posttoday

กุ้งถัง กับวัฒนธรรมเปิบมือ

24 เมษายน 2558

“การเปิบ” หรือการกินอาหารด้วยมือนั้นไม่ได้หนีหายไปไหน นับวันยิ่งจะกลับมา เพราะชาวเราทั่วโลกต่างยอมรับกันว่า

โดย...สาโรจน์ มีวงษ์สม ภาพ กุ้งถัง

“การเปิบ” หรือการกินอาหารด้วยมือนั้นไม่ได้หนีหายไปไหน นับวันยิ่งจะกลับมา เพราะชาวเราทั่วโลกต่างยอมรับกันว่า การเปิบอาหารด้วยมือนั้นช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับประทานอาหารไม่น้อย

อย่างที่รู้กันคนไทยเราเมื่ออดีต ไม่ได้ใช้ช้อนและส้อมกินข้าวเหมือนทุกวันนี้ ซึ่งได้รับเอาวัฒนธรรมตะวันตก ที่ได้แพร่หลายเข้ามาในสมัยรัชกาลที่ 4

หากย้อนอดีตกลับไป คนไทยเราจะกินข้าวด้วยการ “เปิบด้วยมือ” ซึ่งเป็นวัฒนธรรมการกินมาแต่โบราณ คือ การนั่งกินข้าวกับพื้น ใช้เสื่อปูลาดบนพื้นบ้าน แล้วนั่งกินข้าวล้อมวงกันอย่างออกรส นอกจากอาหารบางบ้านก็จะมีขันน้ำลอยดอกมะลิ หรือกลีบกุหลาบหอมๆ ตั้งไว้ให้ล้างมือข้างๆ อีกด้วย

กุ้งถัง กับวัฒนธรรมเปิบมือ

 

ไม่เพียงแต่คนไทยเท่านั้นที่เปิบข้าวด้วยมือ พม่า มลายู แขก แอฟริกา จีน อินเดีย ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส หรือกระทั่งคนอเมริกัน ก็ยังนิยมเปิบอาหารด้วยมือกันอยู่

วัฒนธรรมการเปิบด้วยมือที่เห็นเด่นชัด น่าจะเป็นคนอินเดีย ที่จะรับประทานด้วยมือ ไม่ใช้ช้อนส้อม แม้แต่อาหารประเภทน้ำ จำพวกแกงเผ็ด หรือซุบถั่วต่างๆ ก็จะใช้แป้งขนมปัง เช่น นาน จาปาตี หรือโรตี ตักเข้าปากรับประทาน เพราะเชื่อกันว่าการกินอาหารด้วยมือก็ถือว่าเป็นการรับประทานอาหารที่ได้รสชาติดีกว่าการใช้ช้อนส้อม ถ้าเป็นแบบอินเดียดั้งเดิมจริงๆ ที่ปฏิบัติมาแต่โบราณจะใช้ใบตองแทนจาน รับประทานเสร็จก็โยนทิ้งให้สลายตัวในธรรมชาติได้เลย ดังนั้นบนโต๊ะอาหารจะไม่มีอุปกรณ์อื่นๆ ให้นอกเหนือจากถาดอาหาร

กุ้งถัง กับวัฒนธรรมเปิบมือ

 

คนอเมริกันก็เหมือนกัน แม้ว่าจะนิยมกินอาหารแบบใช้ช้อน ใช้ส้อม แต่ก็มีอาหารหลายประเภทที่ต้องใช้มือเปิบ โดยเฉพาะอาหารทะเล ที่จะใช้มือเปิบ ทั้งฉีกหอย ฉีกปู กันอย่างสนุกสนาน และได้อรรถรส

“การเปิบด้วยมือรู้สึกว่ามันเป็นธรรมชาติดี เวลากินซีฟู้ดสนุกที่สุดคือการใช้มือ พอสนุกก็จะอร่อย ยิ่งรสชาติดี ก็จะยิ่งสนุก และก็จะยิ่งถ่ายรูปแล้วก็จะติดใจ”

สาวเสียงใส กิ๊ฟท์-ปิยฉัตร ปิยวัชรวิจิตร ที่ได้แรงบันดาลใจการเปิบอาหารด้วยมือ มาจากเมื่อครั้งที่ไปทำงานที่สหรัฐ แล้วอยู่เที่ยวต่อที่นั่น พร้อมทั้งได้กินอาหารที่ชาวอเมริกันนิยมกินกันอย่างสนุกสนานนั่นคือซีฟู้ด ทำให้รับรู้ว่า การกินอาหารซีฟู้ดของคนอเมริกันนั้นไม่เหมือนกับที่บ้านเราเลย ทุกอย่างจะเสิร์ฟใส่ตะกร้า แล้วก็มาเทกองบนโต๊ะ พร้อมกับมีซอสมาให้ 2-3 อย่าง แล้วก็ใช้มือแกะอาหารกันอย่างสนุกสนาน ที่สำคัญ ยังเป็นร้านที่ได้รับความนิยม รอคิวกัน 3-4 ชั่วโมง กว่าจะได้รับประทานกันที แต่ทุกคนก็ยังรอคิวกันอย่างใจจดใจจ่อ แบบไม่มีล่าถอย

กุ้งถัง กับวัฒนธรรมเปิบมือ

 

“พอดีเราอยากมีธุรกิจส่วนตัวอยู่แล้ว พอไปเห็นวัฒนธรรมการกินซีฟู้ดของที่นั่น ก็เลยเกิดแรงบันดาลใจ เขาใช้มือกินกันอย่างสนุกสนาน และก็รอคิวกันยาวเหยียด พอมาถึงเมืองไทยก็มาหาข้อมูล หาวัตถุดิบ และคิดค้นน้ำซอสที่แปลกใหม่ และเหมาะกับคนไทย ที่สำคัญต้องกินด้วยมือ ไม่ต้องใช้จาน ใช้ช้อน เทลงบนโต๊ะเลย ก็เลยมาเปิดร้านขายซีฟู้ดนี้ขึ้นมา”

จากความตั้งใจ จึงลงขันกับแฟนหนุ่มเปิดร้านขายซีฟู้ดแปลกใหม่มีนามเท่ๆ ว่า “กุ้งถัง” ที่มาจากการเสิร์ฟโดยใช้ถังเสิร์ฟ ซึ่งเริ่มจากนำอาหารทะเล อย่างกุ้งขาว กุ้งแม่น้ำ หอยตลับ และหอยแมลงภู่ ต้มจนสุกแล้วคลุกเคล้ากับซอสสูตรพิเศษที่ทางร้านคิดค้นมา เทลงบนโต๊ะที่รองด้วยกระดาษกันร้อนซึ่งทางร้านสั่งทำพิเศษ พร้อมกับชุดกันเปื้อน และซอสเพิ่มรสชาติอีก 2 อย่าง คือ น้ำจิ้มซีฟู้ดที่คุ้นเคย และการ์ลิกเปปเปอร์ หรือซอสกระเทียมพริกไทย ซึ่งแล้วแต่ทางลูกค้าจะเรียกหา

“คนไทยจะติดกินกับอาหารทะเลกับน้ำจิ้มซีฟู้ด แต่เราเพิ่งมาเปิดร้านจะต้องแปลกใหม่จึงคิดซอสซิกเนเจอร์ของทางร้านขึ้นมาชื่อแบง แบง จะมีส่วนผสมของซอสค่อนข้างเยอะมาก ทั้งเครื่องเทศไทย เครื่องเทศฝรั่ง ผสมผสานกัน เลือกระดับความเผ็ดได้ ปรับให้เข้ากับลิ้นคนไทย เมื่อเจอกุ้งเนื้อหวานๆ จะเข้ากันดีมาก แทนที่เราจะเอากุ้ง หอย ไปทำเมนูอื่น แต่มาที่นี่เราจะได้กินเนื้อซีฟู้ดแบบเต็มๆ เน้นๆ และจะติดใจรสชาติซอสของเราโดยลืมน้ำจิ้มซีฟู้ดกันไปเลยค่ะ” สาวกิ๊ฟท์กล่าวย้ำถึงน้ำซอสแบง แบง ซิกเนเจอร์ของร้านอย่างมั่นใจ

กุ้งถัง กับวัฒนธรรมเปิบมือ

 

ที่ร้านกุ้งถัง เมนูซีฟู้ดที่จะสั่งมีเพียงแค่ 5 เมนู คือ เมนูกุ้งขาว กุ้งแม่น้ำ หอยตลับ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ และชุดรวมคือทุกอย่างจะใส่รวมกันมาในเมนูเดียว ร้านเริ่มเปิดตั้งแต่เวลา 18.00 น. ยาวไปจนถึงเที่ยงคืน ทันทีที่ร้านเปิดลูกค้าก็จะมารอคิวกันเพียบ ทางร้านก็จะจดชื่อลูกค้า และเบอร์โทรศัพท์ของลูกค้าเอาไว้ จากนั้นลูกค้าก็จะไปเดินช็อปปิ้งในตลาดนัดตามสบาย พอถึงคิวทางร้านจะรีบโทรบอกทันที

“วันหนึ่งคิวจะยาวกว่า 60 คิวค่ะ เราจะขายหมดทุกวัน ไม่เหลือวัตถุดิบทิ้งไว้ เพราะเราจะเน้นของสดทุกวัน หมดแล้วหมดเลย ของสดเราก็จะสรรหา อย่างตลาดคลองเตยเป็นตลาดที่มีของทะเลสดมาก และมีคุณภาพ อย่างกุ้งแม่น้ำเราก็จะมีเจ้ารับส่ง ราคาก็จะขึ้นกับราคากุ้งขณะนั้น โดยเราจะเริ่มต้นที่ไซส์ S หรือไซส์เล็ก ราคา 189 บาท แล้วก็ไซส์ใหญ่ที่รวมทุกอย่างก็ 289 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ไม่แพง ซึ่งลูกค้าก็พอใจที่ได้กินอาหารซีฟู้ดที่อร่อยและราคาไม่แพงค่ะ”

ถึงวันนี้ร้านกุ้งถังเปิดขายมาได้เดือนเศษ จากปากต่อปาก ทำให้บรรดาเจ้าของร้านเริ่มคิดถึงสาขาที่ 2 โดยจะเน้นเข้าในตัวเมืองเพื่อรองรับคนในเมืองที่อยากลิ้มลอง และกุ้งถังนี่ล่ะคือหนึ่งในบรรดาอาหารยุคใหม่ที่ยังรักวัฒนธรรมการเปิบด้วยมือให้ยังคงอยู่ต่อไป

ร้านกุ้งถัง ตลาดนัดเลียบทางด่วนรามอินทรา เปิดให้ลิ้มลองทุกวันตั้งแต่เวลา 18.00-24.00 น. โทร. 08-6761-5558 และ 08-5555-3058

ข่าวล่าสุด

จากดราม่า ‘น้องหมากินข้าวร่วมโต๊ะในร้าน’ สู่การส่องกฎหมาย Pet Friendly ของ ‘เกาหลีใต้’