อัญมณีแห่งความอร่อย... หยกมณี

โดย...อณุสรา ทองอุไร ภาพ กฤษณ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร

นมไทยนั้นมีมากมายหลายชนิด ทั้งขนมผสมไข่ หรือขนมผสมแป้งเป็นหลัก ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน แถมสีสันก็ยังดูดีน่ารับประทาน ซึ่งเป็นสีที่ได้จากวัตถุดิบทางธรรมชาติ จากดอกไม้ใบไม้ แถมยังมีชื่อและความหมายที่เป็นมงคล เหมาะจะเป็นของฝากให้ญาติสนิทมิตรสหายที่รักนับถือยิ่งนัก แต่ปัญหามีอยู่ว่าขนมไทยโบราณหลายอย่างเริ่มหารับประทานยากขึ้น อาจจะเป็นเพราะวิธีการทำที่ยุ่งยากซับซ้อน ทำให้เราพลาดโอกาสดีๆ ที่จะได้ลิ้มลองขนมไทยโบราณความหมายดีเหล่านี้

ใครเคยดูภาพยนตร์หรือละครเรื่อง “ทวิภพ” คงพอจำกันได้ว่า คุณหญิงแม่ของคุณหลวงทำขนมใหม่ขึ้นมาชนิดหนึ่ง ทำจากเม็ดสาคูกวนกับน้ำตาล คลุกกับมะพร้าว โดยบอกกับมณีจันทร์หรือเมณี่ นางเอกของเรื่องว่าจะตั้งชื่อขนมว่า “หยกมณี” เพื่อระลึกถึงเมณี่ยามจากไกล

“หยกมณี” ชื่อนี้บ่งบอกถึงลักษณะอาหารได้เป็นอย่างดี การนำคำว่า “หยก” รวมกับคำว่า “มณี” บ่งบอกว่าขนมชนิดนี้มีสีเขียวใสแบบหินแก้ว ของหวานแบบไทยๆ ที่มีสีสันสวยงามชวนรับประทานแบบนี้ แถมชื่อก็เป็นมงคลดีอีกด้วย ตอนนี้ก็แทบจะหารับประทานไม่ได้แล้วเช่นกัน ซึ่งขนมหยกมณีนั้นทำจากเม็ดสาคูที่ต้มในน้ำเชื่อม ส่วนสีสันที่ได้นั้นก็จากสีของน้ำใบเตย เมื่อเม็ดสาคูสุกได้ที่จึงนำมาพักไว้ให้เย็นลง จากนั้นก็นำมาปั้นเป็นลูกกลมๆ ก่อนนำไปคลุกในมะพร้าวทึนทึก (ไม่แก่หรืออ่อนเกินไป) ขูดแล้วมาเคล้าเกลือ ซึ่งชื่อของขนมชนิดนี้ก็มาจากสีของตัวขนมที่มีสีเขียวเหมือนหยกนั่นเอง แต่เมื่อรับประทานแล้วก็จะรู้สึกถึงความนุ่มเหนียว มีรสหอมของใบเตย และรสเค็มๆ มันๆ ของมะพร้าว

แต่เดิมนิยมใช้สีเขียวจากใบเตย จึงเรียกว่า ขนมหยกมณี ปัจจุบันมีการปรุงแต่งสีต่างๆ เช่น สีชมพู สีม่วง สีเหลือง เป็นต้น ถ้ามีหลายสีอาจใช้ชื่อเรียกตามสีที่ใส่ ซึ่งปัจจุปันมีการประยุกต์เพิ่มสีสันจากสีเขียวแบบดั้งเดิม เพิ่มคุณค่าด้วยธัญพืชต่างๆ ข้าวโพด เผือก แห้ว ฟักทอง หรือข้าวบาร์เลย์มาลงในเนื้อขนม เพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการให้กับขนมอร่อยเพิ่มขึ้น รวมทั้งมีสีสันหลากหลายน่ารับประทานอีกด้วย ขนมหยกมณี ขนมไทยโบราณ หารับประทานยากอีกอย่างหนึ่งค่ะ

ที่ร้านข้าวของเชฟวิชิต มุกุระ มีการทำขนมหยกมณีแบบดั้งเดิมและแบบประยุกต์ด้วยการสอดไส้หยกมณีด้วยสตรอเบอร์รี่สดกับไส้เกาลัดขึ้นมาด้วย ทำให้ขนมมีรสชาติอร่อยเพิ่มขึ้น ซึ่งไส้สตรอเบอร์รี่จะออกเปรี้ยวนิดหวานหน่อย ส่วนไส้เกาลัดจะมีรสหวานมัน เวลาเคี้ยวจะกรอบกรุบกริบอร่อยแบบเพิ่มทางเลือก รับรองได้ชิมแล้วไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน เหมาะจะเป็นของฝากคนรักใคร่นับถือหรือญาติผู้ใหญ่ โดยเขาจะแยกมะพร้าวไว้หากซื้อไปฝากสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้ 1 คืน ก่อนนำมารับประทานก็อุ่นให้ร้อนสักแป๊บรสชาติยังคงเดิม

ต้องสั่งจองล่วงหน้า เพราะจะทำแค่เดือนละ 1 ครั้งเท่านั้น ใครที่อยากจะนำไปเป็นของฝากของขวัญ ติดต่อไปที่ www.khaogroup.com ร้านข้าวอยู่ที่กลางซอยสุขุมวิท 51 โทร. 098-829-8878

ถ้าใครอยากจะลองลงมือทำเอง สำหรับสูตรดั้งเดิมที่ไม่มีไส้ก็ทำได้ไม่ยาก เชฟใจดีมีสูตรมาฝากกันด้วย แช่เม็ดสาคูเม็ดเล็กไว้สัก 30 นาที จากนั้นเทน้ำทิ้ง ตั้งกระทะใส่น้ำสะอาด 1 ถ้วย เมื่อน้ำเดือดเอาสาคูที่สะเด็ดน้ำแล้วคนให้เข้ากันสักครู่ใช้ไฟปานกลางคนอย่าให้ติดก้นกระทะ นำน้ำคั้นใบเตยที่เตรียมไว้เติมลงไปคนให้สาคูสุกขึ้นเม็ดใส จะเติมหัวกะทิลงไปสัก 2-3 ช้อน เพื่อเพิ่มความมันกลมกล่อมและช่วยให้
ไม่ติดกระทะ หรี่ไฟใส่น้ำตาลทรายจนละลายใส่เกลือเล็กน้อย หรือจะเติมน้ำผึ้งลงไปสัก 2 ช้อนโต๊ะ จะช่วยให้ขนมมีกลิ่นหอมขึ้นเวลารับประทานจะชุ่มคอ ปิดไฟพักให้เย็น แล้วปั้นเป็นก้อน นำไปคลุกกับมะพร้าวที่ขูดไว้ หากได้ลงมือทำเองคงปลื้มทั้งผู้รับและผู้ให้อย่างแน่นอนค่ะ