ไท้ไทยในสายตาจี๊นจีน
พวกเราทุกคนมีอาการคล้ายๆ กันอยู่อย่าง ที่มักให้คุณค่าตัวเองโดยสายตาของคนอื่น
โดย...นิธิพันธ์ วิประวิทย์
พวกเราทุกคนมีอาการคล้ายๆ กันอยู่อย่าง ที่มักให้คุณค่าตัวเองโดยสายตาของคนอื่น เรามั่นใจเมื่อคนอื่นชื่นชม เราเสียเซลฟ์ เมื่อคนอื่นส่งสายตาเหยียดหยามจับผิด มากบ้างน้อยบ้างต่างๆ กันไป
ความเห็นของคนอื่นต่อเสื้อที่เราใส่ หนังที่เราดู บ้านที่เราอยู่ เราก็พลอยอยากรู้อยากฟังไปด้วย ซึ่งเป็นกลไกธรรมชาติของมนุษย์ในการวัดระดับและปรับปรุงตัวเองให้เข้ากับสังคม
เมื่อมีเสียงต่างชาติมองประเทศไทย เราคนไทยจึงให้ความสนใจเป็นพิเศษ
เพราะความสัมพันธ์ไทยจีนเริ่มแนบแน่นขึ้นกว่าก่อน และแนบแน่นเข้าทุกวัน หน้าฟีดของผมจึงโผล่บทความเกี่ยวกับคนจีนมองไทยมากขึ้นเรื่อยๆ บ้างเป็นบทวิจารณ์เผ็ดร้อนเรื่องการศึกษาไทย บ้างเป็นกระแสตอกกลับต่อกรณีที่นักท่องเที่ยวจีนโดนวิจารณ์
ท่ามกลางความถี่ของบทความจีนมองไทย ผมเห็นการแชร์โพสต์บทความสั้นๆ เรื่อง “สื่อจีนชื่นชมเมืองไทย 10 สิ่ง บอกว่าประเทศไทยโชคดีที่สุดในโลก” เนื้อหามีตั้งแต่ ไทยเป็นครัวโลก, เป็นประเทศที่มีเอกราช ชื่นชมในพระมหากษัตริย์ไทย จนถึงชื่นชมพระพุทธศาสนาที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในประเทศไทย
ผมไม่เคยเชื่อว่านั่นเป็นความคิดและการเขียนของคนจีน กลับดูเป็นสำนวนและทัศนคติติดปากเพื่อโปรโมทประเทศไทยโดยคนไทยที่ถูกแปลเป็นจีนมากกว่า
ถ้าลองวางใจกลางๆ แล้วอ่านดูก็น่าจะเห็นว่า อย่างชาวจีนไม่มีทางมีทัศนคติและสำนวนในคำชมแบบนั้น ยิ่งสืบลึกขึ้นก็ยิ่งพบว่าน่าจะเป็นตามที่ผมสันนิษฐาน (อย่างไรก็ตามการหักล้างบทความนั้นไม่ใช่ภารกิจของผมในวันนี้)
แต่ความเชื่อผมกับยอดการแชร์ขัดแย้งกันโดยสิ้นเชิง ซึ่งไม่น่าแปลกใจอะไรอีก ทุกท่านที่ผ่านเข้ามาสู่ยุคโซเชียลเน็ตเวิร์กมาด้วยกันคงรู้ว่า ยอดการแชร์ยอดไลค์ไม่ใช่คะแนนยืนยันความถูกต้อง
โลกที่ทุกคนแบ่งปันได้รวดเร็วด้วยปลายนิ้วก็น่าสนุกอย่างนี้แหละครับ เพราะท่ามกลางข้อมูลล้นทะลัก ศักยภาพในการคัดกรอง คือศักยภาพที่จำเป็นของชาวเน็ต
อย่างที่กาลามสูตรเตือนเรา อย่าเชื่อเพราะการแชร์ตามๆ กันมา อย่าเชื่อเพราะผู้แชร์มีลักษณะน่าเชื่อถือ ฯลฯ
ส่วนสิ่งที่ผมจะนำเสนอ คือความเห็นของชาวเน็ตจีนที่มีต่อประเทศไทยของจริง ซึ่งยินดีอย่างยิ่งที่จะให้ทุกท่านใช้กาลามสูตรได้เต็มที่ ดูว่าสำนวนชื่นชมเมืองไทยเลิศเลอ หรือสำนวนชวนหัว จิกนิดๆ ฮาหน่อยๆ อันไหนจะเป็นของคนจีนมากกว่ากัน
อ่านแล้วรู้สึกอย่างไรก็ตาม ก็ขอให้มีความเข้าใจต่อการพยายามอธิบายสังคมไทยผ่านสายตาส่วนบุคคลของคนจีนนะครับ คำวิจารณ์ ติ ชม ของคนต่างสังคมมันต่างสะท้อนซึ่งกันและกัน มันไม่ได้ตีตราว่าประเทศไทยเป็นอย่างไร แต่มันคือเสียงสะท้อนอย่างไม่เป็นทางการว่าเขามีประสบการณ์อย่างไร และเขาต่างจากเราอย่างไรบ้าง แล้วจะรู้สึกสนุกจี๊ดๆ ครับ
“เมื่อมาถึงไทยแล้วจึงได้รู้ว่า...”
คนไม่รู้จักกันยิ้มให้คุณเป็นเรื่องปกติ
เคเอฟซี แมคโดนัลด์ เป็นที่ทำการบ้านหรือไม่ก็นั่งเล่นเกมของเหล่านักเรียน
ผู้หญิงรูปร่างดีมากมาย ขาสวย ตะโพกผาย
โฆษณาในจีนจำพวกผลิตภัณฑ์เสริมอึ๋มที่มาจากไทยเป็นเรื่องหลอกลวง
ย่านโคมแดง น้องๆ ทั้งหลายมีใบอนุญาตทำงานด้วยแฮะ
กะเทยที่จริงก็อ่อนโยนและน่ารักนะ
ผู้ชายที่ไม่ได้ร่ำรวยอะไรแต่มีเมียเยอะ เป็นเรื่องปกติ
มองไปตามทางข้างหน้าจะเจอคนหลากหลายสีผิว
ที่แท้เราเองก็ดูหน้าตาเหมือนมีภูมิความรู้ภาษาอังกฤษเหมือนกันแฮะ ฝรั่งถามทางบ่อยเชียว
ที่ว่าคนไทยชอบไหว้พระ นับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นเรื่องเว่อร์ไป
พระดื่มเที่ยวพนันได้ แถมมีเงินเยอะซะด้วย
ไม่ว่าผู้หญิงจะสาวจะแก่ขนาดไหน แต่ก็แต่งหน้าซะอย่างกับตัวเองเป็นเด็กสาว
คนมีกลิ่นตัวก็แรงอยู่นะ เรื่องฉีดน้ำหอมกันกระจายก็เป็นเรื่องปกติ
ผู้หญิงจับมือกัน เขาจะหาว่าเป็น “เลส” นะ
พ่อแม่สองครอบครัวตกลงกันลงตัว ก็จัดแจงให้เด็กอายุ 16 แต่งงานได้
คนโสดเยอะมากกกกกก ลูกซักครึ่งคนก็ไม่อยากมี ไม่งั้นก็มี 2-3 คน
ไบเซ็กชวลเป็นเรื่องปกติ
ผู้ชายผู้หญิงไม่ค่อยยอมแต่งงานอะ
นักเรียนที่นั่นส่วนใหญ่ทึ่มได้สุดขอบโลกเลย
เอา 5 หาร 20 ก็ยังต้องถือเครื่องคิดเลขคิดอยู่นาน
ชุดนักเรียนไม่เรียบร้อย แต่งหน้ากันจนน่าเกลียด
ผู้ชายไม่ชอบสูบบุหรี่ แต่ชอบดื่มเหล้าแฮะ
คนไทยคิดอะไรเรียบง่าย
คนกินอาหารแย่ๆ ได้ แต่อาหารหมาต้องซื้ออย่างดี
หมาป่วยก็เป็นเหตุผลในการลาหยุดงานได้
รถเปิดเพลงดังๆ ขับกลางถนนได้ด้วย
หลังคารถบรรทุกก็เอาไว้ให้ลุงๆ แกเต้นได้ด้วย
ส่วนรถปิกอัพ ใครจะขึ้นไปเต้นก็ได้
ตีห้าหกโมงเช้า เปิดเพลงเสียงดังถึงข้างบ้านก็ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร
หมาก็ชอบใส่เสื้อเหลืองด้วย
มอเตอร์ไซค์เสื้อชมพูเก็บ 30 เสื้อเหลืองจะเก็บแค่ 20
ขึ้นรถสาธารณะ ไม่ต้องกังวลว่าจะมีขโมย
ห้องน้ำสะอาดซะจนนั่งพื้นกินข้าวได้
กับข้าวหรือเครื่องดื่ม ก็ใช้ถุงพลาสติกใส่แล้วรัดด้วยหนังยาง
เรียนไปด้วยกินขนมไปด้วยก็ได้
ทุเรียนอร่อยอย่างนี้นี่เอง
กินข้าวใช้มือกินก็ได้
ที่แท้ซาลาเปากับบ๊ะจ่างรสชาติแบบนี้นี่เอง
กินข้าวในร้านอาหาร ถ้าไม่อร่อยบอกทางร้านก็ไม่ได้
อากาศข้างนอก 35 องศา ส่วนในห้องหนาวจนตัวสั่น
ร้อนกว่า 30 องศา ก็ยังพันผ้าพันคอกัน
บ็อกเซอร์ใส่แบบกางเกงหลุดตูดก็ได้
รองเท้าฟองน้ำที่ใส่ในห้องน้ำ เอาไปใส่เดินทั่วประเทศได้เลย
เปลี่ยนเสื้อทุกวัน อาทิตย์นึงซักครั้งนึงก็พอแล้ว
มีสิ่งที่เรียกว่า เครื่องทำน้ำเย็นด้วย
ห้องครัวมีไว้ดู ปีนึงใช้กันสองสามครั้ง
พนักงานขับรถเมล์ ขับรถกันระห่ำเชียว
แถมรถเมล์ก็แต่งรถกันเองเต็มไปหมด
แทบทุกบ้านมีรถเล็กๆ ทั้งนั้น นักเรียนขับรถหรือไม่ก็มอเตอร์ไซค์ไปเรียน
ใบขับขี่ใช้ 500 บาทก็สอบผ่านแล้ว
ภาษาอังกฤษพูดแบบนี้ก็ได้ด้วยแฮะ
ถ้าพูดภาษาอังกฤษกับแท็กซี่ อาจทำให้คุณไปผิดที่ได้
มีรถเบนซ์รถบีเอ็มรูปร่างแบบนี้ได้ด้วยแฮะ
ตกกลางคืนผู้หญิงตัวคนเดียว ห้ามนั่งแท็กซี่เด็ดขาด
อำเภอนึงมีห้างใหญ่ๆ ที่สองที่ มีประเภทคาร์ฟูร์โลตัสอีก 5-6 ที่
เคาน์เตอร์ธนาคารไม่ต้องมีกระจกกั้นด้วย
ธนาคารเปิด 09.00-15.00 น. วันเสาร์อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ปิดหมด
วันหยุดเยอะขนาดนี้มีด้วยแฮะ
ซื้อของห้ามต่อ หรือต่อก็ลดได้แค่ 9 บาท
ร้านค้าอย่างน้อยหนึ่งอาทิตย์ต้องหยุดหนึ่งวัน
จะติดเน็ตนี่ต้องรอกันหนึ่งฤดูเลย
มาสาย 1 ชม. เป็นเรื่องปกติ๊ปกติ
พูดจาไม่รับผิดชอบก็เป็นเรื่องปกติ
พูดจาไม่ดีกับพระมหากษัตริย์ต้องเข้าคุก (นานสุด 15 ปี)
นอกจากหน้าฝน นอกนั้นก็แทบไม่เห็นฝน
ความสัมพันธ์ระหว่างคนด้วยกันมันเรียบง่ายจริงใจได้ขนาดนี้เลย
ที่ผ่านมามองตะเกียบเห็นป่าไผ่ ในวันนี้มองตะเกียบน่าจะได้เห็นเรือนไทย ที่มีป่าไผ่เป็น foreground


