posttoday

สโลวาเกียเฉือน3-2เขี่ยอัซซูรีร่วง

24 มิถุนายน 2553

“แชมป์เก่า” อิตาลี โบกมือลาศึกฟุตบอลโลก 2010 แล้ว หลังลงสนามนัดสุดท้ายพ่าย สโลวาเกีย 2-3 รั้งบ๊วยกลุ่มเอฟ

“แชมป์เก่า” อิตาลี โบกมือลาศึกฟุตบอลโลก 2010 แล้ว หลังลงสนามนัดสุดท้ายพ่าย สโลวาเกีย 2-3 รั้งบ๊วยกลุ่มเอฟ

สโลวาเกียเฉือน3-2เขี่ยอัซซูรีร่วง วิตเทก(กลาง) ยิง 2 ประตู

“แชมป์เก่า” อิตาลี ลงสนามนัดสุดท้ายกลุ่มเอฟ พบกับ สโลวาเกีย โดยทีมอัซซูรียังไม่ส่ง อันเดรีย ปิร์โล ลงคุมเกมแดนกลาง เนื่องจากยังไม่ฟิตเต็มร้อย ส่วน สโลวาเกีย ดร็อป วลาดิเมียร์ ไวส์ เป็นสำรองแล้วให้ มิโรสลาฟ สตอช ลงมาลากเลื้อยริมเส้นแทน

สโลวาเกียได้ลุ้นก่อนในนาทีที่ 6 เมื่อได้จังหวะเปิดยาวจากฝั่งซ้าย โรเบิร์ต วิตเทก โขกเสยเข้าเขตโทษให้ มาเร็ก ฮัมซิก ซัดด้วยซ้ายแบบไม่จับแต่โดนไม่เต็มเท้า บอลแป้กออกหลังไป

รูปเกมยังเป็นแข้งสโลวักที่ทำได้ดีกว่า ขณะที่อิตาลีแทบไม่มีจังหวะได้ลุ้นเลย จนกระทั่งนาทีที่ 25 สโลวาเกียก็ได้ประตูขึ้นนำ เมื่อ ฮัมซิก ตัดบอลได้จากการจ่ายพลาดของ ดานิเอเล เด รอสซี ก่อนไหลให้ วิตเทก ซัดเรียดบริเวณกรอบเขตโทษบอลพุ่งเสียบมุมเข้าไปให้สโลวาเกียนำ 1-0

หลังจากขึ้นนำ สโลวาเกียก็ยังเดินเกมรุกได้มากกว่า นาที 35 ซเดโน สเตอร์บา ส่องไกลนอกกรอบให้ เฟเดริโก มาร์เคตติ พุ่งปัดออกหลังไป โดยโอกาสดีที่สุดของอิตาลีคือจังหวะที่ มาร์ติน สเคอร์เทล โขกสกัดลูกเตะมุมเกือบเข้าประตูตัวเองในนาที 41

ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก สโลวาเกียได้เสียวอีกครั้ง เมื่อ วิตเทก พักบอลได้หน้าเขตโทษก่อนกระดกกลับคืนมาให้ คุชกา วอลเลย์เต็มข้อบอลพุ่งหลุดเสาเข้าข้างตาข่าย จบ 45 นาทีแรก สโลวาเกียนำ 1-0

ครึ่งหลัง กุนซือมาร์เชลโล ลิปปี ส่งรวดเดียว 2 คน โดยส่ง คริสเตียน มาจโจ และ ฟาบิโอ กวายาเรลลา ลงมาแทน โดเมนิโก คริสซิโต และ เจนนาโร กัตตูโซ ตามลำดับ ซึ่งเกมของทีมอัซซูรีก็เริ่มดีขึ้นและเกือบได้ตีเสมอได้ในนาที 56 เมื่อ มาจโจ ไหลเข้าเขตโทษให้ ดิ นาตาเล ยิงตามน้ำทันที แต่บอลโดนปลายเท้า พุ่งหลุดกรอบไปเยอะ

หลังจากนั้นนาทีเดียว ลิปปีต้องตัดสินใจส่ง อันเดรีย ปิร์โล ลงมาคุมเกมกลางสนาม และมีโอกาสลุ้นจากลูกยิงไกลของดิ นาตาเล ในนาที 62 แต่บอลไม่ผ่านมือ แจน มูซา ผู้รักษาประตูสโลวาเกีย

นาที 67 อิตาลีชวดตีเสมออย่างน่าเสียดาย เมื่อ เปเป เปิดจากฝั่งขวาเข้าเข้าไปหน้าประตู มูชาออกมาชกบอลเลยไปเสาสอง  กวายาเรลลาได้ยิงเต็มข้อ แต่ยังไปติดขา สเคอร์เทล ที่ยืนคุมเส้นอยู่

เกมเริ่มเปิดแลกกันสนุก แต่กลับกลายเป็นสโลวาเกียที่ได้ประตูที่ 2 ในนาที 73 เมื่อ ฮัมซิก เปิดเรียดจากฝั่งขวาเข้ามาให้ วิตเทก โฉบตัดหน้า คิเอลลินี เข้ามายิงเข้าเสาแรก แข้งสโลวักนำห่างเป็น 2-0

อิตาลีหลังพิงฝาต้องโหมบุกหนัก และมาประสบความสำเร็จในนาทีที่ 81 เมื่อ กวายาเรลลา ทำชิ่งกับ ยาควินตา ได้หลุดเข้าไปยิงในเขตโทษติดมือ มูชา บอลหลุดมาเข้าทาง ดิ นาตาเล วิ่งมาแปโล่งๆให้อิตาลีไล่มาเป็น 1-2

นาที 85 แฟนบอลอัซซูรีได้เฮเก้อ จากจังหวะที่ ดิ นาตาเล ผ่านมาให้ กวายาเรลลา เข้าชาร์จตุงตาข่าย แต่ไลน์แมนยกธงล้ำหน้าเสียก่อน

หลังจากอิตาลีบุกอยู่นาน สโลวาเกียก็มาได้ประตูที่ 3 ก่อนหมดเวลานาทีเดียว จากลูกทุ่มบริเวณริมเส้นฝั่งขวาซึ่ง คามิล โคปูเนก วิ่งสอดเข้ามารับบอลในเขตโทษ ก่อนกระดกบอลข้ามตัว มาร์เคตติ ให้สโลวาเกียนำ 3-1

ช่วงทดเวลาเจ็บนาที 2 อิตาลีมีฮึดไล่มาเป็น 2-3 จากฝีเท้าของ กวายาเรลลา ที่ชิพบอลนอกกรอบเขตโทษข้ามหัว มูชา เข้าประตูไปอย่างเหนือชั้น แต่ก็ทำได้ดีที่สุดเท่านั้นจบเกม สโลวาเกีย เฉือนชนะ อิตาลี สุดมันส์ 3-2 ส่งผลให้ สโลวาเกียเข้ารอบเป็นที่ 2 ของกลุ่ม ส่วนอิตาลีรั้งบ๊วย ตกรอบไปอย่างชอกช้ำ

รายชื่อผู้เล่นทั้ง 2 ทีม
อิตาลี : เฟเดริโก มาร์เคตติ, จิอันลูกา ซามบรอตตา, ฟาบิโอ คันนาวาโร (กัปตันทีม), จอร์โจ คิเอลลินี, โดเมนิโก คริสซิโต (คริสเตียน มาจโจ น.46), เจนนาโร กัตตูโซ (ฟาบิโอ กวายาเรลลา น.46), ดานิเอเล เด รอสซี, ริคคาร์โด มอนโตลิโว (อันเดรีย ปิร์โล น.57), ซิโมเน เปเป, วินเซนโซ ยาควินตา, อันโตนิโอ ดิ นาตาเล

สโลวาเกีย : แจน มูชา, ปีเตอร์ เพคาริก, มาร์ติน สเคอร์เทล, แจน ดูริกา, ราโดสลาฟ ซาบาฟนิก, ยูราช คุชกา, ซเดโน สเตอร์บา (คามิล โคปูเนก น. 86), มาเร็ก ฮัมซิก (กัปตันทีม), โรเบิร์ต วิตเทก (เซบาสเตียน แซสทัก น.90), มิโรสลาฟ สตอช, เอริค เจนดริเซก (มาร์ติน เพตราส น.90)

ผู้ตัดสิน : ฮาเวิร์ด เว็บบ์ (อังกฤษ)


 

ข่าวล่าสุด

ถ่ายทอดสด เชลซี พบ เอฟเวอร์ตัน พรีเมียร์ลีก วันนี้ 13 ธ.ค.68