์ป่ามีหมูป่าและลิง

อีกหนึ่งจุดห้ามพลาด คือการขึ้นไปบนฟูจิซัง ชั้น 5 ที่นี่มีดีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นร้านขายของที่ระลึกที่มีสินค้าบางอย่างวางขายเฉพาะข้างบนนี้ เช่น ขนมฟูจิเมลอนปังที่เอร็ดอร่อย เป็นเมลอนปังที่ทำเลียนแบบรูปทรงภูเขาฟูจิ ลาวาทำด้วยแป้งช็อกโกแลต และหิมะที่ปกคลุมก็คือน้ำตาลไอซิ่ง ขวด น้ำดื่มที่มีโลโก้ภูเขาไฟฟูจิ หรือเครื่องรางที่มีจำหน่ายเฉพาะที่นี่

ยามานะชิ ที่ไม่ได้มีแค่ภูเขาไฟฟูจิ!

 

“บนภูเขาไฟฟูจิชั้น 5 สูงจากระดับน้ำทะเลวัดได้ 2,305 เมตร สามารถมองเห็นความงามของทะเลสาบทั้งห้าที่อยู่รอบๆ ยังมีศาลเจ้าในลัทธิชินโต โคมิตะเกะ (Komitake Shrine) ด้านข้างของศาลเจ้ามีจุดชมวิวที่สวยงาม มองลงไปเห็นทะเลสาบยามานะกะที่ด้านล่าง”

ช่วงฤดูใบไม้ร่วงหรือใบไม้เปลี่ยนสีปลายเดือน ต.ค.-พ.ย. เป็นฤดูกาลเหมาะแก่การท่องเที่ยว ใบไม้สีแดง ส้ม เหลือง และน้ำตาล ไล่เรียงกันเหมือนภาพวาด มาถึงแล้วอย่าลืมไปเยี่ยมชมอุโมงค์ใบไม้เปลี่ยนสีที่ทะเลสาบคาวากุจิ ส่วนใครไปในช่วง ส.ค.-ต.ค. ห้ามพลาดชิมองุ่นสดจากต้น 48 สายพันธุ์ ที่นี่เป็นแหล่งผลิตไวน์ชั้นยอด โรงบ่มไวน์ที่บูโดโนะโอกะ (Budo no Oka) ชำระเงินเพียง 1,100 เยน ก็เข้าไปชิมไวน์ได้จุใจ 115 รสชาติ

สามสาวขอบคุณยามานะชิ จังหวัดเล็กๆ ใกล้โตเกียว ที่ทำให้พวกเธอได้ใช้วันหยุดอย่างสนุกสนาน คงไม่มีอะไรดีไปกว่าอาหารอร่อย ผู้คนใจดี ธรรมชาติสวยงาม กับเตียงนุ่มๆ ให้นอนเหยียดยาวหลังตะลอนช็อปตะลอนชิม และเที่ยวอย่างเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน ขอบคุณยามานาชิที่รักษาความเป็นธรรมชาติเอาไว้อย่างไม่มีที่ติ มีโอกาสเมื่อไรจะกลับมาแน่

“ขอสารภาพว่าตอนขามารู้สึกเฉยๆ กับฟูจิ แต่ขากลับพวกเราได้กลายเป็นคนใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจกลับไปอย่างเต็มเปี่ยม หากการเดินทางคือการชาร์จแบตเตอรี่ชีวิตให้เต็ม ในครั้งนี้ยามานะชิก็ได้ชาร์จแบตเตอรี่ของพวกเราจนเต็มเปี่ยม พลังงานดีๆ ขอเก็บไว้เป็นทุนสำหรับการดำเนินชีวิตในปีใหม่ 2559 ขอบคุณค่ะ”

ข่าวล่าสุด

SME D Bank จัด 'Culture Day' ขับเคลื่อนวัฒนธรรมองค์กร "ประสานพลัง-พัฒนาเรียนรู้" สู่การเติบโต