posttoday

เห้อกัง-เจิงหย่งถี ในละครสะท้อนสังคมจีนยุคใหม่

26 ธันวาคม 2558

“เห้อกัง” และ “เจิงหย่งถี” 2 นักแสดงชาวจีนที่เพิ่งเดินทางมาเมืองไทยเพื่อโปรโมทละคร “ลิขิตรัก ลิขิตใจ”

โดย...คุณมัลล์ ภาพ วิศิษฐ์

“เห้อกัง” และ “เจิงหย่งถี” 2 นักแสดงชาวจีนที่เพิ่งเดินทางมาเมืองไทยเพื่อโปรโมทละคร “ลิขิตรัก ลิขิตใจ” ซึ่งนำมาออกอากาศทางเอ็มคอท แฟมิลี่ ช่อง 14 ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 12.00 น. และ 22.30 น. เป็นละครสานสัมพันธ์ 40 ปี ไทย-จีน โดยมี กร ทัพพะรังสี นายกสมาคมมิตรภาพไทย-จีน ศิวะพร ชมสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท และ โจวเหวินลี่ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สถานีโทรทัศน์มณฑลกวางสี สาธารณรัฐประชาชนจีน ร่วมลงนามในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ด้านวัฒนธรรม

ลิขิตรัก ลิขิตใจ ในประเทศจีนจัดเป็นละครที่ได้รับความนิยมสูง เป็นการนำเสนอมุมมองใหม่ของจีนผ่านละคร ซึ่งในเรื่องสะท้อนถึงทัศนคติในการทำงานการใช้ชีวิตของคนหนุ่มสาวชาวจีนยุคใหม่ซึ่งแตกต่างจากรุ่นพ่อแม่นำมาสู่ความขัดแย้งไม่เข้าใจ แต่พวกเขาก็ลุกออกมาทำตามความต้องการของตัวเอง

เห้อกัง รับบท เหอหนาน 1 ใน 4 หนุ่ม พี่น้องตระกูลเหอ ได้เล่าถึงละครว่า “ละครลิขิตรัก ลิขิตใจ เป็นตัวอย่างของการคิดบวกของคนรุ่นใหม่ของจีน คุณอาจจะได้สัมผัสและเข้าใจในตัวตนคุณเองจากตัวละครต่างๆ ในเรื่องนี้ โดยเฉพาะด้านความคิด ความเข้าใจตัวตน เข้าใจความต้องการและสิ่งที่ปรารถนาภายในตัวเราจริงๆ ที่น่าจะเป็นปรัชญาชีวิตที่อมตะ ถูกถ่ายทอดออกมาด้วยรูปแบบของศิลปะและความงดงามผ่านละคร เหมือนกับที่ จ้าวเป่ากัง ผู้กำกับ ได้กล่าวไว้ว่า นี่คือแก่นแท้ของความคิด อันจะนำไปสู่จุดเริ่มต้นของการเข้าใจเรียนรู้ตัวเอง และจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงตัวเอง”

ด้าน เจิงหย่งถี เชื่อมั่นว่าผู้ชมชาวไทยจะได้ข้อคิดที่ดีจากละครเรื่องนี้ และยังได้เรียนรู้พัฒนาการของชาวจีนรุ่นใหม่ด้วย “ฉันคิดว่ามี 2 ข้อ ข้อแรก ละครเรื่องนี้เป็นละครที่ส่งเสริมค่านิยมที่ดี ข้อที่สอง ละครเรื่องนี้สามารถทำให้ผู้ชมเมืองไทยนั้นได้ทราบถึงพลัง แรงบันดาลใจต่างๆ ของชาวจีนยุคใหม่ที่มีต่อสังคมและประเทศชาติ และยังสามารถช่วยทำให้ทั้งชาวไทยและชาวจีนมีความเข้าใจด้านวัฒนธรรมและความร่วมมือที่ดีในอนาคต”

ในเรื่องนี้มีนักแสดงหลักหลายคน ส่วนบทบาทที่เห้อกังได้รับคือ บทเหอหนาน ในบรรดา 4 พี่น้องตระกูลเหอ เขามีต้นทุนดีได้ไปศึกษาต่างประเทศและมีความสามารถมากที่สุด ซึ่งน่าจะสามารถประสบความสำเร็จในชีวิตได้ไม่ยาก แต่ด้วยสาเหตุ หนึ่ง ไม่มีเงินทุน สอง ไม่มีเส้นสายคนรู้จัก จึงทำให้การทำธุรกิจของเขาเป็นไปด้วยความลำบาก

“เหอหนานเป็นเด็กเรียนเก่ง กตัญญูต่อพ่อแม่ มีนิสัยอบอุ่น และมุ่งมั่น เขาได้ประดิษฐ์คิดค้นไม้เท้าอเนกประสงค์ชนิดใหม่ขึ้นมา และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของอาชีพการงานและชีวิตของเขาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเขาโชคดีตรงนี้ที่เขาได้ค้นพบสิ่งที่ตัวเองรักและได้ทำมันแม้จะมีอุปสรรคบ้าง ละครเรื่องนี้สอนให้เรียนรู้ว่า ชีวิตเราต้องทำทุกวันให้ดีที่สุด จะได้ไม่ย้อนคิดถึงอดีตแล้วมาเสียดายว่าเรายังไม่ทำให้ดีที่สุด” เห้อกัง กล่าวถึงตัวละครที่เขาสวมบทบาท

ส่วน เจิงหย่งถี ผู้รับบท เย่ถ่าน “เย่ถ่านเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่มีความกระฉับกระเฉง แอ็กทีฟในทุกๆ เรื่อง มาจากครอบครัวที่ดี ได้ทุกอย่างที่อยากได้ และเป็นเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยกับเหอหนานตอนไปเรียนเมืองนอกด้วยกัน เป็นบทผู้หญิงที่มีความสดใส น่ารัก แต่พอกลับมาเมืองจีนก็มาเจอเรื่องราวดราม่าต่างๆ ก็เป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ ซึ่งเยาวชนส่วนมากจะเชื่อฟังพ่อแม่ ตามใจพ่อแม่ ให้ทำอะไรก็ทำ แต่เราไม่ได้ฟังหัวใจของเราว่าต้องการอะไร เรื่องนี้ทำให้รู้ว่า เราต้องเปิดใจคุยกันว่า อะไรคือความต้องการของเราจริงๆ เราจะได้ไม่ก้าวผิด เพราะอยากตามใจพ่อแม่ แต่เราฟังหัวใจตัวเองสำคัญที่สุด”

ด้วยเนื้อหาละครสะท้อนถึงคนรุ่นใหม่ของจีนที่กล้าลุกขึ้นมาปฏิวัติในครอบครัว เพื่อทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการแทนการทำตามที่พ่อแม่บอก จนทำให้ละครกลายเป็นกระแสขึ้นมา เห้อกัง เล่าถึงบรรยากาศของละครที่ออกอากาศที่จีนว่า ออกอากาศหลายเมือง อย่างเมืองใหญ่ๆ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ จ้านเจียง และเทียนจิน ในช่วงเวลา 2 เดือน ออกอากาศซ้ำอยู่หลายรอบ มีการจัดอันดับละครยอดนิยม ละครลิขิตรัก ลิขิตใจ อยู่อันดับหนึ่ง และมียอดคนดูย้อนหลังในอินเทอร์เน็ตเป็นอันดับหนึ่ง ภายในเวลาไม่ถึงเดือนมียอดวิวเกินหนึ่งร้อยล้าน ส่วนในผู้ชมก็เกิดกระแสบอกต่อ และเรื่องการลุกขึ้นมาทำสิ่งที่ตัวเองต้องการก็กลายเป็นหัวข้อสนทนาของผู้ชม

“ขนาดสถานที่ท่องเที่ยว เราไปถ่ายทำที่เมืองลี่เจียง มีสถานที่เที่ยวภูเขาหิมะมังกรหยก คนก็ไปเที่ยวกันเยอะขึ้น แล้วมีฉากหนึ่งในร้านชาเราถ่ายกันแค่ร้านเดียวออกอากาศไม่กี่นาที แต่คนก็ตามไปกินชาที่เมืองนี้ ซึ่งเป็นเมืองเก่า มีร้านชาต่อกันหลายร้าน แล้วทุกร้านก็ติดป้ายว่าเป็นสถานที่ถ่ายทำละครเรื่องลิขิตรัก ลิขิตใจ (หัวเราะ) ทั้งๆ ที่เราถ่ายร้านเดียว ละครก็ทำให้คนไปเที่ยวเมืองนั้นเยอะมาก” เห้อกัง กล่าว

เจิงหย่งถี เสริมให้ว่า “ละครกลายเป็นกระแสมาก ผู้ชมส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น แต่ก็มีกลุ่มผู้ชมที่กว้างตั้งแต่ 15-50 ปี ที่คนหันมาสนใจเพราะละครพูดถึงเยาวชนจีนยุคนี้คิดยังไง มีการกบฏต่อครอบครัว ไม่ยอมรับสิ่งที่พ่อแม่ให้มา ไปหาตัวตนเอง ส่วนพ่อแม่ที่ดูก็ได้ย้อนกลับมามองว่าลูกหลานคิดยังไง หลังจากดูเรื่องนี้ก็เกิดความเข้าใจต่อเด็กมากขึ้น ยุคที่ผ่านๆ มาวัยรุ่นจีนไม่ได้มีตัวเลือกมากนัก พ่อแม่ก็เอาประสบการณ์ของตัวเองมาวางแผนให้ลูก แต่ยุคนี้สังคมเปลี่ยนไปมีอินเทอร์เน็ต เด็กมีความรู้มีทางเลือกมากขึ้น เขามองโลกได้กว้างขึ้นเริ่มมีความคิดไม่เลือกสิ่งพ่อแม่ให้ได้ไหม เป็นการกระทุ้งให้พ่อแม่ยุคใหม่เปลี่ยนมุมมองความคิด ให้ลูกได้มีอิสระในตัวเอง แล้วครอบครัวให้การสนับสนุนในสิ่งนี้ ละครเราพูดแบบนี้แล้วบังเอิญมีคนเห็นด้วย มันเลยกลายเป็นกระแสให้ละครดังขึ้นมา”

2 นักแสดงเล่าด้วยใบหน้ายิ้มแย้มและบอกว่า ดีใจภูมิใจมากที่ได้แสดงละครเรื่องนี้เพราะนอกจากจะให้ความสนุกแก่ผู้ชมละครยังให้แง่คิดกับผู้ชมด้วย ที่สำคัญทั้งคู่ก็ได้มุมมองใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต

อย่างเห้อกังบอกอย่างภาคภูมิว่า“ผมเล่นเรื่องนี้ดีที่สุดแล้วในตอนถ่ายทำ ผมไม่ได้หวังว่าละครออกอากาศแล้วจะดังไหม แต่ผมทำให้ดีที่สุดในตอนที่ผมมีโอกาสทำ ผมก็ไม่ผิดหวังแล้ว”

ข่าวล่าสุด

ถ่ายทอดสด เบรนท์ฟอร์ด พบ ลีดส์ ยูไนเต็ด พรีเมียร์ลีก วันนี้ 14 ธ.ค.68