ชาบูรสละมุน
หนึ่งในอาหารยอดฮิตประเภทหนึ่งของไทยในเวลานี้ คงต้องยกให้กับ “ชาบู” หลังจากมีร้านชาบูเปิดให้บริการเป็นจำนวนมาก
โดย...ไพบูลย์ กระจ่างวุฒิชัย
หนึ่งในอาหารยอดฮิตประเภทหนึ่งของไทยในเวลานี้ คงต้องยกให้กับ “ชาบู” หลังจากมีร้านชาบูเปิดให้บริการเป็นจำนวนมาก ซึ่งแต่ละร้านก็มีจุดเด่นและเอกลักษณ์แตกต่างกันไป โดยร้าน“ละมุน ชาบู” ก็เป็นอีกหนึ่งร้านที่มีความน่าสนใจ
ร้านชื่อน่าอร่อยแห่งนี้อยู่ในซอยรัชดาภิเษก 19 เข้ามาในซอยเจอสามแยกเลี้ยวซ้าย จากนั้นเลี้ยวไปทางขวา มุ่งหน้าไปเรื่อยจะเจอป้ายร้านตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ทางขวามือ ซึ่งวิธีการเดินทางที่สะดวกที่สุด คือ รถไฟฟ้าใต้ดิน โดยลงสถานีรัชดาภิเษก และไปที่ทางออก 1 หรือ 2 จากนั้้นไปตามเส้นทางข้างต้นก็จะถึงที่หมาย หรือจะมาทางซอยวิภาวดี 16 ตรงเข้ามาประมาณ1 กิโลเมตร ให้สังเกตป้ายวิภาวดี16/35 ร้านจะอยู่ซ้ายมือ แม้ร้านจะตั้งอยู่ในซอย แต่ทางร้านก็มีที่จอดรถอำนวยความสะดวก
เมนูของทางร้านมีให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเนื้อวัว เนื้อหมู อาหารทะเล ผักนานาชนิด พ่วงด้วยของทานเล่น เช่น ไก่ทอดคาราเกะ เกี๊ยวทอดจิ้มน้ำจิ้มไข่กุ้ง เป็นต้น น้ำซุปชาบูทางร้านก็มีมาเสิร์ฟให้พร้อมกัน 2 แบบ ทั้งแบบ “ซุปชาบูใส” และ “ซุปสุกียากี้ญี่ปุ่น” และที่เด็ดไม่แพ้กันคงต้องยกให้กับ “แก้วทำเครื่องดื่มเกล็ดหิมะ” เพียงแค่เทน้ำอัดลมลงไป ปิดฝา และบีบไปเรื่อยๆ ไม่นานนักก็สามารถใช้ช้อนตักขึ้นมารับประทานได้
ในโอกาสนี้ได้สนทนากับสองสาวสวยที่ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการของร้าน เพื่อสอบถามถึงแนวคิดเกี่ยวกับร้านชาบูแห่งนี้ด้วย
“กุลสุดา กุศลสินชัย” หรือเกด เล่าว่า จริงๆ การเปิดร้านครั้งนี้ไม่ได้มองเรื่องโอกาสของการทำธุรกิจ แต่คิดกลับกันคือ ครอบครัวชอบทำอาหารกินกันเอง เพราะถ้าทำเองกินเองก็ต้องทำอย่างสะอาดและมีคุณภาพ เราเลยอยากให้คนอื่นๆได้กินแบบนั้นบ้าง
“ชาบูอาจดูเป็นอะไรที่บางคนไม่คุ้นเคยถ้าเทียบกับการรับประทานสุกี้ เราจึงคิดคำจำกัดความของการรับประทานชาบูให้เข้าใจง่ายๆ ว่า ‘คีบ จุ่ม กิน’ เพื่อให้ลูกค้าได้ลองทาน
ชาบูให้ใกล้เคียงกับญี่ปุ่นมากที่สุด ที่ไม่ใช่แค่การเทวัตถุดิบลงไปในหม้อต้มเท่านั้น แต่ทางร้านก็ไม่ได้ทำชาบูให้เหมือนต้นตำรับเสียทีเดียว เพราะน้ำจิ้มของทางร้านก็ได้นำเอามาปรับรสชาติให้เข้ากับลิ้นของคนไทย เช่น การมีพริก กระเทียมต้นหอม มะนาว ไว้ให้เติมลงไป”
“ที่ร้านให้ความใส่ใจกับวัตถุดิบอย่างมาก โดยเฉพาะการสไลซ์เนื้อสัตว์ทั้งเนื้อวัวที่นำเข้ามาจากออสเตรเลีย และเนื้อหมู ซึ่งทางร้านได้สไลซ์เนื้อให้บาง เพื่อให้รับประทานสะดวกและจะได้ไม่ต้องใช้แรงในการเคี้ยวมาก และใช้เวลาแกว่งเนื้อในหม้อที่น้ำเดือดๆ เพียง 8 วินาทีเท่านั้น ก็สามารถนำมารับประทานได้พอดีคำ ไม่เหนียวเกินไป บางคนอาจรู้สึกว่าถ้าได้เนื้อหมูหรือเนื้อวัวชิ้นหนาๆ จะอร่อย แต่จริงๆ แล้วยิ่งชิ้นหนายิ่งรับประทานยาก”
“สุภานุช กุศลสินชัย” หรือแก้ว เสริมว่า เวลานี้กระแสของการทานอาหารเพื่อสุขภาพกำลังมาแรง จึงคิดว่าการทำร้านชาบูที่ประกอบไปด้วยวัตถุดิบที่หลากหลายทั้งเนื้อสัตว์และผัก น่าจะสร้างความสนใจให้กับลูกค้าได้ เหนืออื่นใดการกินชาบูมันเหมือนกับการที่ครอบครัวได้ทำอะไรร่วมกันด้วย และเมื่อคิดว่าจะทำร้านเป็นแนวของครอบครัว การตกแต่งร้านและการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์สีต่างๆ จะออกไปทางสีขาว ดำ และประดับลายไม้
“แก้วทำเครื่องดื่มเกล็ดหิมะ เป็นสิ่งแรกๆ ที่ทางร้านตัดสินใจซื้อก่อนอุปกรณ์อื่นๆ ด้วยซ้ำ เพราะหวังว่าเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ให้ลูกค้าสามารถทานชาบูได้อย่างสนุกสนานมากขึ้น การเลือกซื้อของเข้ามาใช้ในร้าน เราจะใช้แนวทางเดียวกับการซื้อของเข้าบ้านที่ต้องให้ความใส่ใจ อย่างแก้วน้ำก็ใช้แบบพิเศษที่เมื่อตกแตกแล้วจะมีลักษณะเป็นเม็ดข้าวโพดที่ไม่มีความคมมาก และลดอันตรายจากการบาด แม้ว่าจะมีราคาที่แพงกว่าปกติก็ตาม”
“ในอนาคตมีความคิดว่าจะเพิ่มเมนูให้มากขึ้นกว่าเดิมเพื่อตอบสนองตามความต้องการของลูกค้า แต่ยังไม่คิดเรื่องของการขยายสาขา เพราะอยากทำร้านที่มีอยู่ให้ดีที่สุดก่อน” แก้วทิ้งท้าย


