อกหักหน้าไหนจะกดไลค์ได้เท่าหน้าร้อน

โดย...ดร.เพชร บูรณ์สิริจรุงรัฐ

ลุมายังหน้าร้อน มันร้อนเสียจนอยากจะไปนอนเปลือยแช่ในถังน้ำแข็ง หากไม่มีใครเข้ามาเกาะแกะแวะเวียนในชีวิต

จะใครที่ไหนกันเล่าถ้าไม่ใช่แม่เพื่อนซี้สมัยผูกโบใต้คอซอง จู่ๆ เธอก็ผลักลูกชายวัยฮอร์โมนมานั่งแชตคอมไม่ยอมเปิดหน้า ปรึกษาปัญหาหัวใจ นัยว่าหนุ่มน้อยคนนี้กำลังอกหัก จนไม่เป็นอันกินอันนอน น้ำหนักลดไปหลายกิโล

“ความรัก” สำหรับหลายๆ คนอาจเห็นเป็นเรื่องเล็ก แต่สำหรับผู้คนจำนวนมาก “ความรัก” มักเป็นเรื่องใหญ่ มีคนอีกเป็นจำนวนไม่น้อยที่เติมเต็มกำลังใจให้ตัวเองด้วยความรัก

แต่ถ้าความรักที่เรามีให้เขาแล้วเขามีให้เรามันพร่อง มันไม่เป็นท่าเป็นทางมันอ่อนแอแพ้พ่าย  มันดึงดูดเอาทรัพยากรทางอารมณ์ให้เป๋ไป๋หรือล้มเหลว แล้วอยากแก้ปัญหานั้นให้ลุล่วง ได้ผลชะงัดเหมือนเป็นไข้หนักแล้วได้ยาวิเศษมารักษาให้หายสนิทภายในเวลาอันรวดเร็ว

สูจงล้อมวงเข้ามาฟัง!!!

ตั้งแต่มวลมนุษยชาติถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ ยังไม่เคยมีใครเสียชีวิตด้วยการ “อกหัก” อาการอกหักเป็นอาการทางใจ ไม่มีผลกระทบต่อฐานานุรูปหรือร่างกายคนเรา

ขอให้คิดเสียว่า นี่ล่ะคือสิ่งที่ชาตินี้ต้องลองสักครั้งก่อนสิ้นลมหายใจ ถือเป็นรสชาติอันวิเศษเลิศล้ำของชีวิต ใครไม่เคยเจอถือว่ายังทำบททดสอบของชีวิตไม่ครบ

ถ้าอกหัก...ให้คิดว่าการอกหักนั้นคือการป่วยอย่างหนึ่ง จงดูแลตัวเองให้ดีๆ กินอาหารดีๆ พักผ่อนให้มากๆ และท่องคาถา ยอมรับๆๆ แม้ต้องเป็นโรคน้ำตาซินโดรมก็ต้องปล่อยมันไป มีข้อควรระวังหลักๆ ในช่วงอกหัก คือ

ระวังเรื่องหกสิบวันอันตราย ในหกสิบวันนี้จงอย่าได้สนใจเรื่องราวของเขา ปิดกั้นให้หมด ข่าวสาร มือถือ อีเมล ไลน์ เฟซบุ๊ก เพื่อน ฯลฯ แล้วออกไปดูต้นไม้ ช็อปปิ้ง ตัดผม เปลี่ยนอะไรใหม่ๆ คิดให้ได้ว่า “อยู่คนเดียวสบายที่สุด”

ต่อมาให้พยายามกำจัดความทรงจำ รูปในกระเป๋าตังค์ซึ่งเคยเป็นรูปเคียงคู่กับเขาให้เอารูปหมาน่ารักๆ ใส่แทน อะไรก็ตามที่จะทำให้เกิดความทรงจำสะเทือนสะท้านระรานจิต จงลบมันออกให้หมด ทุกสิ่งทุกอย่างไม่เอาเราไม่สน

อีกเรื่องที่สำคัญคือต้อง “ตัดใจ” ใช้จินตนาการสูงสุดใช้ปังตอคมๆ สับความสัมพันธ์แห่งรักให้ขาดกระเด็น อาจเรียกว่า “หักดิบ” อย่าให้เหลือแม้เยื่อใย ใครที่ไม่กล้าตัดขาด อาจจินตนาการด้วยการใช้คัตเตอร์คมๆ กรีดออกไปจากใจ แล้วค่อยๆ รักษาแผลสดให้หายสนิท

เมื่อทุกอย่างประสบความสำเร็จแล้ว เราจะกลายเป็นคนใหม่ที่เข้มแข็งและมีความมั่นใจ เรื่องราวประสบการณ์ในเรื่องอกหักจะตกผลึก ส่งผลให้มีพลัง ที่สำคัญจะมีภูมิคุ้มกันในรักครั้งต่อไป เอาล่ะร้อนนี้คงจะเป็นร้อนที่กดไลค์ให้สำหรับเรื่องอกหักเสียที

ว่าแล้วร้อนนี้เรามากดไลค์ให้ชีวิตเราดีกว่า

เพื่อนๆ ที่รัก...ธรรมชาติให้เราเรียนรู้วิธีการใช้ชีวิตด้วยราคาแสนถูก แต่มอบของใช้ด้วยคุณภาพที่ยอดเยี่ยม  สูงกว่าต้นทุนที่เราลงไปมาก

ผู้ที่สามารถมองไปข้างหน้าด้วยความพึงพอใจและมองไปข้างหลังด้วยความสุข มองวันนี้ด้วยความหวัง ด้วยพลังอันล้นเหลือที่ปรากฏขึ้นในใจ ชีวิตต้องก้าวไปข้างหน้า

อย่าท้อถอยทำใจให้ไร้อคติ หรือมีอคติน้อยที่สุดเสียก่อน แล้วจะมองเห็นทางสว่างของชีวิต

จงจำไว้ว่า...ว่าวลอยสูงขึ้นได้เพราะเหตุที่ต้านลม ถ้าหมดลมว่าวจะตก มนุษย์เราจะขึ้นสูงได้ก็เพราะการต่อต้านอุปสรรค ชีวิตไม่เคยผ่านอุปสรรคจะหาความก้าวหน้าไม่ได้เป็นอันขาด ฟ้าเบื้องบนย่อมส่งโจทย์ที่ยากที่สุดมาให้คนเก่งทำเสมอ เพราะเราเป็นคนที่เก่งจริงเราจึงก้าวผ่านทุกอย่างไม่ว่าสุขหรือทุกข์ไปได้

ทีนี้ยกมือขึ้นพร้อมๆ กัน แล้วตะโกน...ไชโยววว...โอ้วเย้!!!

ดร.เพชร นามปากกาของ ดร.เพชรยุพา บูรณ์สิริจรุงรัฐ อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน “ความฉลาดทางสังคม” เป็นนักพูดฝีปากกล้า นักเขียนแนวให้กำลังใจและความรู้คู่ความบันเทิง ซึ่งติดอันดับหนังสือขายดีมานับครั้งไม่ถ้วน เป็นเจ้าของสำนักพิมพ์ 3 สำนักพิมพ์ เป็นผู้ก่อตั้งสถาบันปัญญ์สุข...เพื่อแบ่งปันความสุขทางปัญญาโดยเฉพาะกับกลุ่มวัยรุ่น...เพียงเขียนชื่อ ดร.เพชรยุพา บูรณ์สิริจรุงรัฐ เข้าไปใน google ก็จะพบกับเธอ